สื่อมวลชนมีหน้าที่สำคัญคือ นำเสนอข่าวสาร ข้อมูลที่เป็นความจริง เป็นประโยชน์ต่อสาธารณชน และยังมีบทบาทให้ความเห็น เสนอแนะและวิพากษ์วิจารณ์ประเด็นต่างๆ ที่เป็นประโยชน์ต่อสาธารณชน รวมถึงทำหน้าที่เป็นตัวการนำเสนอประเด็นที่สังคมต้องรับรู้ เพื่อให้เกิดความตระหนักรู้ และรู้เท่าทันกับเหตุการณ์ต่างๆ ที่จะเกิดขึ้น เพื่อให้สามารถดำรงชีวิตในสังคมได้อย่างปกติสุข และรอดพ้นจากปัญหาต่างๆ ที่จะเกิดขึ้นแล้วส่งผลกระทบต่อผู้คนในสาธารณะ
แต่วันนี้ สื่อฯ ในบ้านเราทำหน้าที่ของสื่อฯ โดยยึดหลักจรรยาบรรณของวิชาชีพแท้จริงหรือไม่ เรื่องนี้คนที่ทำหน้าที่สื่อฯ รู้ดี แล้วที่สำคัญคือคนมีสติปัญญาที่เสพสื่อฯ ก็ย่อมต้องรู้ดีอยู่แก่ใจด้วย
สื่อฯ ในวันนี้มีทั้งดีและเลวผสมปนเปกัน บางสื่อฯ มีความดีผสมความเลว แต่บางสื่อฯ มีแต่ความเลวโดยปราศจากความดี แต่ที่หนักกว่านั้นคือ ยุคนี้ใครๆ ก็พยายามจะเป็นสื่อฯ กันให้ได้ เพราะมันดูเสมือนว่าเป็นสื่อฯ ได้แสนง่ายดาย จนมีคนบางคนบอกว่า ใครๆ ก็สามารถเป็นสื่อฯ ได้ เพราะมีเพียงสมาร์ทโฟนเครื่องเดียว แล้วต่อสัญญาณอินเตอร์เนตได้แค่นี้ก็ทำหน้าที่เป็นสื่อฯ ได้แล้ว
อันที่จริงต้องบอกว่าผิดมหันต์ เพราะการเป็นสื่อฯ ที่ดีนั่นไม่ได้หมายความว่าใครๆ ก็เป็นได้ เพราะสื่อฯ ที่ดีต้องมี และต้องเน้นหนักอย่างเคร่งครัดในหลักจรรยาบรรณวิชาชีพสื่อฯ
สื่อฯ ที่ดีต้องเน้นประโยชน์สาธารณะ เน้นการนำเสนอเรื่องราวที่ถูกต้อง และเป็นข้อเท็จจริงเท่านั้น และต้องไม่มีอคติ ไม่มีความลำเอียง ไม่ใช่ความเป็นสื่อฯ แสวงหาผลประโยชน์ส่วนตนโดยมิชอบ ไม่ว่าจะมิชอบทางหลักศีลธรรม จรรยาบรรณ หรือหลักของกฎหมายก็ตาม
ปัจจุบันมีผู้วิพากษ์ว่าสื่อฯ บางกลุ่มบางชนิดในประเทศไทยเป็นตัวสร้างปัญหาให้กับสังคม สร้างความแตกแยก ความร้าวฉานให้คนในสังคม แต่ก็ต้องถามว่าสิ่งที่สร้างปัญหานั้นคือสื่อฯ จริงๆ หรือสื่อกำมะลอ สื่อฯ เทียม เพราะหลายคนนักการเมืองก็ตั้งกลุ่มของตนให้ทำหน้าที่เสมือนสื่อฯ ทั้งๆ ที่ไม่ใช่สื่อฯ แต่ก็ยังมีคนที่คลั่งไคล้ใหลหลงนักการเมืองนิยมเสพเรื่องราวที่สื่อฯ กำมะลอนำเสนอ จนเข้าทำนองยอมถูกล้างสมองให้คลั่งในนักการเมืองรายๆ นั้น หรือพรรคนั้นๆ
บางคนหนักกว่านั้นอีก เพราะมีโทรศัพท์มือถือรุ่นใหม่ที่สามารถถ่ายภาพ บันทึกภาพ บันทึกเสียง ตัดต่อคลิปภาพและเสียงได้ ก็ทำตัวเป็นสื่อฯ ไปแล้ว ซึ่งไม่มีใครควบคุมพฤติกรรมประหลาดของคนพรรค์อย่างว่านั้นได้ แต่ที่น่าวิตกและน่าหนักใจยิ่งกว่าคือคนบางคนดันคลั่งสื่อฯ เทียม สื่อฯ กำมะลอจนไม่ลืมหูลืมตา ไม่สนใจเสพข่าวสารข้อมูลจากสื่อฯ จริงๆ หรือสื่อฯ หลัก
แต่ที่น่าสมเพชยิ่งกว่าคือสื่อฯ หลักบางจำพวกก็ทำตัวไม่ต่างจากสื่อฯ เทียม โดยเฉพาะการมีพฤติกรรมรับจ้างเขียนข่าวด่าหรือเชียร์ใครก็ตามที่จ้างให้เขียน สื่อฯ บางรายก็ทำหน้าที่เสมือนประชาสัมพันธ์ส่วนตัวของนักการเมืองและนายทุน รวมถึงผู้มีอำนาจรัฐ
เมื่อสื่อฯ ไม่ดำรงตนให้มีความน่าเชื่อถือศรัทธา ไม่อยู่ในหลักในเกณฑ์ของสื่อฯ ก็จึงเป็นเรื่องที่ช่วยไม่ได้ที่สื่อฯ จึงถูกด่าประจาน ประณาม และได้รับความเกลียดชังจากสาธารณชน แต่ขณะเดียวกันสาธารณชนก็ต้องเพ่งมองตัวเองด้วยว่าสนับสนุนสื่อฯ มีคุณธรรม สื่อฯ มีคุณภาพด้วยหรือไม่ เพราะหากสาธารณชนไม่สนับสนุนสื่อฯ มีคุณภาพ ก็หมายความว่าเท่ากับทำลายสื่อฯ คุณภาพให้หมดสิ้นไป เมื่อสื่อฯ มีคุณภาพหมดสิ้นไป สังคมไทยก็จึงเต็มไปด้วยสื่อฯ เสื่อม สื่อฯ ไร้จรรยาบรรณ
ขอย้ำว่าสื่อฯ ต้องให้ความเป็นธรรมและต้องเคารพสิทธิส่วนบุคคลของแหล่งข่าวและคนทุกคนที่ตกเป็นข่าว ต้องคำนึงถึงศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ของแหล่งข่าวและคนทุกคนที่ตกเป็นข่าว และต้องให้ความสำคัญกับหลักสิทธิมนุษยชนเป็นสำคัญ ไม่ล่วงละเมิดสิทธิส่วนบุคคลของผู้อื่นในทุกกรณี ต้องแยกแยะให้ออกว่าอะไรคือบุคคลสาธารณะ หรืออะไรคือเรื่องส่วนบุคคล
เมื่อพูดถึงสื่อฯ แล้วก็ต้องพูดถึงผู้ใช้และผู้เสพสื่อฯ ด้วย ยิ่งยุคนี้มีสื่อฯ เทียม สื่อฯ กำมะลอมากมาย ก็ต้องเลือกสรร ต้องแยกแยะให้ออกว่าใครเป็นสื่อฯ จริงหรือสื่อฯ เทียม แต่ที่น่ากังวลคือยุคนี้มีคนบางกลุ่มเลือกใช้สื่อฯ เทียมมากกว่าใช้สื่อฯ จริง เพราะสื่อฯ เทียม ยอมรับใช้ผู้จ่ายเงินจ้างให้เขียนในทุกกรณี โดยไม่แยกแยะว่าเรื่องนั้นจริงหรือเท็จ ดีหรือเลว
ยกตัวอย่างชัดๆ คือ ในยุคนี้มีสื่อฯ ที่ทำมาหากินบน platform ของ social media กันมากมาย เพราะทำได้ง่าย แค่มีกล้องจากสมาร์ทโฟนก็ทำตัวเป็นนักข่าวได้แล้ว แล้วคนเหล่านั้นก็ทำหน้าที่เชียร์เชลียร์คนที่ว่าจ้างอย่างน่ารังเกียจ แต่ก็ทำตัวเป็นศาลพิพากษาผู้อื่นในเวลาเดียวกัน ทั้งๆ ที่สื่อฯ หลักยึดมั่นหลักว่า สื่อฯ ไม่ใช่ศาลยุติธรรม แต่ทำหน้าที่เพียงนำเสนอเรื่องราวข้อเท็จจริงที่เป็นประโยชน์กับสาธารณชนเท่านั้น แต่สำหรับสื่อฯ เทียมชอบทำหน้าที่เป็นศาลพิพากษาความผิดของผู้อื่น โดยเฉพาะผู้ที่ไม่จ่ายเงินจ้างตนเอง
ดังนั้น คำว่าสื่อฯ ทาส จึงเกิดขึ้นในยุคที่สื่อฯ จริงๆ แต่กลับยอมทำตัวเป็นทาสนายทุน นักการเมือง และข้าราชการตำแหน่งสูงๆ แต่ที่หนักกว่านั้นคือสื่อฯ กำมะลอก็แสวงหาผลประโยชน์โดยมิชอบด้วยการรับจ้างเขียนข่าวทั้งเชียร์ และด่า ตามแต่จะมีผู้ว่าจ้าง
ส่วนใครคือสื่อฯ เทียม สื่อฯ ทาส เป็นสิ่งที่สาธารณชนที่มีสติปัญญาแยกแยะและชี้ตัวได้ แต่หากเป็นคนที่ไร้สติ สิ้นปัญญาก็ไม่สามารถแยกแยะสื่อฯ จริงกับสื่อฯ เทียมได้ แต่ที่น่าวิตกยิ่งกว่าคือคนมีอำนาจรัฐ และคนมีอำนาจทุนนิยมใช้สื่อฯเทียมเพื่อให้เขียนเรื่องราวนำเสนอภาพลักษณ์ลวงโลกของตนโดยอ้างว่าสื่อฯ เทียมมีผู้เสพจำนวนมาก และยังอ้างอีกว่าเรื่องดีมีสาระจากสื่อฯ จริงนั้นไม่มีใครเสพอีกต่อไป เช่น อ้างว่าไม่มีใครอ่านหนังสือพิมพ์อีกแล้ว หรืออ้างว่าไม่มีใครฟังรายการวิทยุ ไม่มีใครดูโทรทัศน์ แต่ทั้งๆ ที่สื่อฯ เทียมต่างก็ทำตัวเลียนแบบหนังสือพิมพ์ วิทยุ โทรทัศน์ตลอดเวลา
ส่วนคนที่ไม่มีสติปัญญาก็จะกลายเป็นทาสสื่อฯ เสพสื่อฯ โดยไม่มีวิจารณญาณ ไม่มีความคิดใคร่ครวญไตร่ตรอง ไม่สามารถแยกแยะได้ว่าอะไรคือความจริง หรือเรื่องเท็จ แยกแยะไม่ออกว่าอะไรคือข่าว อะไรคือความเห็น
คนไม่มีสติปัญญามักจะตกเป็นเหยื่อของสื่อฯ ที่ไร้จรรยาบรรณ ส่วนสื่อฯ ที่มีจรรยาบรรณจะคำนึงถึงประโยชน์สาธารณะเป็นสำคัญ ไม่ล่วงละเมิดสิทธิส่วนบุคคล ไม่ใช่ความเป็นสื่อฯ หากิน แสวงหาผลประโยชน์ให้ตนเองโดยมิชอบ
ขอบอกทิ้งท้ายว่าการที่คนมีอำนาจรัฐและอำนาจทุนอยากเป็นข่าว แล้วยอมจ้างสื่อฯ เทียมนำเสนอข่าวด้านดีของตนเองให้สังคมรับรู้ ทั้งๆ ที่เป็นเรื่องประดิษฐ์ที่ปราศจากความจริง ก็ต้องยอมจ่ายเงินครั้งละหลายแสนบาทให้กับสื่อฯ เทียม เพราะสื่อฯ เทียมไม่ซักไม่ถาม ไม่โต้ไม่แย้ง โดยพร้อมปล่อยให้ผู้จ้างกล่าวความเท็จต่อสังคมโดยผ่านสื่อฯ เทียม ซึ่งเรื่องเลวร้ายแบบนี้ไม่มีวันเกิดกับสื่อฯ จริง สื่อฯ ที่เน้นหนักในหลักจรรยาบรรณวิชาชีพเป็นอันขาด
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี