 วันเสาร์ ที่ 1 พฤศจิกายน พ.ศ. 2568
                วันเสาร์ ที่ 1 พฤศจิกายน พ.ศ. 2568
             
							โครงการปุ๋ยคนละครึ่ง จะใช้เงินจาก ธ.ก.ส.สมทบค่าปุ๋ยให้ชาวนาประมาณ 2.9 หมื่นล้านบาท
โดยชาวนาจะต้องออกเงินค่าปุ๋ยเองครึ่งหนึ่ง
ถ้าชาวนาทั่วประเทศใช้สิทธิเต็มโครงการ ก็จะเป็นเงินค่าปุ๋ยรวมกันเกือบ 6 หมื่นล้านบาท
นี่เป็นเค้กชิ้นใหญ่ที่หลายคนจ้องตาเป็นมัน
ขณะนี้ ทางการ โดยกรมการข้าว กำลังดำเนินการคัดเลือก “ผู้ขายปุ๋ย” ว่าจะมีรายใดเข้าร่วมโครงการได้บ้าง รวมทั้งราคาด้วย
ถ้าคัดเลือกอย่างโปร่งใส มีประสิทธิภาพ สหกรณ์การเกษตรก็จะมีตัวเลือกว่าจะซื้อปุ๋ยสูตรไหน จากพ่อค้าปุ๋ยรายใด
คงพอจะเห็นภาพว่า ขั้นตอนนี้ สำคัญขนาดไหน
ปรากฏว่า มีผู้ประกอบการขายปุ๋ยอินทรีย์รายหนึ่ง ได้สมัครเข้าร่วมโครงการนี้แล้วเขียนเล่าเรื่องข้อมูล การดำเนินการ ความคาดหวัง เกี่ยวกับโครงการปุ๋ยคนละครึ่ง อย่างน่าสนใจ
ได้ลุ้นตามไปด้วย
แต่ในเรื่องเล่านั้น ก็สะท้อนถึงท่าที มุมมอง และความคาดหวังของคนในวงการปุ๋ยบางคน ที่มีต่อโครงการปุ๋ยคนละครึ่งอย่างน่าหวาดเสียว
ขอสรุปบางส่วน ให้ท่านผู้อ่านได้รับทราบไว้ ก่อนที่โครงการจะเดินหน้าไปหลังจากนี้
1. แฟนเพจ “แพทการ์เด้น Patt’Garden” โดยคุณสัมพันธ์ พิพัฒน์วรการเริ่มต้นด้วยการเล่าถึงความคิดที่จะสมัครเข้าไปขายปุ๋ยในโครงการปุ๋ยคนละครึ่งว่า
“...ฟังนะคุณสัมพันธ์ ผู้ใหญ่คนหนึ่งพูดกับผม
งานนี้เขามีเจ้าภาพกันหมดแล้วสำหรับโครงการปุ๋ยชาวนาคนละครึ่ง
คุณสัมพันธ์จะเข้ามาขายปุ๋ยในโครงการนี้ มันเป็นไปไม่ได้
อาจารย์เป็นคนตั้งใจดีเป็นคนไอเดียดีมีความสามารถ แต่เขาล็อคกันไว้หมดแล้ว
เขารู้เขาได้งานได้โควต้าผลิตกันหมดแล้ว ว่าใครจะได้ผลิตอะไรแล้วได้ปริมาณเท่าไหร่...
ผมเข้ากลุ่มดูข้อมูล บริษัทยักษ์ใหญ่เขานิ่งมาก มีแต่เชลส์แมนปุ๋ยกับผู้ประกอบการเล็กๆวิ่งกันให้พล่าน กับโครงการร่วมหกหมื่นล้าน ปุ๋ยเคมีปุ๋ยอินทรีย์และชีวภัณฑ์ 2.7 ล้านตันปุ๋ยเนี่ยนะ บริษัทยักษ์ใหญ่เงียบมาก
...จากมุมมองผู้หลักผู้ใหญ่ที่ผมไปปรึกษา ผมคงไม่ได้งานแน่ๆในโครงการนี้
แต่ผมมั่นใจในระบบภาครัฐภาคประชาสังคม ผมมั่นใจคุณภาพ มั่นใจในกระบวนกำลังการผลิตของโรงงานผมด้วย แม้จะมีข่าวว่ายักษ์ใหญ่เขากว๊านซื้อแม่ปุ๋ยการผลิตไว้หมดแล้วทั้งประเทศ
ผมมานั่งคิดรึมันจะจริงทำไมเจ้าใหญ่ๆ เขานิ่งสนิทกันจัง แต่ผมก็มั่นใจอีกนะว่าระบบเดิมๆมันต้องเปลี่ยน นี่มันยุค 56 ปีหลังจากการมีการตั้งโรงงานปุ๋ยเคมีแห่งแรกในประเทศไทยเกิดขึ้น
วัฏจักรเดิมๆของการเข้าควบคุมกระบวนการผลิตข้าวของชาวนา 4.8 ล้านครัวเรือนที่ถือว่าเป็นกระดูกสันหลังของประเทศชาติจะยังต้องคงเป็นเหมือนเดิมๆไปทุกปีทุกปีทุกรัฐบาลงั้นเหรอ
...ผมก็บอกเจ้าของโรงงานนะ แม้เราจะผ่านเอกสารต่างๆ จนได้เข้าร่วมโครงการเราอาจจะขายไม่ได้แม้แต่กระสอบเดียวก็เป็นได้นะ
ชาวนาก็อาจจะไม่ซื้อของเราแม้แต่กระสอบเดียว
เจ้าของโรงงานก็เงียบ ผมบอกยังไงอย่างน้อยเราก็ยังได้สู้จนสุดกำลัง ผลความจริงออกมายังไงก็เป็นเรื่องของโชคชะตาฟ้าลิขิตเป็นเรื่องของอนาคตก็เท่านั้น...”
2. หลังจากนั้น คุณสัมพันธ์ พิพัฒน์วรการ ได้ขยายความเพิ่มเติม เมื่อยื่นใบสมัครไปแล้ว ระบุว่า
“...หลังจากเจ้าหน้าที่ไม่รับเอกสาร ให้กลับบ้านไปก่อนวันนั้น เขาบอกแล้วค่อยมายื่นใหม่
วานนี้ ผมก็ให้โรงงานปุ๋ยมายื่นอีก ไม่ท้อๆ ลุยสมัครเข้าร่วมโครงการเป็นผู้ประกอบการค้าปุ๋ยให้ได้ในโครงการปุ๋ยคนละครึ่งชาวนา
ด่านแรกเมื่อวานสำเร็จเรียบร้อย คือ เจ้าหน้าที่กรมการข้าวรับเอกสารไปเรียบร้อย
แต่ก็ต้องไปลุ้นผลต่อเหมือนสอบเข้ารอบสอง คือ ต้องรอประกาศชื่อว่ามีเรามีสิทธิ์มีรายชื่อเข้าร่วมโครงการนี้ไหม
เจ้าของโรงงานก็บอกผมว่าอาจารย์ๆ เราจะได้เราจะผ่านไหม เห็นบอกจะไปตรวจโรงงานเราด้วย ผมบอกตรวจก็ตรวจก็ดีเลยจะได้เห็น
ผมตอบจริงๆ นะ ผมไม่รู้เหมือนกัน ว่าเราจะผ่านไหม และผมบอกว่าให้ยื่นแค่ 2 ตัวพอ
ตัวที่ชาวไร่ชาวนาชาวสวน เขาจำเป็นต้องเอาไปใช้จริงๆก็คือปุ๋ยอินทรีย์ที่มีออแกนิคแมตเตอร์สูงๆ เกือบ 30 ได้ยิ่งดี แม้ว่ากรมวิชาการจะระบุแค่ไม่ต่ำกว่า 20 เราทำของให้ดีมีคุณภาพเลยในนามอินทรีย์...เรา
สอง เชื่อผม บอกตัดปุ๋ยเคมีออกให้หมด เจ้าของงานคงอึ้ง เพราะบริษัทอยู่ได้ก็เพราะว่าปุ๋ยเคมีเลี้ยงอยู่ ผมบอกให้เหลือตัวจำเป็นจริงๆ ที่ใช้สำหรับนาข้าวคือตัว 16-8-8 เป็นสูตรที่เราคิดว่าจำเป็นสำหรับการทำนาจริงๆ พอ และมันก็อยู่ในสูตรที่ประกาศของโครงการภาครัฐด้วย
ปุ๋ยให้เหมาะกับการทำนาในประเทศไทยจริงๆ ซึ่งเราเองก็คิดค้นกันมานานแล้วนะเราก็ขึ้นทะเบียนเป็นปุ๋ยเคมีที่ใช้กับนาข้าวจริงๆ ก็คือสูตรนี้ และก็ทำมาตั้งหลายปีแล้ว
.jpg)
เชื่อผมลงทะเบียนไปแค่ 2 ตัวนี้พอ
ยูเรียหรือปุ๋ยเคมีอื่นๆ ตัดทิ้งหมดไม่ต้องยื่น
ผมเข้าโครงการนี้ ไม่ได้เข้ามาเพื่อที่จะอยากขายปุ๋ยมากๆหรอก แต่ผมอยากจะเปลี่ยนการเกษตรบ้านเรา โดยเฉพาะนาข้าว 4.68 ล้านครัวเรือนเนี่ย ให้รู้จักคำว่าปุ๋ยอินทรีย์เคมีต่ำคุณภาพสูง เขาต้องใช้ 2 ตัวนี้ร่วมกันเป็นแล้วหลักการทำนาข้าวบ้านเราจะเปลี่ยน
ถึงแม้เขาจะไม่ได้ใช้ปุ๋ยอินทรีย์หรือเคมีจากเราเขาจะซื้อจากบริษัทไหนก็ตามแต่เราต้องสอนเขาใช้ปุ๋ยอินทรีย์ที่เป็นปุ๋ยอินทรีย์จริงๆ ว่ามันดีกว่าหรือมันแตกต่างจากขี้หมูขี้เป็ดขี้ไก่ขี้วัวขี้ค้างคาวที่เขาใส่ไหม
เราต้องใช้โอกาสนี้แนะนำชาวนาชาวไร่ ที่เขาปลูกข้าวเก่งกว่าเราอีก มันน่าสนุกออกที่เราจะเกิดการถกเถียงวิพากษ์วิจารณ์ร่วมกันกับชาวนานับล้านๆ คนในเชิงสร้างสรรค์ในวงกว้างทั้งประเทศจากโครงการนี้ เพื่อให้ผลผลิตข้าวทะลุ 1 ตันต่อไร่เหมือนนานาประเทศเขา และร่างกายเกษตรกรชาวนาพี่น้องเราก็แข็งแรงปลอดภัยในการทำเกษตร
เชื่อผมยื่นแค่ 2 ตัวนี้ คือ ปุ๋ยอินทรีย์นวัตกรรม... และเคมี 16-8-8
เอาแค่ 2 ตัวนี้เชื่อผมๆ
เจ้าของโรงงานงานนิ่ง แล้วก็ตอบผม เอาไงเอากันอาจารย์ ตามอาจารย์
สรุป โรงงานส่งเอกสาร 2 ตัว แล้วผมก็ถามว่ากรอกปริมาณเท่าไหร่สำหรับปุ๋ยอินทรีย์ที่จะผลิตได้ในระยะเวลา 10 เดือนต่อจากนี้
เขาบอกว่า กรอกไปหมื่นตัน
ผมบอกตามนั้นเลย ตามที่โรงงานคิดว่าจะผลิตได้
เจ้าของโรงงานบอก เท่านี้ก็เยอะแล้วอาจารย์ เพราะคนผลิตปุ๋ยอินทรีย์ทั้งประเทศ ช่วยกันผลิตเท่านี้ก็เยอะแล้ว เหลือๆ ด้วย รวมๆ กันแสนตัน ก็มากมายแล้วอาจารย์ ก็ผลิตกันไม่ทันแล้ว
ผมบอกได้เลยก็ได้ แล้วแต่โรงงานคิดได้เลยๆ ตามนั้น ผมไม่ติด
แต่ผมขอถามใหม่ โครงการนี้ ถ้าสมบูรณ์แบบทั้งภาครัฐจ่าย 30,000 ล้านให้รวมกับชาวนาจ่ายอีก 30,000 ล้าน มูลค่าโครงการประมาณการ 6 หมื่นล้าน
ฟังผมให้ดีนะ ถ้าเอาสถิติการใช้ปุ๋ยบ้านเราเดิมๆ ชาวบ้านใช้ปุ๋ยเคมี 90% อินทรีย์รวมกับชีวภาพ 10%
ถ้าผมคิดว่า อัตราส่วนของการใช้ปุ๋ย เหมือนกับสถิติการใช้เงินมันเท่ากัน
นั่นหมายถึงชาวนาจะซื้อหาปุ๋ยเคมีด้วยเงินประมาณ 5.4 หมื่นล้าน และซื้อปุ๋ยอินทรีย์ด้วยเงินแค่ 6 พันล้าน
ฟังต่ออีกนะ ผมไม่รู้ว่าราคาเดียวกันทั้งประเทศที่จะประกาศออกมามันเท่าไหร่พรุ่งนี้มั้งที่เห็นบอกอธิบดีจะแถลงข่าวเรื่องนี้
ผมเดาเอาจากที่ผมโดดเข้ามาสู่วงการปุ๋ย เอาราคาแบบกลางๆ ยังไม่รวมค่าขนส่งปุ๋ยอินทรีย์คุณภาพจริงๆก็น่าจะอยู่ที่ตันละ ไม่ต่ำกว่า 6,000 บาทหรือเปล่า
เจ้าของโรงงานก็บอกเป็นราคาที่ไม่น่าเกลียดที่ขายๆกัน งั้นก็เอา 6 พันล้าน หาร 6,000 บาทต่อตัน ทั้งหมดเท่าไหร่
เจ้าของโรงงานบอกไม่รู้สิอาจารย์มันเยอะ คิดไม่ทัน
ก็ล้านตันไง ผมบอก
ปุ๋ยอินทรีย์ ถ้าตามอัตราส่วนที่ผมคิดตรรกะแบบง่ายๆ ตามอัตราส่วนแบบหยาบๆ คณิตศาสตร์เบื้องต้น ใน 10 เดือน ต้องขนปุ๋ยอินทรีย์จริงๆให้ชาวนาล้านตัน
นั่นหมายถึงเดือนละแสนตัน เจ้าของโรงงานบอกโอ้โหโรงงานทั้งประเทศรวมกันยังยากเลยอาจารย์
ผมบอกเห็นไหม ถ้าเรามีของดีของเรามีคุณภาพเรานำเสนอตัวเองอ่ะถูกต้องแล้ว ถ้าโรงงานอื่นๆเขาทำได้เต็มที่ส่งได้หมดก็นับว่าเก่งมากๆ
ความยากมันไปอยู่ตรงออแกนิคแมตเตอร์ต่างๆ ต้องหามาให้เพียงพอ แทบจะหมดทั้งประเทศเลยด้วยซ้ำ เพราะฉะนั้น เรายังพอมีโอกาสสู้นะ
...ก็ที่ผมบอกข้างต้น เรามีครบทุกอย่างเรายื่นเอกสารถูกต้องทุกอย่าง โรงงานเราก็เป็นโรงงานระดับต้นๆ ในประเทศเหมือนกัน
ถ้าเราไม่ผ่าน อีกหลายสิบโรงงานก็คงไม่ผ่าน แล้วโรงงานไหนที่เขาจะผลิตได้เป็นล้านตันได้ใน 10 เดือน
ผมก็บอกเจ้าของโรงงาน ต่อให้เอกสารไม่ผ่าน คุณไม่ต้องตกใจหรอก คนงานคุณร้อยกว่าคนในโรงงานมีงานทำแน่นอน เพียงแต่ผมอาจจะไม่ได้ขายไม่ได้เกี่ยวข้องด้วยตรงๆ หรือได้ขายให้กับเกษตรกรหรือองค์กรภาครัฐตรงๆ แต่ก็คงมีคนมาจ้างโรงงานคุณผลิตมาจ้างปั้นและซื้อ organic matter โรงงานมากมายแน่นอน 10 เดือนจากนี้ ไม่ต้องห่วงผมกับลูก
โครงการนี้ก็น่าจะประกาศผลใน 2-3 วันนี้ ลุ้นๆว่าการโดดเข้าสู่วงการปุ๋ยของนาข้าวพืชไร่ของผมกับลูกสาว ฝันจะเป็นจริงไหมกับการทำเกษตรนาข้าวอินทรีย์ทั้งแผ่นดินหรือสอนให้เขาใช้อินทรีย์ผสมเคมีต่ำเป็นอย่างน้อย
ถ้ามันได้ผล กระดูกสันหลังของประเทศชาติอย่างชาวไร่ชาวนาบ้านเราน่าจะลืมตาอ้าปากพอสู้กับชาวสวนผลไม้เขาได้บ้าง และนั่นก็คือความฝันของผมเลย
แม้แท้จริงชาวบ้านชาวไร่ชาวนาอาจจะไม่ซื้อปุ๋ยผมสักกระสอบ แต่ผมก็จะสอนเขาทำแบบนี้ต่อไป
อนาคตการเกษตรมันต้องสอดคล้องกับ BCG model มันหลีกเลี่ยงไม่ได้จริงๆ เพราะมันเกี่ยวเนื่องโดยตรงกับคุณภาพผลผลิตและราคาผลผลิตและโลกร้อนก็มาเป็นปัจจัยด้วย....”
3.น่าสนใจและน่าติดตาม ว่าโครงการปุ๋ยคนละครึ่ง จะมีผู้ประกอบการผ่านการคัดเลือกกี่ราย? เป็นรายใหญ่กี่ราย? รายเล็กๆ กระจายตามจังหวัดต่างๆ กี่ราย?
แล้วจะมีรายใหญ่ๆ กี่ราย ที่ได้รับเลือกซื้อปุ๋ยโดยสหกรณ์การเกษตรเป็นคนซื้อ จากรายชื่อที่ผ่านการคัดเลือกมา
ผู้ได้รับเลือก จะมีการไปซื้อสินค้าจากรายอื่นมาขายกินหัวคิว หรือไม่? เพราะผลิตเองเพียงพอหรือ?
แค่นี้ ก็เร้าใจ น่าติดตามจะแย่แล้ว
สารส้ม

 (คลิป) แนวหน้าTAlk : แร่แรร์เอิร์ธคืออะไร? ทำไมสหรัฐสนใจ!!
										(คลิป) แนวหน้าTAlk : แร่แรร์เอิร์ธคืออะไร? ทำไมสหรัฐสนใจ!!
									 รมว.กลาโหม เยี่ยมทหารกล้า ย้ำ ไม่ทอดทิ้ง ดูแลผู้เสียสละและครอบครัวอย่างดีที่สุด
										รมว.กลาโหม เยี่ยมทหารกล้า ย้ำ ไม่ทอดทิ้ง ดูแลผู้เสียสละและครอบครัวอย่างดีที่สุด
									 'ญาญ่า'ทำถึงเกิน! แปลงโฉมชวนหลอนเป็น'ปลากล้องโทรทรรศน์' ลุคนี้ทำเอาฮือฮาสนั่นโซเชียล
										'ญาญ่า'ทำถึงเกิน! แปลงโฉมชวนหลอนเป็น'ปลากล้องโทรทรรศน์' ลุคนี้ทำเอาฮือฮาสนั่นโซเชียล
									 คนละครึ่งพลัส 3 วัน ยอดใช้จ่ายรวมกว่า 5.4 พันล้าน ร้านค้าร่วมลงทะเบียนทะลุ 7.8 แสนราย
										คนละครึ่งพลัส 3 วัน ยอดใช้จ่ายรวมกว่า 5.4 พันล้าน ร้านค้าร่วมลงทะเบียนทะลุ 7.8 แสนราย
									 ผู้เชี่ยวชาญประวัติศาสตร์ชี้การถอดยศเจ้าชายแอนดรูว์ กษัตริย์ชาร์ลส์หวังสะสางราชวงศ์อังกฤษ
										ผู้เชี่ยวชาญประวัติศาสตร์ชี้การถอดยศเจ้าชายแอนดรูว์ กษัตริย์ชาร์ลส์หวังสะสางราชวงศ์อังกฤษ
									
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี