วันพฤหัสบดี ที่ 11 ธันวาคม พ.ศ. 2568
ประเด็นว่าจะเปิดกาสิโนถูกกฎหมายในประเทศไทย มีการหยิบยกขึ้นมาพูดแทบทุกยุครัฐบาล
แต่มา พ.ศ.นี้ ดูเหมือนทั้งฝ่ายสภาผู้แทนราษฎร และฝ่ายรัฐบาลดูท่าจะเอาจริงเอาจัง มากกว่าทุกยุค
1. หลังจากสภาผู้แทนราษฎร มีมติรับทราบรายงานผลการพิจารณาศึกษา เรื่อง การเปิดสถานบันเทิงครบวงจร (ENTERTAINMENT COMPLEX) เพื่อแก้ปัญหาการพนันผิดกฎหมายและเพื่อประโยชน์ด้านเศรษฐกิจของประเทศ ที่นำเสนอโดย “คณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาการเปิดสถานบันเทิงครบวงจร เพื่อแก้ปัญหาการพนันผิดกฎหมายและเพื่อประโยชน์ด้านเศรษฐกิจของประเทศ สภาผู้แทนราษฎร”
อันมีนายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รมช.คลัง จากพรรคเพื่อไทย เป็นประธานกมธ.ฯ
ปรากฏข้อเสนอให้มีการเปิดกาสิโนอย่างถูกกฎหมายรวมอยู่ใน ENTERTAINMENT COMPLEX โดยรายงานดังกล่าว มีการนำเสนอร่างพ.ร.บ.
การประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจรฯ ที่ให้มีเรื่องของการเปิดกาสิโนอยู่ด้วย
ในที่ประชุมสภาฯ ได้มีสส.ทั้งฝ่ายรัฐบาล-ฝ่ายค้านอภิปรายอย่างกว้างขวาง โดยมีเสียงอภิปรายสนับสนุนให้มีการเปิดกาสิโนอย่างถูกกฎหมายจำนวนมาก
ล่าสุด เมื่อวันที่ 9 เมษายน 2567 ประชุมคณะรัฐมนตรี มีมติรับทราบรายงานผลการพิจารณาศึกษา เรื่อง ศึกษาการเปิดสถานบันเทิงครบวงจร (Entertainment Complex) ดังกล่าว
เรียกว่า รับกันเป็นปี่-เป็นขลุ่ย
2. ทีมโฆษกรัฐบาลได้นำเสนอรายงานฯ ในภาพรวม เปิดเผยเนื้อหาในประเด็นสำคัญ ดังนี้
“...คณะกรรมาธิการวิสามัญ ได้พิจารณารายงานผลการพิจารณาศึกษา เรื่อง ศึกษาการเปิดสถานบันเทิงครบวงจร (Entertainment Complex) เพื่อแก้ปัญหาการพนันผิดกฎหมายและเพื่อประโยชน์ด้านเศรษฐกิจของประเทศ
เนื่องจากปัจจุบันอุตสาหกรรมในกลุ่ม Fun economy มีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง ซึ่งรวมตั้งแต่การท่องเที่ยว กีฬา สถานบันเทิง ธุรกิจการจัดประชุมและจัดนิทรรศการ (MICE) ประกอบด้วยธุรกิจเกี่ยวเนื่องต่างๆ เช่น Meeting, Incentives, Conventions (หรือ Conferencing) และ Exhibitions ซึ่งประเทศไทยมีศักยภาพที่สามารถต่อยอดอุตสาหกรรม Fun economy ได้ โดยผ่านการส่งเสริมให้มีสถานบันเทิงครบวงจร เพื่อเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวในรูปแบบใหม่และเพิ่มเติมรายได้เข้าประเทศ
ในขณะเดียวกัน สถานบันเทิงครบวงจรจะเป็นการนำธุรกิจกาสิโนและการพนันถูกกฎหมายให้เข้ามาอยู่ในระบบอย่างมีมาตรฐาน ภายใต้การควบคุมของกฎหมาย และมีการจัดเก็บรายได้และภาษีอย่างถูกต้อง
คณะกรรมาธิการฯ จึงได้พิจารณาศึกษาเกี่ยวกับผลกระทบในด้านต่างๆ หากรัฐจะมีนโยบายสนับสนุนและส่งเสริมให้มีการเปิดสถานบันเทิงครบวงจร ขึ้นในพื้นที่ที่มีศักยภาพ เพื่อส่งเสริมการเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศ โดยแบ่งการศึกษาออกเป็น 3 ด้าน ได้แก่
2.1 ด้านผลกระทบที่จะเกิดขึ้นจากการมีสถานบันเทิงครบวงจร
โดยศึกษาถึงผลกระทบในภาพรวม ทั้งเชิงบวกและเชิงลบที่จะส่งผลต่อนโยบายของการพัฒนาประเทศในด้านเศรษฐกิจ การเมือง สังคม สิ่งแวดล้อม การศึกษา และด้านศาสนาและจริยธรรม จากการมีสถานบันเทิงแบบครบวงจรในประเทศไทย
ข้อสังเกต
การมีสถานบันเทิงครบวงจรจะทำให้รัฐสามารถควบคุมหรือกำกับดูแลการประกอบธุรกิจบางประเภทที่มีผลกระทบต่อประชาชนในภาพรวมได้ดีขึ้น เช่น ธุรกิจกาสิโน หรือการเล่นพนันถูกกฎหมาย
และจะทำให้เกิดประโยชน์และผลกระทบ ดังนี้
1) กระตุ้นให้เกิดการลงทุนในประเทศ ส่งผลให้ประชาชนมีรายได้เพิ่มขึ้นและมีความสามารถในการใช้จ่ายมากขึ้นทั้งในด้านการอุปโภค-บริโภค รัฐมีรายได้จากการจัดเก็บภาษีได้มากขึ้น
2) ช่วยเหลือประชาชนกลุ่มเปราะบางในพื้นที่ที่มีการจัดตั้งสถานบริการครบวงจร ตลอดจนเกิดการสร้างงานสร้างอาชีพในพื้นที่
3) อาจทำให้เกิดปัญหาด้านการขาดแคลนแรงงาน โดยอาจระบุในเงื่อนไขใบอนุญาตให้มีคนไทยทำงานในสถานที่ดังกล่าวไว้ในสัดส่วนที่เหมาะสม
การสร้างการรับรู้และความร่วมมือกับภาคส่วนต่างๆ
1) ควรมีกระบวนการสร้างความเชื่อมั่น จัดทำเวทีประชาคมในพื้นที่ เพื่อสร้างกระบวนการมีส่วนร่วมจากประชาชน
2) ควรมีความร่วมมือกับสถาบันการศึกษาในการศึกษาผลกระทบของการเปิดสถานบันเทิงครบวงจรอย่างละเอียดรอบด้าน
3) หากมีการเปิดแอปพลิเคชั่นให้มีการรับฟังความคิดเห็น ควรเปิดให้มีการรับฟังความเห็นด้านผลกระทบทั้ง 6 ด้าน รวมทั้งแนวทางในการเยียวยากับผู้ที่ได้รับผลกระทบ
4) กรมสุขภาพจิตควรจะเป็นหน่วยงานหลักที่จะเป็นกลไกการลดผลกระทบจากการพนัน
5) สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ควรมีการดำเนินงานในเชิงรุกเพื่อแสวงหาวิธีการป้องกันหรือลดผลกระทบ โดยการขับเคลื่อนกิจกรรมทางศาสนา
6) ควรมีมาตรการป้องกันดูแลผลกระทบอย่างเหมาะสม
2.2 ด้านโครงสร้างทางธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจรและการเก็บรายได้เข้ารัฐ
การศึกษาถึงโครงสร้างทางธุรกิจเกี่ยวเนื่องกันกับสถานบันเทิงครบวงจร รวมถึงการจัดเก็บภาษี ค่าธรรมเนียม ค่าใบอนุญาตต่างๆ จากการประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจรหรือสถานบันเทิงที่มีสถานกาสิโนรวมอยู่ด้วย เพื่อนำมาเป็นรายได้เข้ารัฐสำหรับนำไปขับเคลื่อนให้เกิดการพัฒนาในด้านต่างๆ ต่อไป
ข้อสังเกต
รูปแบบของการตั้งสถานบันเทิงครบวงจร หากรัฐบาลจะเป็นผู้ลงทุนเองแล้ว อาจก่อให้เกิดปัญหาด้านงบประมาณที่รัฐจะต้องจัดหามาใช้ในการลงทุนดังกล่าว แนวทางที่จะช่วยลดปัญหาจึงอาจจะต้องเป็นในรูปแบบการให้ใบอนุญาตกับเอกชนตามระยะเวลาที่กำหนด
ควรพิจารณาถึงรูปแบบการลงทุนที่เปิดกว้าง โดยรัฐลงทุนร่วมกันกับเอกชน หรือการให้สัมปทานหรือให้ใบอนุญาตกับเอกชน จะต้องพิจารณาอย่างถี่ถ้วน รอบคอบ
พื้นที่ที่มีความเหมาะสมในการจะตั้งเป็นสถานบันเทิงครบวงจร เช่น ต้องอยู่ใกล้กับสนามบินนานาชาติ มีโครงสร้างพื้นฐานที่มีมาตรฐานสามารถรองรับการเข้ามาของนักท่องเที่ยวต่างชาติจำนวนมาก
ควรมีการตั้ง “ภาษีกาสิโน” ขึ้นมาโดยเฉพาะ และควรมีการกำหนดอัตราภาษีและค่าธรรมเนียมต่าง ๆ อย่างเหมาะสม และเป็นการเฉพาะต่างหากจากอัตราภาษีปกติทั่วไปที่มีอยู่
ควรจัดตั้งหน่วยงานในการกำกับดูแลการเปิดสถานบันเทิงครบวงจร และมาตรการป้องกันและแก้ไขปัญหาผลกระทบเชิงวัฒนธรรม มาตรการทางกฎหมายสำหรับสถานประกอบกิจการที่อยู่ในความรับผิดชอบ มาตรการทางสังคมในลักษณะการมีส่วนร่วมของภาคีเครือข่ายทุกภาคส่วน
ควรมีการจัดตั้งกองทุนเพื่อลดผลกระทบจากการพนันและสถานบันเทิงครบวงจร โดยจัดสรรเงินรายได้จากธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจรและการพนันเข้ากองทุน
2.3 ด้านกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับสถานบันเทิงครบวงจร
การศึกษาถึงรูปแบบ วิธีการ รวมถึงระเบียบหลักเกณฑ์ต่างๆ ของกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับสถานบันเทิง สถานประกอบการ ตลอดจนการเล่นการพนันที่ใช้บังคับในปัจจุบัน เพื่อนำมาพัฒนาหรือแก้ไขปรับปรุงให้ทันสมัย หรือยกร่างกฎหมายขึ้นมาใหม่ให้สอดคล้อง เหมาะสมกับสภาพการณ์ และบริบทของสังคมที่เปลี่ยนแปลงไปในปัจจุบัน
ข้อสังเกต
ควรมีการพัฒนาปรับปรุงกฎหมาย ระเบียบ ข้อบังคับ รวมถึงการร่างกฎหมายเฉพาะในกิจการสถานบันเทิงครบวงจร ควรปรับปรุงกฎหมาย ระเบียบ หลักเกณฑ์ต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับสถานบันเทิงครบวงจรอย่างเป็นระบบ
3. จากรายงานข้างต้น ชัดเจนว่า มีธงในการสนับสนุนตั้งสถานกาสิโนถูกกฎหมาย
พร้อมชี้นำให้รัฐลงทุนร่วมกับเอกชน หรือใช้วิธีให้สัมปทานเอกชน
และสถานที่ตั้งกาสิโนในสถานบันเทิงครบวงจรนั้น ก็ไม่ใช่ไปตั้งในถิ่นท้องที่ห่างไกลเพื่อสร้างความเจริญหรือการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานใหม่ๆ แต่เจาะจงนำเสนอให้เปิดใกล้ๆสนามบินนานาชาติ ในพื้นที่ที่มีโครงสร้างพื้นฐานสามารถรองรับนักท่องเที่ยวต่างชาติจำนวนมาก ซึ่งก็มีอยู่ไม่กี่จังหวัดในประเทศไทย
ยกตัวอย่าง สนามบินนานาชาติภูเก็ต สนามบินนานาชาติเชียงใหม่สนามบินนานาชาติสุวรรณภูมิ ดอนเมือง หรือสนามบินนานาชาติอู่ตะเภา ฯลฯ
นอกจากนี้ ในรายงานก็ยอมรับถึงผลกระทบต่อสังคม แต่กล่าวถึงมาตรการป้องกัน เยียวยาอย่างเบาบางเหลือเกิน
กล่าวได้ว่า กาสิโนถูกกฎหมาย ประเทศชาติมีได้-เสีย
แต่ทุนเอกชนที่ได้ทำกาสิโน “กินรอบวง” เพราะไม่ต้องรับผลกระทบต้นทุนที่ตกแก่ส่วนรวม
สารส้ม

‘ตม.สงขลา’รวบแก๊งวัยรุ่นสร้างตัว ดัดแปลงรถตู้ทึบขนต่างด้าวหลบหนีเข้าเมือง
จ่อเปิดตัว เชน-หนิม นั่งแคนดิเดตนายกฯ เพื่อไทย อีกราย สาย ศก.รอคอนเฟิร์ม
เซ่นคลิปยางดีดปากเด็ก บริษัทไล่ออกพ่อเลี้ยงโหด ให้พ้นสภาพพนักงานทันที
สุชาติ ปัดเอี่ยว เบน สมิธ หลังถูก โรม พาดพิง ท้าเปิดหลักฐาน ถ้าผิดพร้อมลาออกทันที
‘ผบช.ภ.1’ประชุมเกาะติดคดี‘นัทปง’ ค้นบ้านพบซอง‘ไซยาไนด์’อยู่ที่เดิม เร่งสอบสางปมเสียชีวิต

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี