คอการเมืองไทยต่างรู้ดีว่าพรรคเพื่อไทยกับพรรคภูมิใจไทยแข่งขัน และช่วงชิงอำนาจรัฐกันตลอดเวลา แม้พรรคการเมืองทั้งสองนี้จะอยู่ด้วยกันในฐานะพรรคร่วมรัฐบาลก็ตาม 

พรรคเพื่อไทยเป็นพรรคแกนนำจัดตั้งรัฐบาลผสม ส่วนพรรคภูมิใจไทยมีฐานะเป็นพรรคอันดับสองของรัฐบาลผสม แต่ถึงกระนั้นทั้งสองพรรคก็ยังคงห้ำหั่น และชิงดีชิงเด่น แย่งชิงผลประโยชน์การเมืองระหว่างกันตลอดเวลา 

พรรคเพื่อไทยรู้ดีว่าพรรคภูมิใจไทยขัดขวางสิ่งที่พรรคเพื่อไทยหาเสียงเรื่อยมา ในขณะเดียวกันก็พบว่าพรรคเพื่อไทยก็พยายามขัดขวางสิ่งที่พรรคภูมิใจไทยหาเสียงเช่นกัน เมื่อต่างฝ่ายต่างงัดและขัดแข้งขัดขากันเอง ก็ทำให้เจ้าของพรรคเพื่อไทยตัวจริงคือ ทักษิณ ชินวัตร ไม่พอใจเนวิน ชิดชอบ เจ้าของพรรคภูมิใจไทย

เมื่อพรรคอันดับหนึ่งกับอันดับสองมีพฤติกรรมเป็นศัตรูการเมืองต่อกันอย่างชัดเจน แต่ทว่าพรรคอันดับหนึ่งกลับไม่มีอำนาจ และไม่มีปัญญาบีบหรือเขี่ยให้พรรคอันดับสองต้องกระเด็นพ้นไปจากการเป็นรัฐบาลผสมได้ ทั้งนี้ ถ้าหากพรรคเพื่อไทยมีอำนาจเบ็ดเสร็จเด็ดขาดแท้จริงแล้ว ก็ไม่มีความจำเป็นแต่อย่างใดที่ต้องปล่อยให้พรรคภูมิใจไทยอยู่ร่วมรัฐบาลอีกต่อไป 

เมื่อเพื่อไทยกับภูมิใจไทยไม่น่าจะอยู่ร่วมกันในฐานะพรรคร่วมรัฐบาลได้อย่างราบรื่นก็หมายความว่าเพื่อไทยต้องหาทางทำทุกหนทางเพื่อให้ภูมิใจไทยไร้อำนาจต่อรองทางการเมือง เพราะหากจะรอให้ภูมิใจไทยลาออกจากการร่วมรัฐบาลไปเองก็คงไม่มีทาง แต่หากเพื่อไทยจะบีบหรือถีบหัวภูมิใจไทยออกไปก็ไม่มีทางเช่นกัน 

อย่างไรก็ตาม แม้ทั้งสองพรรคจะอยู่ร่วมกันค่อนข้างยาก แต่ก็จำเป็นต้องอยู่ร่วมกันต่อไป เพราะเป็นรัฐบาลดีกว่าเป็นฝ่ายค้าน แล้วที่สำคัญคือยังมีเงินงบประมาณแผ่นดินของปี 2569 รออยู่อีกประมาณกว่า 3 ล้านล้านบาท ดังนั้น จึงไม่มีใครยอมถอยให้กัน เมื่อไม่มีใครยอมทิ้งผลประโยชน์มหาศาล ก็จึงจำเป็นต้องหาทางเจรจากัน แต่ก็ใช่ว่าจะสามารถบรรลุข้อตกลงร่วมกันได้โดยง่าย เพราะเจ้าของพรรคเพื่อไทยก็ถือตัวว่าเคยเป็นเจ้านายเก่าของพรรคภูมิใจไทยมาก่อน ส่วนเจ้าของพรรคภูมิใจไทยในวันนี้ก็ถือตัวว่าตนเองไม่ใช่ลูกน้องของเจ้าของพรรคเพื่อไทยเหมือนในอดีต เพราะฉะนั้น การเจรจาจึงไม่สามารถบังเกิดขึ้นได้โดยง่าย

ดังนั้น Deal ลับระหว่างทั้งสองพรรคที่คาดว่าจะเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2568 ที่โรงแรมพูลแมน คิง เพาเวอร์ ถนนรางน้ำ จึงไม่บังเกิดขึ้น จึงกลายเป็น Deal ล้มไปในที่สุด แต่ว่าก่อนจะถึงช่วง Deal ล้มนั้น มีข่าวหลุดมาว่าฝ่ายหนึ่งพยายามโทรศัพท์หาอีกฝ่ายหนึ่ง แต่ฝ่ายผู้ที่ถูกโทรศัพท์หา กลับไม่ยอมรับนัดเจรจาไม่ว่าฝ่ายที่พยายามโทรหา จะเพียรพยายามโทรไปตั้งหลายครั้ง แต่ก็ไม่มีการรับสาย เพราะฉะนั้นจึงบังเกิด Deal ล้ม 

ติดตามดูต่อไปว่า เมื่อ Deal ลับ กลายเป็น Deal ล้มไปเสียแล้ว พรรคเพื่อไทยกับพรรคภูมิใจไทยจะเดินเกมการเมืองต่อไปอย่างไร จะมองหน้ากันได้สนิทใจหรือไม่ หรือจะเปิดศึกใหญ่ใส่กันให้มันรู้แล้วรู้รอดไป แต่ก่อนจะถึงศึกใหญ่ ก็ได้เห็นศึกที่ก่อโดยพรรคเพื่อไทยด้วยการใช้ DSI ไล่ต้อน สว. สีน้ำเงินในข้อหาสุดหนักหน่วงคืออั้งยี่ ซ่องโจร และทุจริตสรรหา สว.ผสมกับใช้เกมไล่บี้อนุทิน ชาญวีรกูล ด้วยปมรุกที่ดิน ส.ป.ก. เอาไปทำสนามกอล์ฟที่โคราช แต่อย่าลืมว่าสนามกอล์ฟที่ว่านั้น ทักษิณ ชินวัตร เคยไปตีกอล์ฟกับอนุทิน พร้อมกับบิ๊กบอสของ ปตท. และกัลฟ์มาแล้วเมื่อไม่นานมานี้