คนเราเมื่อเกิดมาบนแผ่นดินใด แล้วไม่ประสงค์ จะอยู่บนแผ่นดินนั้น ก็เป็นสิทธิ์ของเขา เพราะเมื่อเขาไม่อยากอยู่บนแผ่นดินที่เขาเกิด เขาสามารถย้ายไปอยู่ประเทศอื่นได้ ถ้าหากประเทศที่เขาต้องการเข้าไปอยู่ อนุญาตให้เขาเข้าไปพำนักพักอาศัยแล้วตั้งรกรากได้
ฉันใดก็ฉันนั้น คนไทยที่เกิดบนแผ่นดินไทยแล้วไม่ประสงค์จะอยู่บนแผ่นดินไทย ก็ต้องไปหาประเทศใหม่อยู่ ส่วนจะไปอยู่ประเทศไหน ก็เป็นเรื่องของเขา แต่ก็ต้องดูด้วยว่าประเทศใหม่ที่เขาอยากไปอยู่นั้น อนุญาตให้เขาพำนักหรือไม่
ไม่มีใครสามารถดึงและรั้งคนที่ไม่ต้องการอยู่ บนแผ่นดินถิ่นเกิดของตนเอง ให้ต้องทนอยู่บนแผ่นดินเกิดได้ ถ้าหากเขาคนนั้นไม่ต้องการอยู่ แต่การที่คนคนหนึ่งประกาศว่าไม่อยากอยู่บนแผ่นดินเกิดของตนเอง ก็มีหลายสาเหตุ เช่น อยู่แล้วไม่มีความสุข (แต่ก็ต้องถามว่าเมื่อไปอยู่ประเทศอื่น แล้วมีความสุขมากกว่าอยู่ประเทศของตนเองจริงๆ หรือ) แต่ก็มีคนอีกจำพวกหนึ่งคือ พวกที่ทำผิดกฎหมาย แล้วหลบหนีกฎหมายไปอยู่ในประเทศอื่น
คนไทยที่ไปอยู่ต่างประเทศมีหลายเหตุผล บางคนไปเพราะต้องไปเรียนต่อ บางคนไปทำงาน บางคนไปมีครอบครัว บางคนหลบหนีคดี บางคนถูกล่อลวงไป แต่เท่าที่ได้ฟังจากปากคนไทยที่ไปอยู่ต่างประเทศ โดยเฉพาะคนที่เกิดบนแผ่นดินไทย แล้วเติบโตบนแผ่นดินไทยจนอายุมากกว่า 10 ปี หลายคนบอกว่าวันหนึ่งจะกลับไปอยู่ประเทศไทย เพราะเปรียบเทียบแล้ว อยู่ประเทศไทยมีความสุขใจมากกว่าอยู่ต่างประเทศ แม้ประเทศไทยอาจจะไม่เจริญเทียบเท่าประเทศในตะวันตกก็ตาม
ส่วนคนไทยโดยเชื้อชาติ แต่ไม่ได้เกิดบนแผ่นดินไทย หลายคนก็ไม่คิดจะเข้ามาอยู่ในประเทศไทย เพราะไม่คุ้น ไม่ชินกับประเทศไทย ซึ่งเรื่องนี้ก็เข้าใจได้ เพราะลึกๆ แล้วเขาไม่ใช่คนไทย แม้จะมีเชื้อชาติไทยจากพ่อหรือแม่ก็ตาม แต่จริงๆ แล้วเขาก็ไม่ใช่คนไทย ดังนั้น เขาจึงไม่ผูกพันกับประเทศไทย แต่ก็มีคนต่างชาติจำนวนไม่น้อยที่เมื่อได้มาอยู่บนแผ่นดินไทย แล้วบอกว่าตั้งใจมาตายบนแผ่นดินไทย เพราะเมืองไทยดีกว่าเมืองที่เขาถือกำเนิดเกิดมา
เราได้เห็นมามากมายว่าคนไทยจำนวนมากที่ไปเรียนหนังสือที่เมืองนอก โดยเฉพาะในยุโรปตะวันตกหรือในอเมริกา หรือแม้แต่บางคนที่ไปแต่งงานกับคนต่างชาติ สุดท้ายแล้ว คนไทยกลุ่มนี้ก็ยังบอกตรงกันว่าจะต้องกลับไปอยู่เมืองไทย หรือแม้จะไม่ได้อยู่เมืองไทยตลอดปีตลอดชาติ แต่ก็ต้องกลับไปอยู่เมืองไทยทุกปี ปีละหลายๆ เดือน เพราะอยู่เมืองไทยแล้วมีความสุขใจมากกว่าอยู่ต่างประเทศ ส่วนคนไทยที่หนีคดีไปซุกหัวอยู่ในต่างประเทศคนจำพวกนั้นก็อยากกลับไทยใจจะขาด แต่ทว่ากลับมาแล้วต้องติดคุก เพราะฉะนั้น จึงเลือกที่จะซุกหัวในต่างประเทศต่อไป แล้วต่างก็ตั้งคำถามว่าทำไมนักโทษชายทักษิณ ชินวัตร จึงกลับไทยแล้วไม่ต้องติดคุก ทำไมพวกเขาไม่ได้รับอภิสิทธิ์สุดพิเศษแบบนักโทษชายทักษิณบ้าง เรื่องนี้ก็ต้องตอบว่า แล้วคนที่ถามแบบนี้มีปัญญาทำ special deal กับใครบางคนเหมือนอย่างที่นักโทษชายทักษิณทำได้หรือเปล่า
เมื่อเร็วๆ นี้ คนในสังคมไทยที่ติดตามคำพูดของอานันท์ ปันยารชุน อดีตนายกรัฐมนตรี ผู้ที่ไม่เคยได้รับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีจากการเลือกตั้งแม้แต่ครั้งเดียว โดยอานันท์บอกว่า เด็กและคนรุ่นใหม่ที่อานันท์ได้คุยด้วย คนเหล่านั้นบอกกับอานันท์ว่าไม่ต้องการอยู่เมืองไทย เพราะไม่มีความหวังในเมืองไทย แล้วอานันท์ก็ตั้งคำถามว่า ทำอย่างไรที่จะให้เด็กและคนรุ่นใหม่ไม่คิดจะทิ้งเมืองไทย แล้วมีอีกประเด็นหนึ่งที่อานันท์พูดเชิงตั้งคำถามคือ มีข่าวเด็กไทยถูกจับเข้าคุกเป็นประจำ เขาถามต่อไปว่า สนุกนักหรือกับการจับเด็กเข้าคุก เด็กไม่ได้รับการประกันตัว เขาถามด้วยว่าไม่อายบ้างหรือ
อันที่จริงก็ต้องถามกลับว่า อานันท์ไม่รู้จริงๆ หรือว่าทำไมเด็กกลุ่มหนึ่งถึงถูกจับเข้าคุก เด็กทำดีแล้วถูกจับเข้าคุก กระนั้นหรือ อานันท์ไม่รู้จริงๆ หรือว่าเด็กกลุ่มนั้นมีพฤติกรรมอย่างไร หรืออานันท์จะบอกว่าเด็กทำผิดกฎหมาย แล้วไม่ต้องรับโทษใดๆ
การอ้างว่าความคิดเห็นแตกต่างกันเป็นเรื่องปกติของสังคมประชาธิปไตย เป็นเรื่องที่ถูกต้อง และไม่มีใครปฏิเสธ แต่ความเห็นที่แตกต่าง ต้องไม่ใช่การจงใจทำผิดกฎหมาย การจงใจทำผิดกฎหมายแล้วอ้างว่าทำเพราะมีความเห็นไม่ตรงกัน อ้างแบบเรียกว่าตะแบง แล้วก็ไม่มีประเทศไหนอนุญาตให้อ้างแบบนั้น อานันท์คงไม่เข้าใจกระมังว่า ผู้จงใจกระทำผิดกฎหมายต้องได้รับโทษโดยไม่มีข้อยกเว้น ส่วนจะอ้างว่ากฎหมายที่ใช้ลงโทษไม่เป็นธรรม ก็ต้องพิสูจน์ให้ได้ว่ากฎหมายไม่เป็นธรรมจริงๆ แต่หากกฎหมายไม่เป็นธรรมจริงๆ แล้วทำไมคนส่วนใหญ่บนแผ่นดินนี้ไม่ถูกลงโทษ หรือว่าคนส่วนใหญ่บนแผ่นดินนี้เป็นผู้สนับสนุนความไม่เป็นธรรม ถ้าเป็นเช่นนั้น ก็ต้องถามว่า คนไทยส่วนใหญ่ไม่รักความเป็นธรรม กระนั้นหรือ คนกระทำผิดกฎหมายไม่ต้องถูกลงโทษ เช่นนั้นหรือ
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี