วันศุกร์ ที่ 21 พฤศจิกายน พ.ศ. 2568
“บุคคลแนวหน้า ใน หนังสือพิมพ์แนวหน้า/แนวหน้าออนไลน์ สื่ออุดมการณ์มั่นคง ตรงไป ตรงมา” ฉบับนี้ “ไม้หน้าสาม ย่อโลกทัศน์ที่กว้างให้แคบ ขยายโลกทัศน์ที่แคบให้กว้าง ทำความจริงให้ปรากฏให้สังคมรู้เท่าทันเล่ห์ ทันเหลี่ยมนักการเมืองเสียชาติเกิด นักเลือกตั้งชังชาติ ส่ำสัตว์สัมภเวสีติ่งแดงด้อมส้มอุปกรณ์การเกษตรผู้บอดมืดอย่างเท่าเทียม”...
nn วันนี้สิ่งที่รัฐบาลเป็ดง่อย ของ “หนูน้อยถุงเท้าหลากสี/เศรษฐา ทวีสิน” ต้องเร่งดำเนินการคือสิ่งที่เคยแนะนำกับ “ลุงตู่ รัฐบาลรปภ.โง่” นั่นคือวิกฤตศรัทธาประชาชนที่วันนี้เจอกับตนเองจนง่อยเปลี้ยเสียขาไปต่อแทบไม่ได้ ถ้ารัฐบาลแข็งกร้าวกระชากศรัทธาและความมั่นใจกลับมายืนหนึ่งค่าย อนุรักษนิยมและอำนาจนิยม เชิดฉิ่งกับฝ่ายทุนนิยม อย่าง “ก้าวไกล” ต้องขจัดครหาบริหารประเทศ ใต้อุ้งโจรอุบาทว์โจรกาลีทุจริตคอร์รัปชั่น ประเทศประชาชน นำกระบวนการยุติธรรมไทยให้กลับมามีศักดิ์และสิทธิ์ดังเดิมต้องไม่มีความเหลื่อมล้ำในการบังคับใช้กฎหมายเกิดขึ้น...
nn เลิกพฤติกรรมจำเจ สำรอกสำรากกล่าวหาอดีต ยอมรับข้อเท็จจริง “วิกฤต”ที่เห่าหอนคือวิกฤตศรัทธารัฐบาล อย่างที่ “เศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.)” ตอบคำถามสำนักข่าวรอยเตอร์ ว่า “เศรษฐกิจไทยกำลังฟื้นตัว เพียงแต่ช้ากว่าที่คาดการณ์ไว้ ซึ่งจะเห็นได้ว่าตัวเลขประมาณการเศรษฐกิจของไทยในปีนี้ที่ต่ำกว่าคาดการณ์ แต่ก็ไม่ได้บ่งชี้ว่าเศรษฐกิจไทยอยู่ในภาวะวิกฤต” ยังจะข้องใจประเด็นใดอีก อ่านภาษาไทยไม่แตกฉานอ่านซ้ำๆ แล้วตั้งสติคิดพิเคราะห์ หรือจะอ่านหน้าเศรษฐกิจนสพ.แนวหน้าฉบับเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมาปัญญาอาจจะเกิดก็เป็นได้... “เผ่าภูมิ โรจนสกุล เลขานุการรมว.คลัง และรองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย” หนึ่งในบุคคลสำคัญที่ผลักดันโครงการเติมเงินผ่านกระเป๋าเงินดิจิทัล 10,000 บาท ที่ตั้งคำถามชี้นำอีกคนที่สมควรอ่านซ้ำแล้วซ้ำเล่าเรียกสามัญสำนึกกลับมาตรองสิ่งที่เผยแพร่เป็นข้อเขียนหน้าเศรษฐกิจแนวหน้าหูตาสว่างขึ้นเชื่อเถอะ!!...
nn นิยามของคำว่า “วิกฤตเศรษฐกิจ” มันจะเข้าข่ายหรือไม่อย่างไร จะตลบตะแลงตอแหลแค่ไหน วิกฤตหรือไม่นั้นมันบ่งชี้ด้วยตัวเลข อาทิ “การอ่อนค่ามากและรวดเร็วของค่าเงินบาทภาคอุตสาหกรรมอสังหาริมทรัพย์ตกต่ำหยุดชะงัก อัตราการว่างงานสูงขึ้น เกิดอัตราเงินเฟ้อและภาวะเงินฝืด หนี้รัฐเพิ่มขึ้นมหาศาล, ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยออกอาการผันผวน ดัชนีหุ้นตกรูดนักลงทุนต่างชาติแห่เทหุ้นทิ้งเหมือนในขณะนี้2 สัปดาห์ มีแรงเทขายแล้วกว่า 2.3 หมื่นล้านบาท”...
nn ถ้าลักษณะทางกายภาพของเศรษฐกิจประเทศ “วิกฤต” อย่างความเชื่องมงายของรัฐบาล ไม่นานดัชนีหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ ค่าบาทอ่อนจนไร้เสถียรภาพ อย่างเงินจ๊าด/เมียนมาเงินกีบ/ลาว เงินดอง/เวียดนาม แบงก์พาณิชย์ทยอยล้มเหมือนวิกฤตต้มยำกุ้งปี 2540 ต้นกำเนิดลอยตัวค่าบาท ขณะที่นัก “ธนกิจการเมือง” บางคนกอบโกยผลประโยชน์จากค่าเงินบาทลอยตัวมหาศาลรับรองได้ นักลงทุนชาติคงใช้ไม้เขี่ยให้พ้นทิศทางอย่างแน่นอนคณะรัฐมนตรีหลายคนในรัฐบาลนี้ไม่เคยร่วมสังฆกรรมกับ “รัฐบาลจ๊าดง่าว–ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร” สมองจึงน่าจะแจ่มแจ๋วสดใส เพราะไม่ได้บริโภคแกลบรำจนล้นสมอง โดยเฉพาะ “หนูน้อยถุงเท้าหลากสี–เศรษฐา ทวีสิน” อย่าบรรจุแกลบในสมองจนเกินพอดีแยกแยะโง่เขลา/ฉลาดออกจากกันไม่ได้ ประเทศชาติจักเสียโอกาส...
nn ที่สุด “พิธาคิโอ้–พิธาลิ้มเจริญรัตน์” ก็พ้นข้อกล่าวหาถือหุ้นสื่อ/ไอทีวี ตามคำวินิจฉัยตุลาการศาลรัฐธรรมนูญเสียงข้างมาก 8 ต่อ 1 จึงไม่เป็นเหตุให้พ้นสมาชิกภาพความเป็นสส.ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 101 (6) ประกอบมาตรา 98 อนุมาตรา 3 แต่ยังไม่พ้นกรรมจากการออกนโยบายหาเสียงแก้ไข/ยกเลิกมาตรา 112 เข้าข่ายล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขที่ศาลรัฐธรรมนูญนัดอ่านคำพิพากษาในวันพุธที่ 31 มกราคม 2567 นี้... ถือว่ายังมีโอกาสอีกเฮือกหากเกิดอุบัติเหตุทางการเมือง เพราะตำแหน่งแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคก้าวไกลยังอยู่ในร่าง ตราบนี้ก็ทำหน้าที่ นายกฯทิพย์,นายกฯรถแห่ไปพลางจนกว่าความจริงจะปรากฏ เล่าสู่กันฟังว่า “บิ๊กต๋อม–ชัยธวัชตุลาธน” หัวหน้าพรรคก้าวไกล และผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎรประกาศทันทีศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยตามมติเสียงข้างมาก 8 ต่อ 1 ให้พิธาพ้นข้อกล่าวหาตามมาตรา 101 (6) และมาตรา 98 อนุมาตรา 3 ว่า “ไม่ติดยึดตำแหน่ง”พร้อมคืนเก้าอี้ หัวหน้าพรรคและผู้นำฝ่ายค้านให้ “พิธาคิโอ้”...
nn ดูผิวเผินเหมือนจะขยันสมราคาปลอกคอที่สวมใส่ ท่านผู้ทรงเกียรติจากพรรคก้าวไกล “ณัฐวุฒิ บัวประทุม สส.ระบบบัญชีรายชื่อ” เสนอข้อหารือต่อ “นายวันมูหะมัดนอร์มะทา” ประธานสภาผู้แทนราษฎรและประธานรัฐสภา กลางที่ประชุมสภาฯเมื่อวันพุธที่ผ่านมา โดยเสนอให้ เพิ่มการประชุมสภาในวันที่ 26 มกราคม 2567 อีกวัน เนื่องจากมี ญัตติค้างในวาระกว่า 40 เรื่อง, มีร่างพระราชบัญญัติรอการพิจารณาวาระแรก จำนวน 23 เรื่อง แต่จากปฏิทินการทำงานพบว่า สภาสามารถจัดการประชุมได้อีก 6 สัปดาห์เท่านั้น เพราะที่เหลือจะมีการประชุมรัฐสภา เพื่อพิจารณาร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ และการเปิดอภิปรายทั่วไปของสมาชิกวุฒิสภาเพื่อให้รัฐบาลชี้แจง ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 153...
nn ทิ้งท้าย ฉบับนี้ จับตาเก้าอี้นายกรัฐมนตรี หลัง “พิธาคิโอ้-พิธา ลิ้มเจริญรัตน์” ออกอาการ “กระดี่ได้น้ำ”รุกฆาตทางการเมืองกับ “โครงการเติมเงินผ่านกระเป๋าเงินดิจิทัล 10,000 บาท”ที่นิดหนึ่งเลือกทางเดินออกพระราชบัญญัติเงินกู้หลังไร้สิ้นสติปัญญาหาเงินมาดำเนินโครงการตามนโยบายหาเสียงเลือกตั้ง ถ้ากฎหมายไม่ผ่านรัฐสภา “เก้าอี้นายกรัฐมนตรีจะมาเริ่มต้นนับหนึ่ง” ใหม่ “แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี” ที่ทรงอิทธิพลในการรวบรวมเสียงจัดตั้งรัฐบาลมิใช่มีแค่ “อุ๊งอิ๊ง–แพทองธาร ชินวัตร จากพรรคเพื่อไทย, “พิธาคิโอ้–พิธา ลิ้มเจริญรัตน์” จากพรรคก้าวไกล เท่านั้น ยังมีผู้ปิดทองหลังพระอีกสองคนสองป.ที่ประชาชนกำลังคิดถึงสุดหัวใจเร่งวันเร่งคืนให้กลับมานั่นคือ “ลุงตู่–พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา อดีตนายกรัฐมนตรีคนที่ 29และองคมนตรี จากพรรครวมไทยสร้างชาติ” และ “ลุงป้อม–พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ จากพรรคพลังประชารัฐ” 3 ขั้ว 3 แนวทางที่ไม่สามารถดีลการเมืองร่วมกันได้อีก... ไม่แน่นะ สังคมไทยอาจจะได้ “ลุงตู่–พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา”รีเทิร์นกลับมานั่งเก้าอี้นายกรัฐมนตรีตามคำเรียกร้องอีกครั้ง ใครจะรู้ต่อแต่นี้...nn
ไม้หน้าสาม

'เจ้าท่าตราด'คุมเข้ม! หลังเรือโดยสารท่องเที่ยวล่ม เหตุคลื่นลมแรง
ตำรวจทางหลวงล็อกตัว‘เป็ด บ้านหมอ’คารถไฟ หนีคดี‘รับซื้อของโจร’พระพุทธรูปเก่า
หาดใหญ่ท่วมฉับพลัน! ‘บ้านปลักธงจมน้ำ’ ทม.เตรียมรับมือตลอด 24 ชม.
น้ำท่วมพัทลุง เด็กชายวัย12จมน้ำเสียชีวิตแล้ว ประกาศพื้นที่ภัยพิบัติ3อำเภอ
‘มาริษ’แนะดึงจีนร่วมกดดันกัมพูชา สื่อสารสหรัฐฯโดยตรง ไม่ผ่านคนกลาง

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี