“แพทองโพย”นายกรัฐมนตรีผู้มีไอแพดเป็นก้านสมอง มาตะเภาเดียวกับ“ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร”อดีตนายกรัฐมนตรีที่เป็นนักโทษหนีคดีทุจริตผู้เป็นอา และ“เศรษฐา ทวีสิน”นายกรัฐมนตรีชั่วคราวของพรรคเพื่อไทย ซึ่งถูกศาลรัฐธรรมนูญสั่งให้พ้นจากตำแหน่ง คือถลุงงบประมาณแผ่นดินในการทัวร์ต่างประเทศ
หมายกำหนดการทัวร์ต่างประเทศรอบใหม่ของ“แพทองโพย”ออกมาแล้ว โดยคืนนี้วันที่ 20 พฤษภาคม จะบินไปทัวร์สหราชอาณาจักร ซึ่งเป็นที่ซุกหัวของนักโทษหนีคดีทุจริตชื่อ“ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร” ที่แม้จะมีหมายจับแต่ทางการไทยก็ไม่กล้าทำอะไร และวันที่ 22 พฤษภาคมนี้ “ยิ่งลักษณ์” กำลังรอลุ้นว่าศาลปกครองสูงสุดจะพิพากษาสั่งให้ชดใช้ค่าสินไหมทดแทนจากโครงการรับจำนำข้าว วงเงินทั้งสิ้นประมาณ 3.75 หมื่นล้านบาท ที่กระทรวงการคลังเป็นโจทก์หรือไม่
ทริปทัวร์ต่างประเทศของ“แพทองโพย”และคณะครั้งนี้ ซึ่งมอบหมายให้แค่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ไปก็ได้นั้น มีกำหนดการเดินทางเยือนสหราชอาณาจักร และราชรัฐโมนาโก ระหว่างวันที่ 21 –25 พฤษภาคม รวมทั้งหมด 5 วัน หากคิดค่าใช้จ่ายในการเดินทางที่ไม่ได้ใช้เงิน“พ่อมึงโกงสิ”ตามสำนวนของ“ทักษิณ ชินวัตร” ก็ไม่น่าจะต่ำกว่า 200 ล้านบาท ทั้งค่าเหมาเครื่องบิน ค่าที่พัก ค่ากิน และอื่นๆ เฉลี่ยวันละ 50 ล้านบาท
ฟังจากที่“จิรายุ ห่วงทรัพย์”โฆษกรัฐบาล เปิดเผยเมื่อวันที่ 19 พฤษภาคมเมื่อวานนี้ “แพทองโพย”จะเดินทางร่วมคณะกับกระทรวงพาณิชย์ กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา รวมทั้งส่วนราชการอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง ภายใต้ข้ออ้างแบบแผ่นเสียงตกร่องมาตั้งแต่สมัยรัฐบาลเศรษฐา ทวีสิน คือ เพื่อสร้างโอกาสใหม่ทางธุรกิจ และเปิดช่องทางขยายตลาดและเพิ่มมูลค่าสินค้าไทย ผ่าน “SoftPower” ด้านอาหาร, กีฬา และการท่องเที่ยว ด้วยเห็นว่าสหภาพยุโรปเป็นตลาดที่สำคัญของสินค้าของไทย
วันที่ 20 พฤษภาคมคืนนี้ “แพทองโพย”จะออกเดินทาง และจะถึงกรุงลอนดอนช่วงเช้าของวันพุธที่ 21 พฤษภาคมพรุ่งนี้ เวลาประมาณ 07.30 น.และทันทีที่เดินทางถึงกรุงลอนดอน มีกำหนดการเป็นประธานพิธีเปิดตราสัญลักษณ์ “ThaiSELECT”โฉมใหม่” ซึ่งภายในงาน มีการจัดแสดงสินค้าอาหารไทย ผลไม้ ข้าวหอมมะลิ การจัดกิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยวไทย ศิลปวัฒนธรรม การนวดแผนไทย และการแสดงมวยไทย
พอตัดริบบิ้นเสร็จ “แพทองโพย”ก็จะร่วมประชุมกับ“ทีมไทยแลนด์” และผู้นำเข้าสินค้าอาหารรายใหญ่ของสหราชอาณาจักร ตามต่อด้วยประชุมกับสมาคมธุรกิจไทยในสหราชอาณาจักร (Association of ThaiBusinesses in theUK) เพื่อหาแนวทางขยายตลาดและเพิ่มมูลค่าการค้าสินค้าอาหารไทย โดยเฉพาะผัก ผลไม้สด และข้าวหอมมะลิ ในสหราชอาณาจักร และยุโรป จากนั้นจะมอประกาศนียบัตร“ThaiSELECT”แก่ร้านอาหารไทยที่ผ่านเกณฑ์มาตรฐาน จำนวน 115 ร้าน และรับฟังแนวทางในการพัฒนากับผู้ประกอบธุรกิจร้านอาหารไทยในสหราอาณาจักร
ในช่วงบ่ายของวันที่ 21 พฤษภาคม “แพทองโพย”ผู้ชูนโยบาย“ซอฟต์พาวเวอร์ไทย” แต่มีความย้อนแย้งตั้งแต่หัวจรดเท้า เพราะสวมใส่เสื้อผ้าและเครื่องประดับราคาแพงแบรนด์หรูของฝรั่งเศสและอิตาลี มีกำหนดการจะเยี่ยมชมค่ายมวยไทยที่มีชื่อเสียงในกรุงลอนดอน เพื่อหารือแนวทางความร่วมมือด้านกีฬาระหว่างไทยและสหราชอาณาจักร รวมถึงการผลักดันระบบการรับรองมาตรฐานเทรนเนอร์ ผู้ฝึกสอนมวยไทยในต่างประเทศ ซึ่งเธอเห็นว่าเรื่องนี้เป็นอีกหนึ่งมิติของ Soft Power ด้านกีฬาของไทย
วันรุ่งขึ้น 22 พฤษภาคม “แพทองธาร”จะเข้าร่วมกิจกรรม“In-store Promotion” และประชาสัมพันธ์สินค้าไทย ณ ห้างค้าปลีก “Wing YipSuperstore” สาขา“Cricklewood” ซึ่งเป็นซูเปอร์สโตร์รายใหญ่ของสหราชอาณาจักร ที่นำเข้าสินค้าอาหารจากเอเชียกว่า 4,500 รายการ และกว่า 1,000 รายการจากประเทศไทย โดยในปี 2567 ที่ผ่านมา ประเทศไทยส่งออกสินค้าอาหารไปยังสหราชอาณาจักรมูลค่ากว่า 33,000 ล้านบาท คิดเป็น 72 เปอร์เซ็นต์ของการส่งออกสินค้าไทยไปยังสหราชอาณาจักร
เสร็จจากงานพีอาร์ที่ว่านั้นแล้ว หากเป็น“เศรษฐาทวีสิน” ก็ต้องบอกว่าเป็น“เซลส์แมนเบอร์หนึ่งของประเทศไทย” แต่สำหรับ“แพทองโพย”นั้น เป็น“แม่ค้าขายผลไม้สดเบอร์หนึ่งของประเทศไทย” จากที่ลงพื้นที่ไปจังหวัดจันทบุรีเมื่อวันหยุดสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา, โดยในช่วงบ่าย “แพทองโพย”จะหารือร่วมกับผู้อำนวยการด้านการท่องเที่ยวภาคพื้นยุโรป เพื่อมอบนโยบายและแลกเปลี่ยนมุมมอง ตลอดจนผลักดันการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมของไทยให้ตอบโจทย์นักท่องเที่ยวในยุคปัจจุบัน
ปิดทริป“แม่ค้าขายผลไม้สดเบอร์หนึ่งของประเทศไทย”ที่สหราชอาณาจักร ก็จะบินจากกรุงลอนดอนไปยังเมืองมอนติคาร์โล ราชรัฐโมนาโก ในวันที่ 23 พฤษภาคม เพื่อร่วมหารือกับผู้บริหารระดับสูงของการแข่งขันรถยนต์สูตรหนึ่ง “Formula 1” และศึกษาความเป็นไปได้สำหรับการจัดการแข่งขัน“ F 1” รูปแบบในเมือง(City Circuit) ในประเทศไทย พร้อมกันนี้“แพทองโพย”ยังได้รับเชิญให้เยี่ยมชมสนามแข่งและร่วมรับชมการแข่งขัน“Formula 1 Tag Heuer Monaco Grand Prix” ซึ่งเป็นหนึ่งในสนามแข่งรถที่มีชื่อเสียงมากที่สุดในโลก โดยสามารถสร้างรายได้ในรูปแบบที่มนุษย์เป็นผู้สร้างขึ้น
อย่างไรก็ตาม โฆษกรัฐบาลวาดฝันเพ้อเจ้อแบบสูตรสำเร็จ แต่ไม่เคยทำได้ในทางปฏิบัติแม้แต่เรื่องเดียวว่า “การเดินทางครั้งนี้ของนายกรัฐมนตรี เป็นการผลักดันนโยบายเชิงรุก ทั้งด้านเศรษฐกิจ การค้า การส่งออก การท่องเที่ยว และSoft Power เพื่อยกระดับความเชื่อมั่นในศักยภาพของประเทศไทยในสายตานานาชาติ โดยเฉพาะในตลาดสหราชอาณาจักรและยุโรป ซึ่งมีศักยภาพสูง โดยนายกรัฐมนตรีมุ่งมั่นดึงดูดและส่งเสริมการท่องเที่ยวรูปแบบใหม่ในไทย เพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจอย่างสร้างสรรค์ อีกทั้งยังเป็นโอกาสสำคัญในการเปิดทางให้ผู้ประกอบการของไทย ได้ขยายพื้นที่ทางการค้าบนเวทีโลกอย่างยั่นยืน”
ฟังโฆษกรัฐบาลวาดฝันแล้ว ก็นึกถึงเมื่อตอน“แพทองโพย”ยกคณะไปเยือนประเทศต่างๆ ก่อนหน้านี้ เช่น ไปเยือนจีนแผ่นดินใหญ่เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ก็พูดทำนองเดียวกัน เรื่องความร่วมมือด้าน“ซอฟต์พาวเวอร์”ระหว่างไทยกับจีน ทั้งมวยไทย ร้านอาหารไทย และสินค้าเกษตรไทยพวกพืชผักผลไม้ นอกจากนั้น เรื่องการจัดการแข่งขัน“F 1” ก็ตีปี๊บเคาะกะลาประโคมโหมข่าวกันมาตั้งแต่สมัยรัฐบาล“เศรษฐา ทวีสิน”
บรรทัดนี้จึงสรุปได้ว่า “แพทองโพย”มาตะเภาเดียวกับ“ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร” และ“เศรษฐา ทวีสิน” ผู้เป็นนายกรัฐมนตรี“หุ่นเชิด”ที่ถูกชักใยโดยอดีตนักโทษเด็ดขาดชายทักษินชินวัตร เก่งในเรื่องถลุงงบประมาณแผ่นดินเพื่อทัวร์ต่างประเทศ คือ แทนที่จะทำงาน กลับกลายเป็นว่า“เที่ยวและทัวร์อย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย” ท่ามกลางวิกฤตเศรษฐกิจของประเทศที่กำลังจะล่มสลาย ซึ่งนับตั้งแต่พรรรคเพื่อไทยเข้ามาบริหารประเทศ หันหน้าไปทางไหนก็มีแต่เสียงของความสิ้นหวัง ประชาชนทุกสาขาอาชีพเดือดร้อนไปทั่วทุกหย่อมหญ้า
รอดูว่า “แพทองโพย”จะทุบสถิติเวิลด์ทัวร์ของ“อาปู-ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร” และ“เศรษฐา ทวีสิน”ได้หรือไม่ เพราะนับตั้งแต่ขึ้นมาเป็นนายกรัฐมนตรีในเดือนสิงหาคมปี 2567 รวม 9 เดือน เดินสายทัวร์ต่างประเทศแล้ว 12ประเทศ คือกาตาร์, ลาว, มาเลเซีย, จีน, สหรัฐอเมริกา, เปรู, สวิสเซอร์แลนด์, เยอรมนี, กัมพูชา, เวียดนาม และครั้งนี้สหราชอาณาจักร กับโมนาโก
ขณะที่“ยิ่งลักษณ์ชินวัตร” อยู่ในตำแหน่งนายกรัฐมนตรี 2 ปี กับ 275 วัน เดินทางไปต่างประเทศ 57 ครั้ง รวมทั้งหมด 36
ประเทศ ส่วน“เศรษฐาทวีสิน” เป็นนายกรัฐมนตรีเพียงแค่ปีเดียว เดินทางไปต่างประเทศรวมทั้งหมด 17 ครั้ง 15 ประเทศ กับ 1 เขตเศรษฐกิจพิเศษ คือ ฮ่องกง
อีก 3 เดือน “แพทองโพย”เป็นนายกรัฐมนตรีครบหนึ่งปี จะไล่ทันสถิติเวิลด์ทัวร์ของ“เศรษฐา ทวีสิน”หรือว่าจะกระเด็นตกจากเก้าอี้นายกรัฐมนตรีก่อนครบสถิติหนึ่งปีเท่ากับเศรษฐา ?!
รุ่งเรือง ปรีชากุล
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี