ภาษาเกรียนๆ เขาว่า“เชกูว่าแล้ว” เมื่อเห็นภาพ“มาดามแพทองโพย”เข้าเยี่ยมคารวะประธานาธิบดี“สี จิ้นผิง”แห่งสาธารณประชาชนจีน ณ ห้อง East Hall ชั้น 1 มหาศาลาประชาชน กรุงปักกิ่ง เมื่อช่วงสายวันที่ 6 มกราคมวานนี้ เพราะเธอแต่งตัวโดยไม่รู้กาลเทศะแบบที่เธอเคยพูดว่า “เพราะนี่เป็นฉัน, ฉันก็จะแต่งตัวแบบนี้แหละ”
“มาดามแพทองโพย”ยกคณะชุดใหญ่พร้อมด้วยรัฐมนตรีในคณะรัฐบาล 8 คนไปเยือนจีนครั้งนี้ เป็นการเยือนอย่างเป็นทางการ หรือที่เรียกกันว่า“Official Visit” ทุกอย่างก็ควรจะต้อง“เป๊ะ” โดยเฉพาะเรื่องการแต่งเนื้อแต่งตัว ซึ่งข้าราชการกระทรวงต่างประเทศย่อมรู้ดีว่า-ควรจะแต่งตัวอย่างไร
เรื่องนี้สำคัญ ไม่ใช่ว่า“เพราะนี่เป็นฉัน, ฉันก็จะแต่งตัวแบบนี้แหละ” ถ้าเป็นภรรยาของสามีคนใต้และเป็นแม่ลูกสอง..“มาดามแพทองโพย”จะใส่หรือไม่ใส่อะไรก็ได้ เพราะเป็นเรื่องส่วนตัวของเธอ แต่ในฐานะผู้นำประเทศ เธอควรจะต้องเคารพ“หลักพิธีการทูต”ที่ผู้นำนานาอารยประเทศเขายึดปฏิบัติกันโดยทั่ว
ชุดที่สวมใส่ควรจะเป็นสีเข้มและเรียบง่าย เรียกว่ายิ่งน้อยยิ่งดีที่สุด แต่สำหรับ“มาดามแพทองโพย”หาเป็นเช่นนั้นไม่
ก้าวแรกที่ลงจากเครื่องบิน ณ ท่าอากาศยานนานาชาติกรุงปักกิ่ง เมื่อเย็นวันที่ 5 กุมภาพันธ์ ซึ่งเป็นวันแรกที่เดินทางไปเยือนจีน ดูจากชุดที่“มาดามแพทองโพย”สวมใส่..เห็นแล้วก็รู้ว่าไม่ใช่ ทั้งไม่เหมาะสมและไม่ลงตัว เช่นเสื้อคลุมตัวยาวชั้นนอก หรือ“โอเวอร์โค้ท”ออกโทนสีน้ำตาลอ่อน มิหนำซ้ำกระดุมก็ไม่ติด หรือควรจะรัดสายรัดให้เรียบร้อย เมื่อเธอลงมาจากบันไดเครื่องบิน ลมพัดพะเยิบพะยาบต้องเอามือคอยดึง
ส่วนผ้าพันคอถึงจะแบรนด์หรู“Hermès”มีราคาแพง แต่ก็ดูไม่มีราคาเมื่อคล้องอยู่บนคอของเธอ และแทนที่จะพันคอและผูกให้ดูเก๋มีรสนิยม ก็แค่คล้องสอดไว้ใต้ปกเสื้อคลุมตัวยาว เหมือนแต่งตัวยังไม่เสร็จ แล้วรีบร้อนลงจากเครื่องบิน
วันที่สองจากการเข้าพบประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ยิ่งไปกันใหญ่ เสื้อและกระโปรงสีเข้มยังพออนุโลมได้ เสื้อสูท“DIOR”สีเทาราคา 132,000 บาทที่คลุมทับเสื้อคอเต่าสีดำตัวใน ดูแล้วไม่รู้สึกขัดตาและเป็นพิธีการ..แต่รองเท้าบูทหุ้มข้อยี่ห้อ“CHANEL”ราคาคู่ละ 52,166 บาท จบเห่เลย เพราะรองเท้าทั้งสองข้างมีสร้อยไข่มุกสีขาวข้างละสี่เส้น คล้องพันจากด้านหลังมาด้านหน้าของรองเท้า ลักษณะเหมือนคนสวมสร้อยคอไข่มุก แต่เป็นการคล้องที่รองเท้า
ภาพที่ออกมาก็คือ ในช่วงที่“มาดามแพทองโพย”เดินตรงเข้าไปจับมือกับประธานาธิบดีสี จิ้นผิง นั้น รองเท้าบูทหุ้มข้อสีดำราคาครึ่งแสนของเธอที่มีสร้อยไข่มุกคล้องอยู่ กลายเป็นจุดเด่นสะดุดตา บดบังราศีและรูปร่างหน้าตาของนายกรัฐมนตรีหญิงที่อายุน้อยวัย 38 ปีของไทยไปเสียหมดสิ้น
กลับมาดูภาพข่าวเมืองไทยบ้านเราเมื่อวันที่ 6 กุมภาพันธ์เมื่อวานนี้..นายกรัฐมนตรีที่รักษาพระนครคือ นายภูมิธรรม เวชยชัย ได้ลงพื้นที่อำเภอแม่สอด จังหวัดตาก เพื่อประเมินสถานการณ์หลังจากรัฐบาลไทยทำพิธีกรรม“สับสวิตซ์”ตัดกระแสไฟฟ้าที่ส่งไปขายทางฝั่งเมียนมา
ทั้งนี้ นายภูมิธรรม เวชยชัย ได้ให้สัมภาษณ์ว่า “มาตรการตัดไฟเพียงวันเดียวคงยังไม่เห็นผลมากนัก โดยพบว่าคืนที่ผ่านมาไฟฟ้าที่ชเวโก๊กโก่ ลดลงเหลือ 40 เปอร์เซ็นต์ อาจเป็นไปได้ว่าอาจจะประหยัดไฟฟ้าไว้ใช้ให้นานขึ้น หลังจากนี้จะประเมินว่าคดีที่เกี่ยวข้องกับคอลเซ็นเตอร์จะลดลงหรือไม่”
อย่างไรก็ตาม แม้ว่าจะมีการตัดกระแสไฟฟ้า และห้ามส่งออกน้ำมันเชื้อเพลิงข้ามไปขายยังฝั่งเมียนมา 5 จุด คือที่อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย 2 จุด, อำเภอแม่สอด จังหวัดตาก 2 จุด และที่ด่านพระเจดีย์สามองค์ จังหวัดกาญจนบุรี 1 จุดตั้งแต่เช้าวันที่ 5 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา เพื่อตัดวงจรของอาชญากรรมข้ามชาติโดยเฉพาะ“แก๊งคอลเซ็นเตอร์"แล้วก็ตาม แต่ในยามค่ำคืนก็ยังมีแสงสว่าง เพียงแต่น้อยลงกว่าเดิมเท่านั้น เนื่องจากยังมีการใช้เครื่องปั่นไฟ และทางฝั่งตรงข้ามอำเภอแม่สาย 2 จุดมีการใช้ไฟฟ้าจากลาว
แม้วันนี้ยังประเมินอะไรไม่ได้มาก ว่าผลจากพิธีกรรมการ“สับสวิตซ์”ในระยะยาวจะเป็นอย่างไร แต่อย่างน้อยวันนี้ก็ยังมี“ชิ้นงาน”ให้นายภูมิธรรม เวชยชัย นายกรัฐมนตรีรักษาการที่รั้งพระนครแทน“มาดามแพทองโพย” ได้เคาะกะลาตีปี๊บเกี่ยวกับการช่วยเหลือ“เหยื่อการค้ามนุษย์”..จากที่มีการปล่อยตัวชาวต่างชาติ 61 คน ที่อำเภอแม่สอด ซึ่งเป็นวันเดียวกับที่นายภูมิธรรมลงพื้นที่เมื่อวันที่ 6 กุมภาพันธ์วานนี้
จะอย่างไรก็ตามแต่, หลังกลับจากจีน การบ้านสำคัญของ“มาดามแพทองโพย”ที่จะต้องทำก็คือ ทำอย่างไรถึงจะปราบ“แก๊งคอนเซ็นเตอร์” และตัดวงจรของอาชญากรรมข้ามชาติให้หมดสิ้นอย่างราบคาบ ทั้งที่ฝั่งเมียนมา และฝั่งกัมพูชา
เพราะปัญหานี้เป็น“วาระแห่งอาเซียน”..ที่สมาชิกชาติอาเซียน 10 ประเทศจะต้องร่วมมือกันอย่างเป็นเอกภาพ!
รุ่งเรือง ปรีชากุล
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี