วันอาทิตย์ ที่ 28 ธันวาคม พ.ศ. 2568

คงไม่ต้องพูดซ้ำให้มากความและเสียเวลาว่าตราประจำของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย (เรียกสั้นๆ ว่าจุฬาฯ) คือตราพระเกี้ยว และตราพระเกี้ยวก็คือเครื่องหมายแทนพระองค์ของสมเด็จพระปิยมหาราชเจ้า พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว พระผู้พระราชทานรากเหง้าของการศึกษาแห่งสยามจนได้พัฒนาสืบต่อมาเป็นจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระมหาธีรราชเจ้า ผู้พระราชทานนาม จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เมื่อราว 1 ศตวรรษเศษที่ผ่านมา
จากวันวานถึงบัดนี้ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยยังคงใช้ตราประจำมหาวิทยาลัยคือพระเกี้ยว แต่ก็มีคำถามว่าแล้วบัดนี้ผู้บริหารจุฬาฯ จะใช้ตราพระเกี้ยวองค์ใดเป็นตราประจำมหาวิทยาลัยกันแน่ เพราะเมื่อสังเกตในงานสำคัญของจุฬาฯ ก็กลับพบว่ามีการติดตราพระเกี้ยวที่ไม่เหมือนกัน ทั้งๆ ที่
ผู้บริหารจุฬาฯ จำเป็นต้องสำเหนียกไว้ตลอดเวลาว่า ตราประจำมหาวิทยาลัยที่ตนเองไปทำหน้าที่ผู้บริหารนั้นคือตราประจำพระองค์ในรัชกาลที่ 5 (ขออนุญาตไม่ลงรายละเอียดความเป็นมาของตราพระเกี้ยวกับพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 เพราะได้เขียนถึงไปแล้วหลายครั้ง)
มีคำถามมากมายในเชิงห่วงใยจากผู้คนจำนวนมากที่ให้ความสำคัญกับพระนามจุฬาลงกรณ์ กับชื่อของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โดยมีคำถามว่า
ตกลงแล้วจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยในยุคนี้จะใช้ชื่อมหาวิทยาลัยว่า Chula หรือ เพราะตั้งแต่ยุคที่บัณฑิต เอื้ออาภรณ์ ดำรงตำแหน่งอธิการบดีของจุฬาฯ ก็พบว่ามีความจงใจใช้ชื่อ Chula แทนคำว่า Chulalongkorn University หรือ CU มาโดยตลอด แม้จะถูกตั้งคำถามและถูกท้วงติงจากคนจำนวนไม่น้อย แต่ก็ไม่ปรากฏว่าบัณฑิตจะให้ความใส่ใจกับคำท้วงติง

ครั้นมาถึงยุควิเลิศ ภูริวัชร รับตำแหน่งอธิการบดีจุฬาฯก็ยังคงพบว่าภายในหน่วยงานต่างๆ ของจุฬาฯ ใช้ตราประจำมหาวิทยาลัยแตกต่างกัน ทั้งๆ ที่อยู่ในงานเดียวกันเช่น ในงานพระราชทานปริญญาบัตรของจุฬาฯ งานรับตำแหน่งอธิการบดีจุฬาฯ และงานเลี้ยงสังสรรค์ของจุฬาฯ
คำถามสำคัญคือผู้บริหารจุฬาฯ ยุคนี้ อาทิ นายกสภาจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และอธิการบดีจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ตกลงจะใช้ตราประจำมหาวิทยาลัยตราใดกันแน่ ทำไมจึงมีตราประจำมหาวิทยาลัยสองชนิดในงานเดียวกัน ผู้บริหารจุฬาฯ ต้องการสื่อสารอะไรกับคนทั่วไปโดยการใช้ตราประจำมหาวิทยาลัยสองชนิดในโอกาสและวาระเดียวกัน กระนั้นหรือ
อันที่จริงผู้บริหารจุฬาฯ เกือบทั้งหมดก็ล้วนแล้วแต่จบการศึกษาระดับปริญญาตรีจากจุฬาฯ ก็น่าจะทราบดีว่าตราพระเกี้ยวคือตราประจำมหาวิทยาลัย เพราะฉะนั้นการที่ผู้บริหารจุฬาฯ ใช้ตราพระเกี้ยวสองชนิดสองแบบในงานเดียวกันก็จึงเท่ากับบ่งบอกว่าไม่ได้ให้ความสำคัญกับเอกลักษณ์ของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
มันจะเป็นเรื่องดีที่สุด หากผู้บริหารจุฬาฯ จะใส่ใจในเรื่องที่เป็นรายละเอียดสำคัญของเอกลักษณ์แห่งจุฬาฯ โดยเฉพาะตราพระเกี้ยว ซึ่งต้องย้ำว่าเป็นตราประจำรัชกาลที่ 5 ที่พระราชทานให้เป็นตราของโรงเรียนสำหรับฝึกหัดวิชาสำหรับข้าราชการพลเรือน แล้วตราพระราชทานนั้นได้สืบต่อมาเป็นตราประจำของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เมื่อ 26 มีนาคม 2459 โดยพระผู้สถาปนาจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยคือพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว เพื่อเป็นพระราชอนุสรณ์แด่พระบรมราชชนก
ภาพที่นำมาประกอบเรื่องในวันนี้ เป็นสิ่งยืนยันว่าผู้บริหารจุฬาฯ ยุคนี้ใช้ตราพระเกี้ยวสองชนิดในงานเดียวกันซึ่งเป็นเรื่องประหลาดมหัศจรรย์มาก และก็ต้องย้ำว่าเรื่องเช่นนี้เป็นสิ่งที่ผู้บริหารจุฬาฯ ต้องตอบให้กระจ่างชัดว่ามีเหตุผลใดกับการใช้ตราพระเกี้ยวสองแบบ
มีเรื่องเล่าว่าตราพระเกี้ยวแบบใหม่เกิดมาจากความต้องการ Rebranding จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยโดยคนที่อ้างว่าเป็นกูรูการตลาดจากคณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี จุฬาฯ แต่คำถามคือจำเป็นต้อง Rebranding จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยหรือ Branding จุฬาฯ ไม่มีความน่าเชื่อถือ ไม่เป็นที่รู้จักของสังคมไทยและสังคมโลก จริงหรือ แล้วการ Rebranding จุฬาฯ ด้วยการใช้ชื่อว่า Chula และมีตราพระเกี้ยวใหม่ มันทำให้สังคมไทยและสังคมโลกรู้จักจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยมากขึ้นกว่าเดิมหรือ หรือว่าการเปลี่ยนจาก CU Chulalongkorn University ให้เหลือเพียง Chula พร้อมกับการเปลี่ยนตราประจำมหาวิทยาลัยเป็นพระเกี้ยวแบบ minimalism จะทำให้จุฬาฯมีความดีเด่นดังด้านวิชาการมากกว่าเดิม
ประชาคมชาวจุฬาฯ จำนวนไม่น้อยตั้งคำถามว่า ตกลงแล้วผู้บริหารจุฬาฯ ยุคนี้จะใช้ตราประจำมหาวิทยาลัยเป็นรูปพระเกี้ยวแบบใดกันแน่ ขอให้เลือกใช้สักอย่างให้ชัดเจน โปรดอย่าใช้ตราประจำมหาวิทยาลัยทั้งสองแบบในงานเดียวกัน เพราะมันทำให้เห็นว่าผู้บริหารจุฬาฯ ไม่มีหลักไม่มีเกณฑ์ชัดเจนในการทำงาน และยังแสดงให้เห็นอีกว่าผู้บริหารจุฬาฯ ไม่ตระหนักในความเป็นเอกภาพขององค์กร เพราะองค์กรใดก็ตามที่ยังหาความเป็นหลักเป็นเกณฑ์ชัดเจนไม่ได้ องค์กรนั้นก็ยากที่จะเจริญก้าวหน้าต่อไป แต่จะเป็นได้แค่เพียงองค์กรที่เต็มไปด้วยความฉาบฉวย สร้างภาพไปวันๆ เท่านั้น องค์กรใดมีผู้บริหารที่ฉาบฉวย ก็คือองค์กรที่ไม่สามารถดำรงได้อย่างมั่นคง แม้จะยังอยู่ได้ แต่ก็น่าจะอยู่แบบรอวันล่มสลาย

ดูได้ที่นี่ เช็กรายชื่อปาร์ตี้ลิสต์ พรรคเพื่อไทย
ไม่ใช่ถอย แต่คือยุทธศาสตร์! บิ๊กเล็กย้ำหยุดยิงเพื่อพิสูจน์ใจ ละเมิดเมื่อไหร่พร้อมตอบโต้ทันที
ดูได้ที่นี่ เช็กรายชื่อปาร์ตี้ลิสต์ พรรคกล้าธรรม
ทัพภาค2 ประกาศชัย ยึดคืนอธิปไตยชายแดนสำเร็จ ควบคุมทุกพื้นที่หลังปิดฉากปะทะเดือด
ดูได้ที่นี่ เลือกตั้ง 2569 พรรคไหนได้เบอร์อะไร

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี