กรณี เฒ่าอั้งม้อชาวสวิส ผู้มีหน้าตายู่ยี่ผิดฝรั่ง โดยมีเมียไทยและประกอบธุรกิจอยู่ในเกาะภูเก็ต ได้ก่อคดีสุดห้าว ด้วยการรำคาราเต้ “เตะเข้าที่กลางหลังแพทย์หญิงไทยรายหนึ่ง” ขณะไปนั่งพักผ่อนที่บันไดคอนกรีตริมหาด “ยามู” จนได้รับบาดเจ็บ โดยฝรั่งเท้าไวได้กล่าวหาว่า “หมอบังอาจรุกล้ำวิลล่าที่ตนเช่า”

หลังจากแพทย์หญิงได้เข้าแจ้งความกับตำรวจให้ดำเนินคดีกับ “แรมโบ้สวิส” ตำรวจได้เรียกคู่กรณีมาสอบปากคำ โดยมีสื่อเฮโลไปทำข่าวอย่างมากมาย

เฒ่าเท้าไวมาโรงพักพร้อมกับเมียไทยร่างยักษ์ไตตัน โดย“แหม่มปลาร้า” สุดปากไว ได้พ่นภาษาสุดรุนแรงไม่แพ้ภูเขาไฟพ่นทั้งแมกมาและลาวา จนสื่อถ่ายคลิปเผยแพร่เป็นข่าวไปทั่วประเทศ

ปรากฏว่า คดีจิ๊บ จิ๊บ กลับบานปลายเป็น “ข่าวใหญ่” ยิ่งกว่าวาทกรรม “เด็ดดอกหญ้าสะเทือนถึงดวงดาว” เพราะเกิดรายการ “คาราเต้เฒ่าเท้าไว สะเทือนถึงมาเฟียอั้งม้อทั่วภูเก็ตและสะเทือนถึงตำรวจไทยขายวิญญาณให้แก่ขาใหญ่”

“สะเทือน” เพราะชาวภูเก็ตได้ “เฮโล” ออกมา “ขับไล่ฝรั่งเฒ่าหน้าผีตีนไว” รายนี้ให้ออกไปจากประเทศไทย พร้อมกับเรียกร้องให้มีการตรวจสอบ รีสอร์ทหรูทั้งหลายก่อสร้างรุกล้ำชายหาดยามูที่เป็นหาดสาธารณะหรือไม่? และเรียกร้องให้รัฐบาลจัดการกับ“มาเฟียฝรั่ง” อย่างเอาจริง รวมถึงเช็คบิลข้าราชการและตำรวจที่รับใช้มาเฟียอย่างเสียศักดิ์ศรี

ผลพวงจาก “เด็ดดอกหญ้าสะเทือนถึงดาวดาว” หรือ “คาราเต้เฒ่าเท้าไว สะเทือนถึงมาเฟียทั่วภูเก็ต” ก็ได้ปรากฏ“ฤทธิ์เดช” ในทันทีทันใด ดังนี้

กรณี “ฝรั่งเฒ่าเท้าโหด” อายุวีซ่าจะหมดลงในวันที่ 13 มีนาคมนี้ ตม.เสนอให้ถอนวีซ่าและขับไล่ออกจากประเทศไทย

กรณี “กิจการของผู้เฒ่า” ผู้ว่าฯ ได้สั่งให้สอบธุรกิจและมูลนิธิปางช้างของ “เฒ่าแรมโบ้” หากไม่ถูกต้องตามกฎหมายให้เพิกถอนทันที

กรณี “รีสอร์ทรุกล้ำที่สาธารณะ” ให้ทางเทศบาลตำบลป่าคลอกตรวจสอบโดยด่วนแล้วสั่งรื้อถอนภายใน 30 วัน

ในขณะที่ “แก๊งมาเฟียต่างชาติ” ทั้งหลาย คงจะหนาวๆ ร้อนๆ กันทั่วเกาะ เพราะ “นักการเมืองระดับชาติที่หิวแสง” ต่างเฮโลลงพื้นที่หาหลักฐานเพื่อเล่นงานทั้งมาเฟียและตำรวจที่รับใช้มาเฟียกันอย่างจ้าละหวั่น

นิทาน “ลุงป๋อสอนหนูหล่อ” เรื่องนี้ สอนให้รู้ว่า “อั้งม้อสติแตกหนึ่งราย ไปเท้าไวเตะหมออย่างสุดกร่าง พลอยทำให้มาเฟียฝรั่งเดือดร้อนทั้งเกาะไปด้วยอย่างสุดซวย”

ลุงป๋อจึงสอนหนูหล่อว่า “ทีหลังอย่าทำ ทีหลังอย่าทำ”

กมลศักดิ์  ตั้งธรรมนิยม