วันพฤหัสบดี ที่ 6 พฤศจิกายน พ.ศ. 2568
ความตกลงปางหลวง ( Panglong Agreement) เป็นความตกลงระหว่างพม่า ไทใหญ่ และกลุ่มชาติพันธุ์ชายแดนอื่นๆ ที่เป็นผลสืบเนื่องมาจากการประชุมปางหลวงหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 เพื่อจัดตั้งสหภาพพม่าภายหลังได้รับเอกราชจากอังกฤษ อย่างไรก็ตาม ความตกลงนี้ไม่บรรลุผลเพราะพม่าไม่ปฏิบัติตาม ไม่ยอมปล่อยให้คู่สัญญาจัดตั้งรัฐประเทศเป็นของตนเองทั้งยังข่มเหงรังแก จนมีการรบพุ่งกันมาจนถึงขณะนี้
ล่าสุดเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมากองกำลังกลุ่มต่อต้านรัฐบาลเมียนมา เข้าโจมตีทหารเมียนมา ซึ่งกระจายกำลังอยู่บริเวณพื้นที่ สะพานมิตรภาพ ไทย - เมียนมา แห่งที่ 2 (ฝั่งเมียนมา) บ.เยปู่ อ.เมียวดี จ.เมียวดี รัฐกะเหรี่ยงสหภาพเมียนมา ด้านตรงข้าม บ.วังตะเคียนใต้ ม.7 ต.ท่าสายลวด อ.แม่สอด จ.ตาก ห่างจากแนวชายแดนประมาณ 1.5 กม.ส่ง ผลกระทบต่อฝั่งไทย สะพานมิตรภาพไทย-เมียนมาแห่งที่ 2 งดการผ่านเข้าออก
ขณะที่ทางกองทัพไทย ได้วางกำลังตามแผนเผชิญเหตุ นำอาวุธยิง เข้าที่ตั้งเตรียมพร้อมเพื่อปกป้องอธิปไตยและดูแลความปลอดภัยให้กับพี่น้องประชาชนตามแนวชายแดน
การสู้รบบริเวณชายแดนเมียนมาฝั่งจังหวัดเมียวดี เป็นไปอย่างดุเดือด โดยรัฐบาลทหารเมียนมาได้นำให้เฮลิคอปเตอร์ติดปืนกลพร้อมจรวด เข้าต่อสู้กับทางฝ่ายต่อต้าน
จากเหตุการณ์ดังกล่าว มีประชาชนชาวเมียนมาข้ามมาแล้วกว่า 3 พันคน ทั้งนี้ทางเจ้าที่ทหารจาก ฉก.ราชมนู ตำรวจ และฝ่ายปกครอง ได้จัดพื้นที่ปลอดภัยชั่วคราว ไว้ 2 จุด อยู่บ.วังตะเคียนใต้ ต.ท่าสายลวด อ.แม่สอด
โดยปัจจุบันหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ดำเนินการให้ความช่วยเหลือ และปฏิบัติตามขั้นตอนเรียบร้อยแล้ว อยู่ระหว่างการพิจารณาสถานการณ์เพื่อปฏิบัติตามขั้นตอนต่อไป
จากอดีตที่ผ่านมาเมื่อคนในเมียนมารบกัน ก็จะมีประชาชนได้รับความเดือดร้อนอพยพเข้าประเทศไทย หรือเกิดภัยธรรมชาติ ประชาชนทางฝั่งเมียนมาก็อพยพเข้าไทย และน่าเชื่อได้ว่าการสู้รบในเมียนมายังคงมีต่อเนื่อง เพราะประชากรทางฝ่ายเมียนมามีหลายเผ่าพันธ์ุ ไร้จุดยึดเหนี่ยวนอกจากพุทธศาสนา โครงสร้างทางการเมืองการปกครองของเมียนมาเองก็ไม่เหมือนชาติอื่น
ด้านนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง โพสต์ระบุว่า “ผมติดตามสถานการณ์การปะทะกันตั้งแต่เช้าตรู่วันนี้ระหว่างกองกำลังในบริเวณสะพานมิตรภาพ 2 ฝั่งเมียนมาอย่างใกล้ชิดอยู่ครับ
มีความห่วงกังวล ขอยืนยันว่าผมไม่ต้องการให้การสู้รบมีผลกระทบต่อบูรณภาพแห่งดินแดนของไทย หรือละเมิดอธิปไตยแต่อย่างใดประเทศไทยพร้อมให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมเสมอหากมีความจำเป็น และขณะเดียวกันก็พร้อมปกป้องความปลอดภัยของพี่น้องคนไทยครับ
ก็ต้องให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายที่ร่วมแก้ไขปัญหาดังกล่าว โดยเฉพาะในการดูแลผู้อพยพ และควรจะเรียกร้องให้สำนักงานข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติ (Office of the United Nations High Commissioner for Refugees: UNHCR) เข้ามาร่วมรับผิดชอบไม่ใช่ปล่อยให้ฝ่ายไทยแบกภาระโดยลำพัง เนื่องจาก UNHCR เป็นโครงการของสหประชาชาติ ทำหน้าที่คุ้มครองผู้ลี้ภัย ชุมชนที่ถูกบังคับย้ายถิ่น และบุคคลไร้รัฐรวมถึงอนุเคราะห์ให้ได้รับการส่งกลับประเทศเดิมด้วยความสมัครใจ การรวมเข้ากับท้องถิ่นอื่นหรือการตั้งรกรากใหม่ในประเทศที่สาม

‘อบต.เหล่าหมี มุกดาหาร’จัดงานลอยกระทง งดพลุ แสง สี เสียง
‘นายกฯอนุทิน’ตอบเอง หลังชาวเน็ตโฟกัส‘ซิป’ งานนี้ฮาไม่เบา
วิทยาลัยอาชีวศึกษาอุดรธานี แปลอักษรถวายความอาลัย'สมเด็จพระพันปีหลวง'
ศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก‘อบต.นาฝาย ชัยภูมิ’นำเด็กฝึกทำกระทงใบตอง ลดค่าใช้จ่ายวันลอยกระทง
ส่งผ่าพิสูจน์! 'โลมาลายแถบ'เกยตื้นตาย'ชายหาดบาสัก' พบมีบาดแผลถลอก

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี