ในช่วงสัปดาห์นี้เห็นจะมีแต่เรื่องย้าย 2 บิ๊กตำรวจเข้ามาช่วยงานสำนักนายกรัฐมนตรี ว่าเป็นข่าวดังข่าวใหญ่ที่สุดของประเทศ และเป็นข่าวที่ส่งผลกระทบทางการเมืองโดยทั่วไป ก่อให้เกิดการวิเคราะห์ วิจารณ์ วิจัยกันไปต่างๆ นานา
เมื่อเรื่องนี้เป็นเรื่องที่สนใจกันมากมายและอาจส่งผลอีกยาวไกล จึงสมควรพรรณนาเรื่องนี้โดยภาพรวมสักครั้งหนึ่ง เพื่อเป็นปัญญาอุทาหรณ์ให้แก่คนทั้งหลายไว้
เรื่องนี้เป็นเรื่องของอำนาจ ซึ่งประกอบด้วยสามส่วน คือ การช่วงชิงอำนาจ การใช้อำนาจ และการรักษาอำนาจ ซึ่งเป็นที่ปรารถนาของเวไนยสัตว์ทั้งหลาย และเป็นเรื่องที่ทำให้คนได้ดีเป็นวีรบุรุษหรือเป็นทรชนมาแล้วมากต่อมาก
เพราะเหตุนี้พระผู้มีพระภาคเจ้าจึงตรัสว่า อำนาจเป็นของหวาน เป็นของหอม แต่ก็เป็นของร้อน และมีความร้อนจัดที่เทียบได้กับไฟบรรลัยกัลป์ ที่สามารถล้างผลาญผู้ถืออำนาจนั้นให้วายวอดเป็นจุณไปได้ ดังนั้น เพื่อป้องกันไม่ให้ผู้มีอำนาจหรือถืออำนาจต้องพินาศวายวอดไปจึงทรงเตือนให้บรรดาผู้มีอำนาจทั้งหลายได้ตระหนักสังวรไว้อยู่เสมอ ว่าบทคาถาที่จะทำให้อำนาจนั้นผ่อนคลายร้อนกลายเป็นเย็น และบังเกิดประโยชน์สุขแก่ตนและผู้อื่นได้ก็ด้วยการใช้อำนาจให้เป็นไปโดยธรรม เป็นไปโดยเมตตา เป็นไปเพื่อประโยชน์และความสุขของผู้อื่น
ถ้าอำนาจนั้นเป็นอำนาจเกี่ยวกับมหาชน การใช้อำนาจนั้นก็ต้องเป็นไปเพื่อประโยชน์และความสุขของมหาชน ซึ่งได้ตั้งเป็นบทคาถาเป็นภาษาบาลีไว้ และแปลเป็นภาษาไทยดังที่คนไทยรู้จักกันตามที่มีประกาศพระปฐมบรมราชโองการในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 ว่า
“เราจะครองแผ่นดินโดยธรรม เพื่อประโยชน์สุขแห่งมหาชนชาวสยาม”
พระบรมราชโองการนี้ผ่านวันเวลามาเนิ่นนานเต็มทีแล้ว แต่ก็ยังคงดำรงไว้ซึ่งความศักดิ์สิทธิ์ ยังคงไว้ซึ่งความกังวานกึกก้องอยู่ในหัวใจผู้ใฝ่ธรรมทั้งหลายว่าพระพุทธวจนอันจริงแท้ที่พระมหาราชเจ้าพระองค์นั้นอัญเชิญมาเป็นพระปฐมบรมราชโองการในการครองราชย์ของพระองค์นั้น แม้พระองค์ท่านจะสวรรคตไปแล้วร่วม 7 ปี แต่พระปฐมบรมราชโองการและผลจากพระราชจริยาวัตรทั้งหลายที่พระองค์ทรงบำเพ็ญเพียรตามพระบรมราชโองการนั้นยังตรึงตราจิตใจผู้คนให้ถวิลหารำลึกถึงพระคุณของพระองค์ท่านไม่มีวันลืมเลือน
ตลอดพระชนม์ชีพทรงบำเพ็ญพระราชกรณียกิจมากหลาย ซึ่งก็คือการใช้อำนาจแห่งสมเด็จพระมหากษัตริย์ “โดยธรรม” และเป็นไปเพื่อ “ประโยชน์สุขแห่งมหาชนชาวสยาม” ซึ่งเป็นแบบอย่างของการใช้อำนาจ การรักษาอำนาจ ตามที่พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงตรัสสอนทุกประการ อันควรที่คนทั้งหลายที่ข้องแวะอยู่กับอำนาจจะได้ร่ำเรียนถือเอาเป็นแบบอย่าง
เพราะอำนาจนั้นเมื่อใช้ไปเพื่อประโยชน์สุขแห่งมหาชนก็ย่อมเป็นที่ตั้งแห่งความรัก ความเคารพ ความเชื่อถือ ความศรัทธาของมหาชนที่ต้องการให้การใช้อำนาจมีลักษณะเช่นนั้นต่อไปยาวนานที่สุดเท่าที่จะนานได้เพราะเป็นการใช้อำนาจเพื่อปวงชน นี่คือการใช้อำนาจตามที่พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสสอนไว้ว่าต้องเป็นไปในลักษณะอย่างนี้
ซึ่งจะทำให้การใช้อำนาจนั้นสงบเย็นเป็นปกติสุข เป็นสุขสบายแก่ผู้ใช้อำนาจเองด้วย ผู้อยู่ใกล้แวดล้อมด้วย และผู้รับผลจากการใช้อำนาจนั้นด้วย
ในทางตรงกันข้าม ถ้าการใช้อำนาจไม่เป็นไปเพื่อประโยชน์สุขแห่งมหาชน แต่เป็นไปเพื่อประโยชน์ตนและพวกพ้อง ในที่สุดความจริงก็จะปรากฏให้เลื่องชื่อลือชาออกไปจนกลายเป็นเรื่องซุบซิบนินทาที่น่าเหยียดหยามจนบังเกิดเป็นความร้อนรุ่มขึ้นในจิตใจ คือความกังวล ความวิตกและความทุกข์ตามขนาดของการกระทำนั้น
ถ้าการใช้อำนาจเป็นไปเพื่อประโยชน์ตนและพวกพ้องไปถึงขั้นระดับที่กระทบต่อผู้อื่น เบียดเบียนผู้อื่น ทั้งผลประโยชน์ในด้านหน้าที่การงาน ชื่อเสียงเกียรติคุณ ทรัพย์สินและผลประโยชน์ทั้งหลายแล้ว ความไม่พอใจ ความต่อต้าน ความต่อสู้ และความอาฆาตแค้นที่จะล้างผลาญตอบแทนก็ย่อมบังเกิดขึ้นเป็นธรรมดา และจะค่อยๆ สุมกลายเป็นไฟที่รุนแรงขึ้นเรื่อยๆ
จนในที่สุดไฟนั้นก็จะเผาผลาญผู้ใช้อำนาจจนวินาศไปในระดับต่างๆ ตามขนาดและระดับของกรรมที่ได้กระทำไว้
เรื่องราวในสำนักงานตำรวจแห่งชาติตั้งแต่การแต่งตั้งผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติคนที่ 14 ก็เป็นที่รู้กันทั่วไปว่าไม่ได้เป็นไปตามปกติ คือไม่ได้เป็นไปโดยลำดับและความอาวุโสตามธรรมเนียมที่ประพฤติปฏิบัติกันมา จนเป็นที่กล่าวขวัญนินทากันทั่วไปทั้งในสำนักงานตำรวจแห่งชาติและประชาชนโดยทั่วไป
แต่ในที่สุดก็มีการแต่งตั้งผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติคนที่ 14 จนได้ ทำให้บรรดาผู้ที่อยู่ในคิวที่จะได้รับการแต่งตั้งก่อนหน้าตกกระป๋องไปตามๆ กัน นั่นก็เป็นความร้อนหรือไฟที่สุมไหม้อยู่แล้ว ถ้าหากว่าเป็นชาวพุทธที่รู้พระธรรมคำสอนแห่งองค์พระบรมศาสดาก็สามารถใช้ของวิเศษหรือคาถาวิเศษที่ทรงประทานไว้ให้ในการรักษาอำนาจให้จีรังยั่งยืนต่อไปได้
แต่ด้วยสาเหตุอันใดไม่ปรากฏ จึงแทนที่จะเป็นดังพระพุทธวจนที่ตรัสสอนไว้ การณ์จึงกลับกลายเป็นตรงกันข้าม มีข่าวคราวการเบียดเบียนกันในทุกรูปแบบ และเป็นธรรมดาของเหล่าสัตว์ เมื่อถูกข่มเหงมากเข้าก็ย่อมแว้งกัดเป็นธรรมดา ในที่สุดจึงบังเกิดเป็นข่าวใหญ่ดังที่เห็นกัน
ดังนั้นเราทั้งหลายจึงควรตั้งใจใฝ่ศึกษาในพระธรรมคำสอนแห่งองค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้านั้นเถิดก็จะบังเกิดความสงบร่มเย็นทั้งแก่ตนและครอบครัว ตลอดจนบริษัทบริวารทั้งหลายด้วย
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี