“สนิมเหล็กเกิดแต่เนื้อ..ในตน” โคลงโลกนิติวรรคนี้ใช้ได้กับ“รัฐบาลแพทองธาร ชินวัตร” ที่ท้องแก่จวนจะคลอดเต็มทน..แต่ก็ยังคาดเดาไม่ได้ว่า คณะรัฐมนตรีที่ใกล้คลอดเต็มทนนี้..จะออกมาพิกลพิการหรือไม่
เพราะอาจจะออกมาแบบหน้าตาบูดเบี้ยว..หูแหว่ง..จมูกบี้..ตาเข หรืออะไรก็ได้ทั้งนั้น..โดยฟังจากพรรคพลังประชารัฐ จับน้ำเสียงได้ว่า พรรคเพื่อไทยจะโดย“นายใหญ่”แห่งศูนย์อำนาจเถื่อนบ้านจันทร์ส่องหล้า มีแค้นต้องชำระกับคนใน“ตระกูลวงษ์สุวรรณ”..ที่มีกระแสข่าวออกมาก่อนหน้านี้ว่า พรรคเพื่อไทยไม่ต้องการให้คนในตระกูลนี้เป็นรัฐมนตรีในรัฐบาลชุดนี้..ทำให้จนบัดนี้ พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ก็ยังมีปัญหาว่า..พรรคเพื่อไทยจะให้เป็นรัฐมนตรีร่วมรัฐบาลหรือไม่อย่างไร
ล่าสุดเมื่อวันที่ 26 สิงหาคมวานนี้ นายไพบูลย์ นิติตะวัน รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ปฏิบัติหน้าที่แทนหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ..ได้ลงนามในหนังสือของพรรคพลังประชารัฐ เลขที่ พปชร.138/2567 ลงวันที่ 26 สิงหาคม 2567...ถึงนายกรัฐมนตรี “นางสาวแพทองธาร ชินวัตร”..เรื่อง-ขอให้สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี..ดำเนินการส่งแบบข้อมูลประกอบการเสนอเรื่องการแต่งตั้งรัฐมนตรีให้กับ พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ
โดยอ้างในหนังสือว่า..พรรคพลังประชารัฐได้มีการประชุมคณะกรรมการบริหารพรรคเมื่อวันศุกร์ที่ 23 สิงหาคม 2567 และได้พิจารณาเรื่องเสนอชื่อบุคคลให้ได้รับการแต่งตั้งเป็นผู้ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีตามข้อบังคับพรรคพลังประชารัฐ..ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 20 สิงหาคม 2567 พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ..ได้เสนอรายชื่อบุคคลซึ่งพรรคเห็นชอบให้ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีของพรรคไปให้นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี..ผ่าน นพ.พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช เลขาธิการนายกรัฐมนตรี จำนวน 4 คน
ประกอบด้วย 1.พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ดำรงตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม 2.ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ 3.นายสันติ พร้อมพัฒน์ ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข และ 4.นายอรรถกร ศิริลัทธยากร ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์
ปรากฏว่า จนบัดนี้สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ก็ยังไม่ได้ติดต่อเพื่อส่งแบบข้อมูลประกอบการเสนอเรื่องการแต่งตั้งรัฐมนตรีให้กับ พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ..ซึ่งเป็นบุคคลที่พรรคพลังประชารัฐเสนอชื่อให้ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรี
ด้วยเหตุดังนั้น พรรคพลังประชารัฐโดยนายนายไพบูลย์ นิติตะวัน ซึ่งปฏิบัติหน้าที่แทนหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ จึงได้ทำหนังสือถึงนางสาวแพทองธาร ชินวัตร..เพื่อย้ำเตือนว่าพรรคพลังประชารัฐได้เสนอชื่อรัฐมนตรี 4 คนดังกล่าว..และถ้าหากนางสาวแพทองธารเห็นว่าในจำนวนรายชื่อบุคคลที่เสนอไปนี้..มีบุคคลใดบุคคลหนึ่งไม่ผ่านคุณสมบัติในการดำรงตำแหน่งรัฐมนตรี..ทางพรรคพลังประชารัฐก็ได้ยืนยันว่า..ที่ประชุมกรรมการบริหารของพรรคมีมติมอบอำนาจให้หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐเป็นผู้พิจารณาเปลี่ยนแปลงรายชื่อบุคคลใหม่..เพื่อเสนอให้นายกรัฐมนตรีดำเนินการทดแทน
หากพิจารณาตามนี้ก็เท่ากับว่า..การเสนอชื่อบุคคล 3 คนเข้าไปเป็นรัฐมนตรีจากทางฟากฝั่งของ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า เลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ..ที่ประกาศแยกทางทางการเมืองกับ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ..เป็น“บัญชีเถื่อน”..มิได้ผ่านความเห็นชอบของกรรมการบริหารพรรคพลังประชารัฐ..ตามข้อบังคับพรรคดังที่นายไพบูลย์ นิติตะวัน..อ้างถึง
รายชื่อรัฐมนตรี 3 คนที่ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า เสนอ ก็คือ 1.นายอัครา พรหมเผ่า น้องชาย ร.อ.ธรรมนัส ที่ยึดโควตาเป็นตัวตายตัวแทนของพี่ชาย..ซึ่ง ร.อ.ธรรมนัสอาจมีปัญหาเรื่องคุณสมบัติกรณีที่เคยถูกจับกุมที่ประเทศออสเตรเลียเมื่อปี 2536..ฐานมีส่วนรู้เห็นเกี่ยวข้องกับการนำเข้าเฮโรอีนในปริมาณเพื่อการค้าเข้าไปยังประเทศออสเตรเลีย..และคดีนี้ศาลออสเตรเลียได้มีคำพิพากษาตัดสินในวันที่ 31 มีนาคม 2537 สั่งจำคุก ร.อ.ธรรมนัส 6 ปี 2.นายอรรถกร ศิริลัทธยากร สส.ฉะเชิงเทรา พรรคพลังประรัฐ อดีตรัฐมนตรีช่วยฯกระทรวงเกษตรฯ และ 3.นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ หัวหน้าพรรคกล้าธรรม ที่เคยถูก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ปลดออกจากตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยฯ กระทรวงแรงงาน พร้อมกับ ร.อ.ธรรมนัส ในปี 2564
ถ้ารายชื่อคณะรัฐมนตรีของรัฐบาล“แพทองธาร 1”ประกาศออกมาว่า..ไม่มีชื่อ พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ หรือมีชื่อรัฐมนตรี 3 คนที่ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า เสนอไป..รัฐบาลมีปัญหาใหญ่แน่..เพราะนอกจากรัฐมนตรีจะเถื่อนแล้ว..คณะรัฐมตรีก็อาจจะเถื่อนทั้งคณะด้วย..เนื่องจากรายชื่อรัฐมนตรีที่ ร.อ.ธรรมนัสเสนอไปนั้น..มิได้ผ่านความเห็นชอบของคณะกรรมการบริหารพรรคพลังประชารัฐ
อย่างที่กล่าวไว้ตอนต้นว่า “สนิมเหล็กเกิดแต่เนื้อ..ในตน”..เพราะยังไม่ทันไร ก็ส่อเค้าแล้วว่า..รัฐบาลที่มี“อดีตนักโทษทักษิณ ชินวัตร”ครอบครองลูกสาวที่เป็นนายกรัฐมนตรี คือนางสาวแพทองธาร ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรีนั้น..จะไปไม่รอด ซึ่งถ้าหากรอดจากด่านแรกนี้..โดยรายชื่อรัฐมนตรีที่ประกาศออกมาไม่มีชื่อบุคคลที่ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า เสนอโดยไม่ผ่านความเห็นชอบของกรรมการบริหารพรรคพลังประชารัฐ..ข้างหน้าก็ยังมี“กับดักมรณะ”รออยู่อีก
“กับดักมรณะ”ที่ว่า ก็คือ นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ เจ้าของฉายา“นักร้อง EMS” ได้ยื่นคำร้องต่อ ป.ป.ช. ให้สอบ“แพทองธาร ชินวัตร”ในในฐานะที่ได้รับแต่งตั้งให้เป็นรองประธานกรรมการยุทธศาสตร์ซอฟต์พาวเวอร์แห่งชาติ, รองประประธานกรรมการพัฒนาระบบสุขภาพแห่งชาติ และประธานกรรมการพัฒนาซอฟต์พาวเวอร์แห่งชาติ..ซึ่งควรเป็นเจ้าพนักงานของรัฐ..ว่ามีการรับทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใด..อันเข้าข่ายฝ่าฝืนมาตรา 128 วรรคหนึ่ง..ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 ที่บัญญัติว่า “ห้ามมิให้เจ้าพนักงานของรัฐผู้ใดรับทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดอันอาจคํานวณ”หรือไม่ และอีกเรื่องหนึ่งมีผู้ไม่ปรากฏนามได้ร้องต่อ กกต.ให้ยุบพรรคเพื่อไทย..ฐานปล่อยให้นายทักษิณ ชินวัตร เข้าครอบงำพรรค
และยังมีที่ขึ้นบัญชีจองกฐิน“แพทองธาร ชินวัตร”แบบโดนแน่ เรื่อง“ผิดจริยธรรมร้ายแรง”.. อีกสองเรื่อง 1.กรณีข้อสอบรั่วสมัยสอบเอนทรานซ์เข้าคณะรัฐศาสตร์ จุฬาฯ ในปี 2547 ช่วงรัฐบาลพรรคไทยรักไทยที่มี“ทักษิณ ชินวัตร” เป็นนายกรัฐมนตรี และ 2.กรณีที่ดินธรณีสงฆ์“สนามกอล์ฟอัลไพน์”ที่จังหวัดปทุมธานี ซึ่งแพทองธารเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่
“สนิมเกิดแต่เนื้อ..ในตน”ซึ่งเป็นวรรคแรกของ“โคลงโลกนิติ”..เป็นอุปมาอุปมัยของคนไทยแต่เก่าก่อนสำหรับใช้เป็นอุทาหรณ์เตือนใจให้ทุกผู้ทุกนาม..ดำเนินชีวิตในทางที่ถูกต้องดีงาม
เปรียบได้ดังบาปกรรมซึ่งเกิดจากตัวบุคคลเอง..แล้วผลแห่งบาปกรรมนั้นย่อมให้ทุกข์ให้โทษแก่บุคคลนั้นเอง !
รุ่งเรือง ปรีชากุล
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี