วันเสาร์ ที่ 13 ธันวาคม พ.ศ. 2568
วันอังคารที่ผ่านมา หนึ่งวัน..ก่อนที่สำนักงานอัยการสูงสุดจะแถลงการณ์เรื่อง นายทักษิณจะถูกสั่งฟ้องคดี มาตรา 112 หรือไม่ผมเห็นกระทู้ในโลกออนไลน์อันหนึ่งเขียนว่า....เมืองไทยถึงจุดเสื่อมสุดแล้วยัง เพราะว่าคนทำผิดไม่ติดคุก....วันถัดมา ภายหลังมีข่าวว่า นายกรัฐมนตรีจะแต่งตั้งนายวิษณุ เครืองาม เป็นที่ปรึกษาสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ผมก็เห็นคำว่า...#ไม่มียางอาย....วิ่งขึ้นติดเทรนด์สามอันดับแรกในทวิตเตอร์หรือเอ็กซ์ตลอดทั้งวันพุธที่ผ่านมา
ครับ....ผมเชื่อว่า ถ้าสังคมไทยมี “เนติบริกร” ที่มี..ยางอาย..คนทำผิดก็ต้องติดคุก และเมืองไทยก็คงยังมาไม่ถึงจุดเสื่อมได้ขนาดนี้...
ความจริงแล้ว คำว่า “เนติบริกร” โดยรูปศัพท์นั้นไม่ใช่คำที่มีความหมายเชิงลบแต่ประการใด ไม่เช่นนั้นคุณวิษณุคงไม่เอามาตั้งเป็นชื่อหนังสือของตัวเองว่า “เรื่องเล่าจากเนติบริกร”ด้วยความภาคภูมิใจ
อย่างไรก็ตาม ภายหลังคำว่าเนติบริกรได้กลายเป็นคำที่มีความหมายในทางลบไปอย่างน่าเสียดาย อันหมายถึงบุคคลผู้เข้ามามีส่วนร่วมในทางการเมือง โดยให้บริการทางกฎหมายแก่ผู้ที่มีอำนาจไม่ว่าจะมาจากการปฏิวัติ รัฐประหารหรือการเลือกตั้งก็ตาม ทำให้เนติบริกรกลายเป็นอาชีพสำหรับผู้ร่ำเรียนมาทางกฎหมายที่ไม่สนใจรับผิดชอบชั่วดี จริยธรรม ศีลธรรมใดๆขอเพียงได้ใช้เทคนิคทางกฎหมายเพื่อบรรลุเป้าหมายหรือผลประโยชน์ของตนและพรรคพวกเป็นสำคัญ
ตัวคุณวิษณุเอง ก็ได้รับสมญานามจากนักข่าว ในการตั้งฉายารัฐมนตรีประจำปี 2545 ว่า... เนติบริกร ทนายหน้าหอ(2548) ศรีธนญชัยลอดช่อง (2562) ไฮเตอร์เซอร์วิส (2563) เครื่องจักรซักล้าง (2565) ตามลำดับ สมญานามเหล่านี้ล้วนบ่งบอกถึงความหมายแฝง สะท้อนความคิดและทัศนคติที่คนทั่วไปมีต่อคุณวิษณุได้เป็นอย่างดี
จะว่าไปแล้ว ไวพจน์หรือคำพ้องความหมาย (synonym) ของฉายาหรือสมญานามเหล่านี้ ล้วนมีที่มาจากคำว่า “ทนายโจร”ที่ชาวบ้านมักใช้เรียก ทนายที่แก้ต่างให้แก่จำเลยผู้กระทำผิดจริงๆ
ทนายโจร หรือ Devil’s advocate ในภาษาอังกฤษมีที่มาจากภาษาละตินว่า “advocatus diaboli” มีความหมายว่า “ผู้เถียงให้กับฝ่ายมาร” และโดยความหมายดั้งเดิมที่ใช้แล้วก็เหมือนกับคำว่า “เนติบริกร” กล่าวคือไม่ได้มีความหมายในเชิงลบแต่ประการใด
คำนี้มีที่มาจากศาสนาคริสต์ นิกายโรมันคาทอลิก กล่าวคือ ในระบบคริสตจักรโรมันคาทอลิก ถ้าจะมีการแต่งตั้งให้บาทหลวงท่านใดให้มีสมณศักดิ์เลื่อนชั้นเป็นนักบุญ (saint) ภายหลังจากที่ได้มรณภาพไปแล้ว ก็จะต้องมีการแต่งตั้งบุคคลขึ้นมาคนหนึ่ง เรียกว่า Devil’s advocate หรือ “ผู้เถียงให้กับฝ่ายมาร” เพื่อโต้เถียงในเชิงคัดค้านโดยอ้างหรือหาข้อบกพร่อง ความไม่ดีต่างๆ ของบาทหลวงท่านนั้น หรือถ้ามีการอ้างถึงสิ่งอัศจรรย์ ปาฎิหาริย์อันเกิดขึ้นจากบาทหลวงท่านนั้น บุคคลคนนี้ก็จะมีหน้าที่ตรวจสอบการกล่าวอ้างดังกล่าว
กล่าวอย่างรวบรัด หน้าที่ของบุคคลนี้ก็คือพยายามหาความชั่วร้ายหรือความเป็นซาตานในตัวบาทหลวงท่านนั้น ซึ่งถ้าหาพบหรือพิสูจน์ได้ว่าบาทหลวงท่านนั้นมีดีเอ็นเอ (DNA) ของซาตานอยู่ ท่านก็จะไม่ได้รับการเลื่อนสมณศักดิ์ขึ้นชั้นให้เป็นนักบุญภายหลังจากที่ท่านได้มรณภาพไปแล้ว
แต่ต่อมาคำว่า Devil’s advocate ก็ถูกเอามาใช้ในความหมายว่าเป็น ทนายปีศาจบ้าง ทนายโจรบ้าง และวิวัฒนาการไปเรื่อยตามยุคสมัยจนถึงสมญานามต่างๆ ของ
คุณวิษณุดังที่กล่าวมาข้างต้น
เมื่อพูดถึงคำว่า “ทนายโจร” ก็ทำให้ย้อนไปนึกถึงบทสัมภาษณ์ของนักกฎหมายอาวุโสท่านหนึ่ง ที่คนทั่วไปยังกราบไหว้ได้อย่างสนิทใจ โดยที่ไม่ต้องรีบไปล้างมือให้หายมัวหมองสกปรก เหมือนกับที่ต้องจำใจรับไหว้นักกฎหมายหลายคนที่เป็นเนติบริกรรับใช้ผู้มีอำนาจที่ขาดจริยธรรมอยู่ในขณะนี้ ท่านเคยดำรงตำแหน่งทั้งเลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีกาและประธานศาลปกครองสูงสุด
บทสัมภาษณ์นี้เป็นสาระน่ารู้ มีประโยชน์ในวงการนักกฎหมาย โดยมีความตอนหนึ่งที่อ่านแล้ว รู้สึกสะเทือนใจเป็นอย่างยิ่ง ก็คือข้อความที่ท่านให้สัมภาษณ์ว่า
“......ต่อให้คุณเก่งทางกฎหมาย แต่คุณไม่มีจิตใจที่เป็นธรรม นักกฎหมายนี่นะครับ ยิ่งเก่งเท่าไหร่ ถ้าไม่มีคุณธรรมยิ่งกว่าโจร คือสามารถทำให้อะไร เป็นอะไรได้หมด ทำขาวเป็นดำดำเป็นขาว นักกฎหมายที่ไม่สุจริต ผมเชื่อว่าอย่างนั้นนะถ้าไม่มีคุณธรรม โจรยังดีกว่า.........”
ครับ...ที่ว่าสะเทือนใจก็เพราะข้อความนี้เป็นข้อเท็จจริง...จริงๆ
และอีกช่วงหนึ่งท่านได้ให้คติในการสอนกฎหมายไว้ว่า
“.... เพราะการใช้อำนาจทางกฎหมาย ทำจนในที่สุด ผิดเป็นถูก อันนี้อันตรายที่สุด ประโยคแรกที่ผมสอนนักศึกษามากว่า 30 ปี เรียนกฎหมายไป ต้องเรียนไปเพื่อให้เกิดความเป็นธรรม ไม่ใช่เรียนไป เพื่อใช้กฎหมายเพื่อประโยชน์อะไรก็แล้วแต่ เพราะว่าอันตรายที่สุดเลย นักฎหมายถ้าไม่มีความเป็นธรรม ยิ่งกว่ามหาโจร....”
ครับ..ยิ่งกว่าโจรและมหาโจร...
การสอนกฎหมายที่ว่าต้องเรียนไปเพื่อให้เกิดความเป็นธรรมนั้นคือการ “ศึกษาอบรม” ความสำคัญอยู่ที่การ “อบรม” ที่ยากยิ่งกว่าการให้ “ศึกษา” เสียอีก
เพราะการศึกษาเป็นเพียงการสอนให้มีความรู้ มีความรู้ในเรื่องกฎหมาย
แต่การ “อบรม” เป็นการสอนให้มี “ความคิด”ที่ถูกต้อง
การมีความรู้ในด้านกฎหมาย ยิ่งเก่งมากเท่าไหร่ แต่ปราศจากความคิดที่ถูกต้อง คือ “หายนะ” ของชาติบ้านเมือง เช่นที่กำลังเกิดขึ้นอยู่ในขณะนี้
ปรากฏการณ์ของเนติบริกร หรือผู้เถียงให้กับฝ่ายมาร(Devil’s advocate) ทำให้นักกฎหมายประเภทนี้ถูกประณามและได้รับฉายาที่ฟังแลัวรู้สึกสะเทือนใจในวงการวิชาชีพนักกฎหมาย
แม้ฉายาที่ว่านั้น จะมุ่งไปยังนักกฎหมายบางคนที่เป็นทาสรับใช้ผู้มีอำนาจ นักการเมือง เผด็จการทหารหรือนายกรัฐมนตรีที่ขาดจิตสำนึกในจริยธรรม มิได้หมายถึงนักกฎหมายทุกคน แต่การได้รับฉายาเช่นนี้ ย่อมกระทบกระเทือนวงการวิชาชีพของนักกฎหมาย
ปัญหาสำคัญ จะทำอย่างไรที่จะไม่ให้มีนักกฎหมายประเภทนี้
การสอนและให้คติอย่างที่ท่านอดีตเลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีกาและประธานศาลปกครองสูงสุดทำมาแล้วกว่า 30 ปี นั้นถูกต้องที่สุด และก็เชื่อว่าในปัจจุบันก็มีอาจารย์อีกหลายท่านได้สอนอย่างนี้เช่นเดียวกัน
ในคณะนิติศาสตร์หลายแห่งก็ได้มีการสอน “หลักวิชาชีพของนักกฎหมาย” ของท่านศาสตราจารย์จิตติ ติงศภัทย์อันเป็นคัมภีร์คุณธรรมของนักกฎหมาย ที่ได้สอนโดยตัวของท่านเองและอาจารย์อีกหลายท่าน ภายหลังที่ท่านอาจารย์จิตติ ได้ถึงแก่อนิจกรรมไปแล้ว
แต่คัมภีร์คุณธรรมของนักกฎหมายเล่มนี้ยังเป็นอกาลิโกอยู่
นักกฎหมายที่ยิ่งกว่ามหาโจรเกือบทุกคนก็ได้เคยเรียนวิชานี้
อย่างไรก็ตาม เรื่องที่น่าเศร้าอีกเรื่องหนึ่งก็คือ.....พวกยิ่งกว่าโจรหรือมหาโจรบางคนเหล่านี้ แทนที่จะถูก “อัปเปหิ” ออกไปจากวงการนักกฎหมาย โดยเฉพาะในคณะนิติศาสตร์ กลับถูกกราบเรียนเชิญมาสอนนักศึกษากฎหมายในคณะนิติศาสตร์ บางคนถึงขนาดเป็นผู้บรรยายพิเศษในวิชา“หลักวิชาชีพของนักกฎหมาย” อีกด้วยครับ
ดร.ธิติ สุวรรณทัต

กำปั้นไทยไร้พ่าย! ลิ่ว 7 รุ่นต่อยซีเกมส์
เลขาวุฒิสภา แจ้ง สว. ยกเลิกประชุมวุฒิสภา 15- 16 ธ.ค.นี้ หลังยุบสภาแล้ว
ดร.จักษ์ ชม อนุทิน ตัดสินใจระดับรัฐบุรุษ ยุบสภาครั้งนี้ เผาพรรคส้มเหลือแต่ขี้เถ้า
กกต. กางแนวทาง ค่าใช้จ่าย สส. ช่วงเลือกตั้ง พรรคการเมืองหาเสียงได้ตั้งแต่วัน ยุบสภา
ปูติน ยกระดับชีวิตพลเมืองรัสเซีย อัตราความยากจนลดต่ำสุดเป็นประวัติการณ์

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี