ประเด็นนายทักษิณ ชินวัตร ที่อยู่ในระหว่างการพักโทษ และล่าสุดอัยการสูงสุดได้มีคำสั่งฟ้องนายทักษิณ อีกคดี ในความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 และอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง โดยอัยการสูงสุดนัดให้นายทักษิณ ไปพบอัยการในวันที่ 18 มิถุนายนนี้ เพื่อนำตัวส่งฟ้องต่อศาล ซึ่งในเรื่องนี้เป็นที่วิพากษ์วิจารณ์กันไปทั่วหล้าว่านายทักษิณจะสู้คดี หรือจะหนีไปต่างประเทศอีก
นางกาญจนี วัลยะเสวี หรือ “ติ๊งต่าง” เจ้าของฉายาไฮโซสปอร์ตคลับ และแกนนำกลุ่มชาวไทยหัวใจรักสงบ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ว่า...#ทักษิณควรต้อง 1. ติดกำไล EM ที่ข้อเท้า เพื่อกันไม่ให้หนีเพราะในอดีตทักษิณเคยหนีมาแล้ว 2. ควรต้องห้ามใช้เครื่องบินส่วนตัว 3. ต้องถูกตรวจสอบว่าเวลานี้ทักษิณถือสัญชาติอะไรบ้าง เพื่อเป็นข้อมูลต่อศาล
นายนันทิวัฒน์ สามารถ อดีตรองผู้อำนวยการสำนักข่าวกรองแห่งชาติ โพสต์แสดงความคิดเห็นว่า…หนีไม่หนี หนี มีข่าวลือ เกิดคำถามขึ้นมากมาย หลังอัยการสั่งฟ้องคดี 112 ข่าวลือว่า หนีออกนอกประเทศไปแล้วกระหึ่มไปทั่ว ถามว่า ถ้าสู้คดีมีหลักประกันอะไรว่าจะชนะ แพ้คือติดคุก แกเป็นคนกลัวคุก ปากกล้าขาสั่น แม้แต่น้อง วันเดียวก็ไม่ให้เข้าคุก แล้วตัวเองจะเข้าหรือ เมินเสียเถอะช้าหรือเร็ว คำพิพากษาต้องออกมา จะรอศาลพิพากษาว่าผิดติดคุกเสียก่อน หรือว่าหนีขณะที่ตัวยังขาวๆ ไปในขณะที่ยังไปได้ดีกว่าไหม
นายจตุพร พรหมพันธุ์ วิทยากรคณะหลอมรวมประชาชน ได้เฟซบุ๊กไลฟ์ว่า แนวโน้มนักโทษทักษิณ ชินวัตร มี 2 ทางเลือกให้เดินเท่านั้น คือ หนีคดีม.112 ไปต่างประเทศอีกครั้ง กับเชือด นายเศรษฐา ทวีสิน ให้พ้นจากนายกฯ เพื่อแลกกับความมั่นใจได้ประกันตัว เมื่อถูกนำตัวฟ้องศาลในวันที่ 18 มิ.ย.นี้
พร้อมทั้งกล่าวว่า ถ้า 18 มิ.ย.นี้ นักโทษทักษิณ ถูกนำตัวไปศาลอาญาฟ้องคดี 112 ต้องมั่นใจว่าได้รับการประกันตัว ซึ่งวันนั้นเชื่อว่า คงไม่มีนายเศรษฐา เป็นนายกฯ ดังนั้น จึงไม่ควรประมาทสถานการณ์ข้างหน้าที่กลุ่มทุนการเมืองกับนักโทษทักษิณพยายามตั้งรัฐบาลโดยคงกลไกอำนาจของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ไว้ดั่งเดิม ซึ่งจะยิ่งนำพาให้ประเทศไปสู่ความชะงักงันได้
นางสาวแพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ได้พูดคุยกับคุณพ่อ (ทักษิณชินวัตร) ถึงเรื่องอัยการสั่งฟ้อง มาตรา 112 ซึ่งคุณพ่อก็ไม่ได้กังวลในเรื่องนี้มาก เพราะในเรื่องของคดีนี้ก็เกิดขึ้นตอนที่มีการปฏิวัติรัฐประหารในช่วงของรัฐบาลนายกฯยิ่งลักษณ์ เสร็จใหม่ๆ และอัยการสูงสุด ณ ขณะนั้นก็ถูกตั้งโดยคณะ คสช. และจากที่ตนได้คุยคุณพ่อ ท่านก็บอกว่าการขึ้นศาลก็ดีเหมือนกันจะได้สามารถพูดถึงข้อเท็จจริงได้ และจากที่ได้คุยทางโทรศัพท์กับท่านก็ไม่ได้มีความกังวลอะไร และบอกว่าตนกำลังจะมางาน LGBTQ ก็พยายามจัดเต็มที่สุดเท่าที่จะทำได้
เมื่อถามว่าส่วนตัวรู้สึกอย่างไรที่คุณพ่อใกล้จะพ้นโทษแล้วแต่ต้องมาสู้คดีอัยการสั่งฟ้อง มาตรา 112ต่อ นางสาวแพทองธาร กล่าวว่า ส่วนตัวก็ไม่อยากให้คุณพ่อมีคดีอะไรแล้ว แต่ก็ว่ากันไป ทางทีมทนายก็ทำเรื่องนี้อย่างเต็มที่ ก็ว่ากันไป
ถามว่า เรื่องนี้ทำให้ขวัญกำลังใจของคนในพรรคเพื่อไทยเสียไปบ้างหรือไม่ นางสาวแพทองธาร กล่าวว่า จริงๆ ทุกคนก็เป็นห่วงคุณพ่อ แน่นอนเพราะเป็นผู้ก่อตั้งพรรคมา แต่ตนก็ให้ความมั่นใจอยู่แล้วว่าตัวคุณพ่อเองยังไม่ได้กังวลอะไร เพราะเรื่องมาตรา 112 เป็นการบิดเบือนความจริงอยู่แล้วตั้งแต่แรกที่ฟ้อง และเรื่องนี้เรามั่นใจอยู่แล้วว่าเราไม่มีทางจะต้องโดนคดีนี้ ซึ่งพ่อก็บอกว่าดีที่ขึ้นศาล จะได้อธิบายข้อเท็จจริงไปเลย ก็ชัดเจนดี
ถามว่า แสดงว่าคดีนี้เป็นการกลั่นแกล้งทางการเมือง นางสาวแพทองธาร กล่าวว่า ก็คดีนี้มาตอนสมัยปฏิวัติเสร็จใหม่ๆ อัยการสูงสุดตั้งโดยคสช.ก็แล้วแต่พิจารณากันเลยค่ะ
ก็ต้องจับตากันต่อไปว่านายทักษิณ จะสู้หรือจะหนีในคดี ม.112 แต่ในเบื้องต้นเจ้าหน้าที่ของรัฐพึงปฏิบัติตามกฎหมายอย่างเคร่งครัดในการนำตัวผู้ต้องหาขึ้นสู่ศาลอย่าให้เกิดความด่างพร้อยในวงการยุติธรรมอีก
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี