วันจันทร์ ที่ 17 พฤศจิกายน พ.ศ. 2568
ฝ่ายรัฐบาล และบรรดากระบอกเสียงได้ออกมาป่าวประกาศกันว่า ขณะนี้สังคมไทยได้ก้าวข้ามการเมืองแบบแบ่งสีแบ่งข้างออกไปแล้ว หรือนัยหนึ่งฝ่ายนายทุน ฝ่ายขุนศึก และฝ่ายภักดีอนุรักษ์นิยมที่เคยขับเคี่ยวกันมาได้หันมาจับมือร่วมหอลงโรงกันแล้วในการที่จะนำพาประเทศไปข้างหน้า และฉะนั้นพลเมืองทั้งหลายก็ต้องให้โอกาสให้ฝ่ายรัฐบาลทำงานเพื่อรับใช้สังคมและประเทศ เพราะฝ่ายรัฐบาลมีความตั้งใจและมีความสมานไมตรีกันแล้ว และฉะนั้นฝ่ายพลเมืองก็มิควรที่จะทำการใดๆ ที่จะขัดขวาง ก่อหวอด หรือทำตัวให้เป็นอุปสรรคต่อการดำเนินการขับเคลื่อนประเทศ และควรจะเป็นผู้ที่เชื่อฟังและรับผลประโยชน์ต่างๆ จากฝ่ายผู้ปกครองบริหารประเทศ
ฟังเผินๆ ก็เป็นการเรียกร้องที่พอฟังได้และสมเหตุสมผล แต่ทว่าประเด็นปัญหาต่างๆ ที่ผุดขึ้นมา ทั้งในรัฐบาลชุดที่แล้ว และรัฐบาลชุดปัจจุบันที่มีพรรคเพื่อไทยเป็นแกนนำนั้น ทั้งสองฝ่ายต่างก็เป็นผู้สร้างประเด็นปัญหากันเองทั้งสิ้น ซึ่งประชาชนพลเมืองทั่วไปก็ย่อมจะต้องมีปฏิกิริยาเป็นธรรมดา เพราะประชาชนพลเมืองเป็นเจ้าของประเทศ และมีความคิดอ่านเป็นตัวของตัวเอง
โดยทั่วไป การพูดจาชี้แจงแถลงไขเกี่ยวกับนโยบายและมาตรการหรือเหตุการณ์หนึ่งใด โดยฝ่ายชนชั้นปกครองมักจะเป็นไปในทำนองเสมือนว่า ประชาชนพลเมืองกินหญ้าและกินแกลบ แต่เอาจริงแล้ว ฝ่ายชนชั้นผู้ปกครองต่างหากที่ไม่มีความอาลัยอาวรณ์ หรือสติสัมปชัญญะแห่งความถูกต้องชอบธรรม ฝ่ายประชาชนพลเมืองจึงอดคิดไม่ได้ว่า ฝ่ายชนชั้นผู้ปกครองต่างหากมั้งที่กินหญ้าและกินแกลบ
อีกทั้งการบริหารราชการ และการเผชิญกับความท้าทายประเด็นปัญหาต่างๆ ก็มักจะเป็นไปในลักษณะสุกเอาเผากิน หรือไม่ก็เป็นแบบผักชีโรยหน้า ซึ่งทั้งนี้ทั้งนั้น มักจะขาดข้อมูลเชิงวิทยาศาสตร์หรือวิชาการ และสถิติตัวเลขที่แน่ชัด การบริหารราชการจึงมักจะเป็นไปในลักษณะความดำริ มโนจิต และการพูดจาแบบซ้ำแล้วซ้ำเล่าอีก เช่น ได้สั่งการไปแล้วและได้กำชับไปแล้ว หรือไม่ก็ได้แต่งตั้งคณะกรรมการและคณะทำงานไปแล้ว เสมือนว่าคำกล่าวคำสั่งต่างๆ นั้น จะนำไปสู่การแก้ไขปัญหาบ้านเมือง หรือการต่อยอดให้เรื่องราวต่างๆ คืบหน้าไปได้ในทิศทางที่ดีและอย่างมั่นคง
ทั้งนี้ฝ่ายชนชั้นผู้ปกครองก็มักจะลืมเลือนว่า ราชอาณาจักรไทยเป็นสังคมประชาธิปไตยและสังคมประชาธิปไตยนั้นจะต้องมีการพัฒนาปรับปรุงตัวอยู่ตลอดเวลา ซึ่งหมายความว่า การปรึกษาหารือ การมีขีดความสามารถในการรับฟังและไตร่ตรอง ซึ่งเป็นเรื่องที่จำเป็นและมีความสำคัญยิ่ง หมายความว่า ประชาชนพลเมืองมีสิทธิที่จะมีส่วนร่วมในการแสดงความคิดเห็น ท้วงติง ร้องเรียน และร่วมตัดสินใจ โดยการแสดงออกต่างๆ นั้นมิได้หมายความว่า จะต้องเป็นเรื่องของการขัดขวางหรือบ่อนทำลายฝ่ายชนชั้นผู้ปกครองแต่อย่างใด และสิ่งใดที่เป็นความผิดพลาดทางด้านนโยบายและมาตรการ ก็ย่อมสามารถแก้ไขได้ ถือเป็นเรื่องปกติของการบริหารราชการ และการที่ฝ่ายปกครองจะยืนกรานเป็นกระต่ายขาเดียว ก็ถือเป็นเรื่องของการเอาแต่ใจตัวเอง ซึ่งก็จะสะท้อนความเป็นฝ่ายอำนาจนิยม มิใช่ลักษณะหรือเนื้อหาของสังคมประชาธิปไตย
อีกทั้งฝ่ายชนชั้นปกครองต้องเป็นแบบอย่างของความดีงาม สุจริต เที่ยงธรรม และมีจริยธรรมเป็นตัวกำหนดและกำกับวิถีชีวิตทั้งในที่แจ้งและที่ลับ จึงเป็นที่หวังว่า ฝ่ายชนชั้นปกครองจะเปลี่ยนโภชนาการของตนเองให้กลับมาเหมือนกับบุคคลธรรมดาโดยทั่วไป เพื่อที่จะได้วิตามิน และสารอาหารที่จำเป็นไปเลี้ยงสมองได้อย่างครบถ้วน จะได้ใช้สติสัมปชัญญะทำหน้าที่เพื่อชาติ เพื่อประชาชนดังที่กล่าวอ้างกันมาตลอดเสียที
กษิต ภิรมย์
kasitfb@gmail.com

'กัมพูชา'เฟกนิวส์อีก! กระพือข่าว ทหารพรานไทยทำร้ายร่างกายแรงงานหญิงชาวเขมร
'ธรรมนัส'เผยราคาข้าวเริ่มปรับตัวดีขึ้น คาดราคารับซื้อข้าวหอมมะลิ ปรับตัวถึง 15,000 บาทต่อตัน
จิตวิญญาณไม่เคยหาย! ที่แท้'อดีตหัวหน้าดับเพลิง' ลุยเดี่ยวระงับเหตุเพลิงไหม้
กองเรือยุทธการ สั่งเตรียมพร้อม ‘เรือหลวงจักรีนฤเบศร’ งดเยี่ยมชมชั่วคราว หวั่นถูกสอดแนม
'รวมไทยสร้างชาติ' รุกคืบปักธง 'กาญจนบุรี' เปิดสำนักงานตัวแทนพรรคแห่งใหม่

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี