หวย 3 หลัก มาแน่แล้ว!
เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ครม.เห็นชอบร่างกฎกระทรวงการสมทบเงินรางวัลสลากกินแบ่งรัฐบาลตัวเลขสามหลัก พ.ศ. ....
เนื้อหาของร่างกฎกระทรวงนี้ ช่วยปลดล็อก ทำให้การเดินหน้า “หวย 3 หลัก”หรือที่เรียกว่า สลากกินแบ่งรัฐบาลตัวเลขสามหลัก (Numbers 3 : N3) สะดวกโยธินต่อไป
1. ครม.เห็นชอบอะไร?
ก่อนหน้านี้ คณะรัฐมนตรีได้เคยมีมติอนุมัติหลักการและสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาได้ตรวจพิจารณาแล้ว
สาระสำคัญ คือ ได้กำหนดหลักเกณฑ์และวิธีการจัดสรรเงินจากการจำหน่ายสลากฯ ตัวเลขสามหลัก ซึ่งกำหนดให้สลากฯ ตัวเลขสามหลัก เป็นสลากประเภทสมทบเงินรางวัล
ประกอบด้วย หมายเลขให้เลือก 3 หลัก แต่ละหลักมี 10 หมายเลข ตั้งแต่ 0 ถึง 9 (000 - 999
และไม่กำหนดหมายเลขไว้ในระบบล่วงหน้า ผู้ซื้อสามารถเลือกตัวเลขได้ตามต้องการ)
ผู้ซื้อสามารถเลือกหมายเลขแต่ละหลักให้ครบ 3 หลัก และสามารถเลือกหมายเลขแต่ละหลักซ้ำกันได้
พูดง่ายๆ ว่า วิธีการเลือกตัวเลข จะคล้ายๆ กับเลือกเลขหวยใต้ดิน แต่ว่านี่เป็นสลากถูกกฎหมาย มีการออกรางวัลเฉพาะสลากสามหลักเลย โดยเงินยอดขายถูกแบ่งเป็นสัดส่วนเงินรางวัล-เงินนำส่งแผ่นดิน ตามกฎหมาย เช่นเดียวกับสลากกินแบ่งรัฐบาล
โดยในการออกรางวัลประเภทใด หากไม่มีผู้ถูกรางวัลในงวดนั้น ให้นำเงินที่จัดสรรไว้สำหรับรางวัลประเภทนั้นสมทบไปเพื่อจ่ายเป็นเงินรางวัลสำหรับรางวัลประเภทเดียวกันในงวดถัดไป แต่ไม่เกินหนึ่งงวด และหากการออกรางวัลงวดถัดไปไม่มีผู้ถูกรางวัลในรางวัลประเภทนั้นอีก ให้นำเงินรางวัลสมทบในประเภทนั้นนำส่งเป็นรายได้แผ่นดิน
ในการนี้ สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลได้ดำเนินการออกร่างประกาศสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล เรื่อง กำหนดประเภทและรูปแบบสลากกินแบ่งรัฐบาลตัวเลขสามหลักเพื่อกำหนดประเภทและรูปแบบ วิธีการจำหน่าย รวมทั้งการจ่ายเงินรางวัลและประเภทของรางวัลด้วย
ได้แก่ รางวัลสามตรง รางวัลสามสลับหลัก รางวัลสองตรงและรางวัลพิเศษ
โดยมีวิธีการจำหน่ายในรูปแบบดิจิทัล (จำหน่ายโดยตัวแทนผ่านแอปพลิเคชั่นเป๋าตัง)
จะมีการออกรางวัล เดือนละ 2 ครั้ง ในวันที่ 1 และวันที่ 16 ของเดือน
เป็นรูปแบบใหม่ที่สำนักงานสลากฯ ยังไม่เคยดำเนินการมาก่อน
ร่างประกาศดังกล่าว เป็นไปตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 18 กรกฎาคม 2564 แต่ยังไม่ได้ประกาศใช้บังคับ เนื่องจากสลากฯตัวเลขสามหลักเป็นสลากฯ ประเภทสมทบเงินรางวัล จึงต้องมีกฎกระทรวงว่าด้วยการสมทบเงินรางวัลตามมาตรา 26 แห่งพระราชบัญญัติสำนักงานสลากฯ พ.ศ. 2517 และที่แก้ไขเพิ่มเติม
ด้วยเหตุนี้ จึงต้องรอร่างกฎกระทรวงการสมทบเงินรางวัลสลากกินแบ่งรัฐบาลตัวเลขสามหลัก พ.ศ. .... เพื่อประกาศใช้บังคับควบคู่กันนั่นเอง
2. การจัดสรรเงินรางวัลสลากสามหลัก หรือหวย 3 หลัก
สลากกินแบ่งรัฐบาลตัวเลขสามหลัก เป็นสลากประเภทสมทบเงินรางวัล
การจัดสรรเงินรางวัล สำนักงานสลากฯ จัดสรรให้ร้อยละ 60 จากการจำหน่ายในแต่ละงวด (ไม่สามารถระบุเงินรางวัลได้ชัดเจนเนื่องจากเงินรางวัลจะแปรผันตามจำนวนผู้ที่ซื้อสลากฯ เป็นไปตามการจัดสรรเงินรางวัล ตามมาตรา 22 แห่งพระราชบัญญัติสำนักงานสลากฯ พ.ศ. 2517 และที่แก้ไขเพิ่มเติม
โดยยอดขายสลากจะถูกแบ่งเป็น 3 ส่วน
ได้แก่ 1) ร้อยละ 60 เป็นเงินรางวัล 2) ไม่น้อยกว่าร้อยละ 23 เป็นรายได้แผ่นดิน 3) ไม่เกินกว่าร้อยละ 17 เป็นค่าใช้จ่ายในการบริหารงาน ซึ่งรวมทั้งค่าใช้จ่ายในการจำหน่ายสลากฯ ตัวเลขสามหลักด้วย
ประเภทรางวัลของสลากฯ ตัวเลขสามหลัก
1. รางวัลสามตรง ผู้ซื้อจะต้องถูกทุกหมายเลขและตรงทุกตำแหน่ง (อันนี้คล้ายหวยสามตัวตรง)
2. รางวัลสามสลับหลัก ผู้ซื้อจะต้องถูกทุกหมายเลขแต่สลับตำแหน่ง (อันนี้คล้ายหวยสามตัวโต๊ด)
3. รางวัลสองตรง ผู้ซื้อจะต้องถูกทุกหมายเลขและตรงทุกตำแหน่ง (อันนี้คล้ายหวยเลขท้ายสองตัวล่าง)
4. รางวัลพิเศษ จะเป็นการสุ่มหมายเลขรางวัลพิเศษจากสลากฯ ที่ถูกรางวัลสามตรงจำนวน 1 รางวัล
รางวัลของสลากประเภท N3 มีรายละเอียด ดังนี้
หลักใหญ่ คือ แต่ละงวดขายได้เงินเท่าใด ก็กันเงินมา 60% ของยอดขาย เพื่อนำมาแบ่งเป็นรางวัลต่างๆ
รางวัล 3 ตัวตรง จัดสรรเงินรางวัล 30% (จาก 60% ของยอดจำหน่ายในแต่ละงวด)
รางวัล 3 ตัวสลับหลัก (โต๊ด) จัดสรรเงินรางวัล 30% (จาก 60% ของยอดจำหน่ายในแต่ละงวด)
รางวัล 2 ตัวตรง จัดสรรเงินรางวัล 39% (จาก 60% ของยอดจำหน่ายในแต่ละงวด)
รางวัลพิเศษ จัดสรรเงินรางวัล 1% (จาก 60% ของยอดจำหน่ายในแต่ละงวด)
รางวัลจะมากจะน้อย ขึ้นอยู่กับยอดขาย
แถมแต่ละงวด บางงวดอาจไม่มีคนถูกรางวัล ก็สมทบเงินรางวัลไปตามร่างกฎกระทรวงนั่นเอง
แต่บางงวด อาจมีคนถูกรางวัลเยอะ เพราะเลขเด็ด ซื้อตรงกัน ก็จะต้องแบ่งเงินรางวัลกันไปในบรรดาผู้ถูกรางวัลนั้นๆ
ด้านราคาในการจำหน่ายสลาก N3 ขณะนี้ อยู่ระหว่างกำหนดราคาในช่วง 20-50 บาทต่อใบ
โดยมีแนวคิดว่าราคาจำหน่ายต้องไม่ต่ำหรือสูงเกินไป และต้องไม่เกิน 80 บาท เพื่อไม่ให้ซ้ำซ้อนกับสลากกินแบ่งรัฐบาล 6 หลัก (L6) แบบใบและแบบดิจิทัล
3. สู้กับหวยใต้ดิน และเพิ่มช่องทางให้คนที่อยากเป็นตัวแทนจำหน่ายสลาก
สำนักงานสลากฯ คาดว่า จะสามารถจำหน่ายสลากฯ ตัวเลขสามหลักได้อย่างต่ำ 40 ล้านฉบับต่องวด
อาจจำหน่ายราคาฉบับละ 20 บาท
ทั้งนี้ สลากฯ ตัวเลขสามหลัก จำหน่ายในรูปแบบดิจิทัล (ใช้ข้อมูลในระบบ) ผ่านแอปพลิเคชั่นเป๋าตัง
ควบคุมราคาขายได้แน่นอน วิธีการจำหน่ายเป็นแบบดิจิทัล ไม่มีการขายเกินราคา
และจะมีการให้ประชาชนที่สนใจสมัครเป็นตัวแทนจำหน่าย เพื่อเป็นช่องทางให้ประชาชนที่พลาดหวังจากการเป็นตัวแทนจำหน่ายสลากกินแบ่งรัฐบาล สามารถเป็นตัวแทนจำหน่ายหวย 3 หลักนี้ได้
และคาดว่าเลข 3 หลัก จะเป็นทางเลือกให้กับผู้บริโภค สามารถเลือกซื้อรูปแบบของสลากฯ ได้หลากหลายมากขึ้น ตามราคาที่กฎหมายกำหนด รวมทั้งเป็นการช่วยให้การเสี่ยงโชคนอกระบบและผิดกฎหมาย (หวยใต้ดิน) ให้น้อยลง
4. ความเป็นไปได้ ที่น่าจะเป็น
ความคาดหวังของรัฐว่า จะแข่งกับหวยใต้ดินนั้น ก็คงจะได้แค่บางส่วน
เพราะวิธีการเล่นคล้ายๆ กัน แม้หวย 3 หลักจะซื้อหาสะดวก แน่นอนกว่า เงินรายได้เข้ารัฐ ฯลฯ แต่หวยใต้ดินจะมีระบบสินเชื่อให้ด้วย (แต่ก็มีเลขอั้นเป็นข้อจำกัด)
เห็นว่า ที่ได้แน่ๆ คือ สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล น่าจะมีเงินนำส่งแผ่นดินมากขึ้น
คิดง่ายๆ ตามสมมมุติฐานว่าจะขายได้กว่า 40 ล้านฉบับต่องวด โดยขายฉบับละ 20 บาท
นั่นเป็นเงิน 800 ล้านบาทต่องวด (เดือนละสองงวด คือ 1,600 ล้านบาทต่อเดือน)
เมื่อแบ่งไปเป็นเงินรางวัล 60% ก็ราวๆ 480 ล้านบาท
แบ่งยอดขายนำส่งเป็นรายได้เข้าแผ่นดิน 23% งวดละ 184 ล้านบาท
เป็นรายได้เข้าแผ่นดิน เดือนละ 368 ล้านบาท
ปีละ 4,416 ล้านบาท
เป็นจำนวนเงินไม่น้อยเลยทีเดียว
แต่ต้องพิจารณาว่า ต้นทุนผลกระทบต่อสังคม คุ้มค่าแค่ไหน จะเข้าไปดูแลอย่างไร?
สารส้ม
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี