วันศุกร์ ที่ 7 พฤศจิกายน พ.ศ. 2568
คนอย่างทักษิณ ชินวัตร ไม่สามารถอยู่ได้โดยปราศจากอำนาจรัฐ อำนาจการเมือง และอำนาจทุน เพราะเขาเสพติดอำนาจรัฐไปแล้ว เพราะฉะนั้น เขาจึงต้องกระเสือกกระสนทุรนทุรายตะเกียกตะกายหาอำนาจรัฐตลอดเวลา เพราะเขารู้ดีว่าเมื่อมีอำนาจรัฐ อำนาจการเมือง ก็ทำให้เขามีความมั่งคั่งอู้ฟู่ล้นเหลือ
คำพูดใดๆ จากปากของทักษิณถูกวิพากษ์โดยคนที่รู้ทันพฤติกรรมสามานย์ของทักษิณว่าไม่สามารถเชื่อถือได้แม้แต่น้อย เพราะมีหลักฐานชัดเจนว่าทุกคำพูดทางการเมืองจากปากทักษิณไม่เคยปรากฏเป็นความจริงแม้แต่ครั้งเดียว แต่ทุกอย่างคือคำโฆษณาชวนเชื่อ เพื่อหวังผลทางการเมืองเท่านั้น
“ผมรวยแล้ว ผมไม่โกง” “ผมจะกลับบ้านมาเลี้ยงหลาน ผมไม่เล่นการเมืองแล้ว” “หากเสียงปืนดังขึ้นนัดแรก ผมจะกลับมาเดินนำหน้าพี่น้อง”
“ผมจะแก้ปัญหาจราจรในกรุงเทพฯ ภายใน 6 เดือน” “ผมลาออกจากหัวหน้าพรรคไทยรักไทยแล้ว ผมจะยุติบทบาททางการเมือง” “ผมจะวางมือทางการเมืองร้อยเปอร์เซ็นต์” “การกลับมาวันนี้ ผมไม่ขอยุ่งเกี่ยวกับการเมืองอีก” “ไม่คิดเข้าสู่การเมือง น้องผมเป็นนายกฯแล้ว หมดเจเนอเรชั่นผมแล้ว” “สิบปีผ่านมาจนถึงทุกวันนี้ ผมต้องการครอบครัวที่อบอุ่นคืนมา โดยไม่มีคนในครอบครัวผมยุ่งเกี่ยวกับการเมืองอีกเลย”
ย่อหน้าข้างบนนั้นเป็นเพียงตัวอย่างของคำโกหกจากปากของทักษิณ เพราะหากจะนำคำโกหกจากปากของทักษิณมานำเสนอให้หมดแล้ว รับรองว่าเนื้อที่ของคอลัมน์นี้ไม่เพียงพออย่างแน่นอน
ถามว่าทำไมทักษิณชอบโกหก แล้วถามต่อไปว่าทักษิณคิดหรือว่ามีคนเชื่อคำโกหกของทักษิณ ตอบคำถามแรกที่ว่า ทำไมทักษิณชอบโกหก ขอสารภาพตรงๆ ว่าตอบไม่ได้ว่าเพราะอะไร แต่รู้เพียงว่าเขาโกหกบ่อยมาก และโกหกประจำ ส่วนคำถามที่ว่ามีคนเชื่อคำโกหกของทักษิณหรือ ตอบว่ามีเพราะคนที่เชื่อคำโกหกของทักษิณก็คือตัวของทักษิณเอง แล้วก็น่าจะมีคนในบ้านของทักษิณด้วย ส่วนคนเสื้อแดงจะเชื่อคำโกหกของทักษิณหรือไม่ ประเด็นนี้ก็ขึ้นกับว่าคนเสื้อแดงได้ประโยชน์อะไรจากคำโกหกของทักษิณหรือเปล่า หากได้ประโยชน์เขาก็เชื่อ แต่หากไม่ได้ประโยชน์ ก็ไม่มีใครเชื่อ
การขึ้นเวทีปราศรัยหาเสียงการเมืองที่จังหวัดอุดรธานีโดยทักษิณเมื่อเร็วๆ นี้ ถูกวิเคราะห์วิพากษ์และวิจารณ์โดยคอการเมืองว่า การปรากฏตัวบนเวทีโดยทักษิณในครั้งนี้ต่างไปจากเมื่อยุคที่ทักษิณยึดกุมอำนาจรัฐได้อย่างค่อนข้างเบ็ดเสร็จเด็ดขาดเมื่อประมาณ 20 กว่าปีที่แล้วอย่างมาก ส่วนประเด็นที่บอกว่ายังมีคนนับหมื่น (หลายหมื่น) ไปรอพบทักษิณที่เวทีปราศรัย ก็มีคำถามว่าคนที่ไปรอพบนั้น ไปรอด้วยใจจริงๆ หรือไปเพราะมีการจัดตั้ง มีการว่าจ้าง หรือมีการพาไป หรือไม่
คนอุดรฯ กลุ่มหนึ่งบอกกับผู้เขียนว่าหากย้อนหลังไปในยุคที่ทักษิณเฟื่องฟูทางการเมืองมากๆ รับรองว่าคนเสื้อแดงอุดรฯ จะไปฟังทักษิณมากกว่านี้ แต่หลังจากทักษิณกลับไทยเมื่อ 22 สิงหาคม 2567 แล้วไม่ยอมติดคุก ทำให้คนเสื้อแดงจำนวนไม่น้อยมองว่าทักษิณไม่ใช่คนที่เขาต้องให้ความนับถืออีกต่อไป ส่วนประเด็นที่ทักษิณเคยบอกว่าไม่เกี่ยวข้องกับคนเสื้อแดงนั้น ยังเป็นคำพูดที่ฝังลึกในใจคนเสื้อแดงที่มีอุดมการณ์การเมืองอย่างชนิดที่ไม่สามารถลบล้างได้ เพราะคนเสื้อแดงที่มีอุดมการณ์การเมืองมองตรงกันว่าทักษิณถีบหัวคนเสื้อแดงทิ้งหลังจากเห็นว่าไม่ได้ประโยชน์จากคนเสื้อแดง
แต่วันนี้ ทักษิณกลับมาเว้าวอนขอพลังจากคนเสื้อแดงที่อุดรฯ เพราะบัดนี้ทักษิณตระหนักและประจักษ์แล้วว่าความนิยมจากคนเสื้อแดงที่เคยมีให้ทักษิณมันลดน้อยถอยลงไปอย่างมาก มากชนิดที่ว่าไม่มีวันจะกลับไปมากเหมือนเดิมได้อีกต่อไป
ทักษิณในสายตาของคนเสื้อแดงอุดรฯ โดยเฉพาะคนเสื้อแดงมีอุดมการณ์การเมืองแท้จริงในยามนี้ จึงเปรียบเสมือนสุนัขป่วยที่ต้องซมซานกลับไปหาแหล่งอาหารเดิมที่เคยหล่อเลี้ยงกระเพาะของมันมาก่อน ซึ่งแม้ว่าคนเสื้อแดงอุดรฯ จะไม่ขับไล่ทักษิณ แต่ก็ไม่ไปต้อนรับขับสู้เหมือนเดิม ส่วนทักษิณจะยังหลอกตัวเองว่าคนเสื้อแดงอุดรฯ ยังศรัทธาทักษิณก็เป็นเรื่องของทักษิณ แต่คนเสื้อแดงอุดรฯ บอกว่าไม่มีวันเหมือนเดิม ไม่มีทางเชื่อทักษิณ และไม่มีวันไว้ใจทักษิณอีกแล้ว เพราะเมื่อทักษิณตระบัดสัตย์กับคนเสื้อแดง คนเสื้อแดงก็ไม่ให้อภัยอย่างเด็ดขาด เพราะความไว้วางใจนั้นเมื่อมันหมดสิ้นไปแล้ว มันไม่สามารถมีกลับคืนมาอีกได้ มันจบแล้วจบเลย ทักษิณมาแล้วก็ไป
เขาไม่ได้อยู่กับคนเสื้อแดงอย่างจริงใจ เพราะเขาไม่มีใจจริงๆ ให้คนเสื้อแดง

สื่อถึงใครน้า? 'เป๊ก เศรณี'โชว์ร้องเพลงเสียงละมุน ฟังแล้วใจสั่นทั้งโซเชียล
ผบช.ภ.1 นำตำรวจภาค 1 จัดพิธีบำเพ็ญกุศลปัณรสมวาร (15 วัน) อุทิศถวายเป็นพระราชกุศลแด่‘สมเด็จพระพันปีหลวง’
‘ผบ.ตร.’สั่งเร่งประสานญี่ปุ่น รับตัว‘ด.ญ.’วัย 12 ปีกลับไทย เผยแม่อยู่ไต้หวัน
‘กรมชลประทาน’เตือน‘11 จังหวัด’ริมน้ำ เฝ้าระวัง‘เขื่อนเจ้าพระยา’ปรับเพิ่มการระบายน้ำ
DSI ลุยสางคดีแม่พาลูกวัย 12 ขวบขายร้านนวดค้าประเวณีในญี่ปุ่น จ่อชงเป็นคดีพิเศษ

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี