วันศุกร์ ที่ 8 สิงหาคม พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / คอลัมน์ / คอลัมน์การเมือง / กวนน้ำให้ใส
กวนน้ำให้ใส

กวนน้ำให้ใส

สารส้ม
วันศุกร์ ที่ 8 สิงหาคม พ.ศ. 2568, 02.00 น.
กองทัพไทย รบชนะราบคาบ คนไทยต้องการฝ่ายการเมืองที่ไว้ใจได้กว่านี้

ดูทั้งหมด

  •  

การประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป (General Border Committee : GBC) ไทย - กัมพูชา เที่ยวนี้ เอาเรื่องหยุดยิงเป็นหลัก เอาความสงบบริเวณชายแดนให้ชัวร์ก่อน

เพื่อพี่น้องประชาชนคนไทยตามแนวชายแดน จะได้กลับบ้านปลอดภัย


ส่วนเรื่องแนวเขตแดน เรื่องผลประโยชน์ของชาติเรื่องอื่นๆ ยังไม่ไช่วาระของ GBC เที่ยวนี้

1. เกี่ยวกับการหยุดยิง

GBC ไทย-กัมพูชา ได้ข้อสรุปร่วมกันว่า

“1. ยุติการใช้อาวุธทุกประเภท การโจมตีต่อพลเรือน เป้าหมายพลเรือน และเป้าหมายทางทหาร ในทุกพื้นที่และทุกกรณี

2. รักษาสถานะการวางกำลังในที่ตั้งปัจจุบัน สถานะตั้งแต่ 28 ก.ค.2568 โดยไม่มีการเคลื่อนย้ายกำลัง และไม่มีการลาดตระเวนไปยังที่ตั้งของอีกฝ่าย

3. ไม่เพิ่มเติมกำลังตลอดแนวชายแดนไทย – กัมพูชา

4. ไม่กระทำการอันเป็นการยั่วยุที่ส่งผลให้เกิดความตึงเครียด การมีกิจกรรมทางทหารเข้าไปยังดินแดน เขตน่านฟ้า หรือที่ตั้งของอีกฝ่าย ตามสถานะการหยุดยิง ตั้งแต่ 28 ก.ค.2568 และไม่สร้างโครงสร้างพื้นฐานทางทหารล้ำออกไปนอกขอบเขตของฝ่ายตน

5. ไม่ใช้กำลังต่อพลเรือน หรือเป้าหมายทางพลเรือนในทุกกรณี

6. การปฏิบัติตามอนุสัญญาเจนีวา: การปฏิบัติต่อผู้ที่ถูกจับกุมตัว การขอส่งตัวผู้บาดเจ็บมารักษาในสถานพยาบาลของอีกฝ่าย โดยจะขึ้นอยู่กับศักยภาพในการรองรับของสถานพยาบาลแล้วแต่กรณี สำหรับทหารที่อยู่ในความควบคุมของอีกฝ่ายหนึ่งจะได้รับการปล่อยตัวและส่งกลับประเทศ หลังจากยุติการใช้กำลังโดยสมบูรณ์ รวมทั้งอำนวยความสะดวกในการส่งคืนร่างผู้เสียชีวิตอย่างสมเกียรติโดยเร็ว และจัดการศพภายใต้สภาพที่ถูกสุขลักษณะและด้วยความเคารพ

7. กรณีมีความขัดแย้งกันด้วยอาวุธทั้งตั้งใจและไม่ตั้งใจ ทั้งสองฝ่ายจะหารือกันในระดับปฏิบัติผ่านกลไกทวิภาคีที่มีอยู่ เพื่อป้องกันการขยายตัวของสถานการณ์”

2. กลไกการดำเนินการในทางปฏิบัติ

เห็นชอบร่วมกันด้วยว่า

“ดำรงการติดต่อสื่อสารอย่างต่อเนื่องระหว่างหน่วยทหารในพื้นที่

จัดการประชุม RBC ภายใน 2 สัปดาห์นับจากการประชุม GBC ใน 7 ส.ค. 2568

ดำรงช่องทางการติดต่อสื่อสารโดยตรงระดับรัฐมนตรีและผู้บัญชาการทหารสูงสุดของทั้งสองประเทศ

งดเว้นการเผยแพร่ข้อมูลอันเป็นเท็จหรือข่าวปลอม”

ขณะเดียวกัน ได้ร่วมกันกำหนดกลไกตรวจสอบการหยุดยิง ระบุว่า

“ทั้งสองฝ่ายต้องดำเนินการตามผลหารือเมื่อ 28 ก.ค. 2568 ซึ่งรวมถึงการหยุดยิงและการมีคณะผู้สังเกตการณ์จากประเทศสมาชิกอาเซียน นำโดยมาเลเซีย

เห็นชอบให้ RBC ในแต่ละพื้นที่ ดำเนินการตามข้อตกลงหยุดยิง โดยมีคณะผู้สังเกตการณ์อาเซียน ซึ่งนำโดยมาเลเซียเป็นผู้ร่วมสังเกตการณ์ โดย RBC จะพบกันเป็นประจำ และส่งรายงานให้ GBC ตามสายการบังคับบัญชาของแต่ละฝ่าย

ในระหว่างการจัดตั้งคณะผู้สังเกตการณ์อาเซียนที่มีมาเลเซีย เป็นผู้นำ จะใช้กลไกคณะผู้สังเกตการณ์ชั่วคราว ซึ่งประกอบด้วยผู้ช่วยทูตฝ่ายทหารประเทศสมาชิกอาเซียน ประจำประเทศไทย และกัมพูชา ทำหน้าที่แทนเป็นการชั่วคราว”

นอกจากนี้ ทั้งสองฝ่ายตกลงที่จะจัดการประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป (GBC) ครั้งถัดไปภายในหนึ่งเดือนนับจากวันที่ 7 สิงหาคม 2025 (จะหารือเพื่อกำหนดสถานที่ต่อไป) หากไม่เป็นเช่นนั้น ให้มีการเรียกประชุม GBC สมัยวิสามัญโดยทันที โดยใช้รูปแบบเดียวกับการประชุม GBC สมัยวิสามัญในครั้งนี้ เพื่อหารือเกี่ยวกับการหยุดยิง

3. ปฏิบัติการทางทหารที่ผ่านมา ถือว่า ฝ่ายไทยประสบความสำเร็จกว่า 90%

คือ ขับไล่ทหารเขมรออกจากพื้นที่ตามแนวเขตแผนที่มาตราส่วน 1 : 50,000 ตลอดแนวเขาพนมดงรัก เกือบทุกตารางนิ้ว

ยกเว้นบริเวณปราสาทตาควาย ที่ยังคากันอยู่

ลองคิดดู ถ้าไทยลงมือขับไล่ทหารเขมรออกไปก่อนหน้านี้ ไทยจะเผชิญปัญหาความชอบธรรมบนเวทีโลกทันที

แต่เมื่อฮุนเซนและพวกก่ออาชญากรรมสงครามเช่นนี้ก่อน ไทยจึงมีความชอบธรรมในการปกป้องประเทศเต็มที่

การสู้รบครั้งนี้ ทหารเขมรสังเวยชีวิตจำนวนมาก โลกไม่มีสิทธิประณามไทยเลย

ตรงข้าม คงมีแต่เห็นใจ เพราะเข้าใจ

การเจรจาเขตแดนหลังจากนี้ ถ้า กพช.ไม่ยอมรับตามแนวเขตที่ไทยยึดครองไว้แล้วเกือบหมด ก็จะทำอะไรได้ เมื่อทหารไทยยึดมาแล้ว และจะไม่มีวันคืน ตามที่กองทัพไทยประกาศมั่น

หาก กพช. จะละเมิดข้อตกลงหยุดยิง ทหารไทยก็พร้อมปฏิบัติการไม่น้อยไปกว่าที่เคยปฏิบัติมา

การเจรจาเรื่องผลประโยชน์ทางทะเลอื่นๆ ก็เช่นกัน ฝ่ายฮุนเซนจะมาขีดเส้นเองคร่อมเกาะกูด เออออกันเองกับนักการเมืองบางคนเหมือนที่ผ่านมา ก็ต้องรู้แล้วว่า หากล้ำเส้น กองทัพไทยจะไม่มีการอ่อนข้อ

เว้นแต่ฮุนเซน อยากจะลองดูว่า เรือรบไทยยิงขีปนาวุธได้ไกลแค่ไหน

ประการสำคัญ หลังจากนี้ ถ้ารัฐบาลไม่ใช่ลิ่วล้อของสหายฮุนเซน จะต้องไม่ให้ชีวิตเลือดเนื้อของวีรชนสูญเปล่า ไม่ให้อำนาจต่อรองและความชอบธรรมที่ไทยได้มาสูญเสียไปแบบโง่ๆ จะต้องดำเนินการให้ฮุนเซนและแก๊ง ได้รับต้นทุนของการกระทำเลวร้ายครั้งนี้ด้วย

เพื่อจะเป็นหลักประกัน ลูกหลานไทยจะต้องไม่เจอกับพฤติกรรมผู้นำเพื่อนบ้านถ่อยเถื่อนแบบนี้อีกต่อไป

ซึ่งดูแล้ว ฝ่ายการเมืองในรัฐบาลปัจจุบัน ไม่เป็นที่ไว้วางใจเลย ควรจะเร่งมีรัฐบาลใหม่ มีผู้นำประเทศที่คนไทยฝากชีวิตความมั่นคงของประเทศไว้ได้มากกว่านี้

4. คนไทยตาสว่างจากวาทกรรมส้มเน่า

คงจำได้ นายพิธา อดีตหัวหน้าพรรคส้ม เคยประกาศวาทกรรมที่คิดว่าโก้เก๋ เมื่อวันที่ 18 มี.ค. 2566 ที่จังหวัดกาญจนบุรี

ใจความสำคัญระบุว่า “... ทหารมีไว้ทำไม ก็จะไปรบกับใคร สมมุติมีคนมารุกราน ผมก็ไม่เชื่อว่าคุณจะรบชนะด้วย แล้วอีกอย่างคือตอนนี้เป็นเรื่องของอาวุธ ประเทศที่อยู่ใกล้ๆ กัน ที่เคยทะเลาะกัน มันไม่ทะเลาะกันแล้ว ทุกวันนี้บางประเทศไม่ต้องมีกองทัพด้วยซ้ำไป ถ้าผู้นำฉลาดพอ..”

คงมีแต่ทาสทางสติปัญญาที่จะยังหลงใหลกับคำพูดประดิษฐ์ประดอย เอาความสะใจ แต่ไร้ความจริงใจ และไร้ค่า เมื่อเผชิญกับความเป็นจริงเช่นนี้

5. Pan Samudavanija ได้ประมวลบทวิเคราะห์ในสายตาสื่อการทหารต่างประเทศ มองทหารไทยในการรบครั้งนี้อย่างไร

ระบุว่า

“สื่อต่างชาติมองการรบไทย-เขมร

ไทยรบเขมรครั้งนี้สื่อต่างประเทศ เช่น Jane Defense Weekly, Military Watch Magazine and The Diplomat ล้วนมีทัศนะและข้อคิด เกี่ยวกับสถานะ การสู้รบและประเมินกองทัพไทย ตลอดจนการวางแผน, ยุทธศาสตร์ ยุทธวิธีและอาวุธที่เราใช้อย่างน่าสนใจ

ประเทศเพื่อนบ้านของเรา เช่น เวียดนาม มาเลเซีย แม้กระทั่งญี่ปุ่นถึงกับกล่าวว่า ไทย มีขีดความสามารถในการทำสงครามชนิดยิงไม่พลาดเป้าได้แล้ว

และนิตยสารต่างประเทศ ที่ระบุข้างต้นกล่าวว่า กองทัพไทยก้าวพ้นจากการทำสงครามแบบเก่า มาสู่การทำการรบแบบทันสมัย ใช้แผนการรบอัจฉริยะนับตั้งแต่ปี ค.ศ.๑๙๖๔ เป็นต้นมา

โดยกองทัพไทยมีศักยภาพไม่ต่างอะไรกับนาโต(NATO)ในการคิดวิเคราะห์และใช้ปัญญาประดิษฐ์ เหนือกว่าหลายชาติตะวันตก

นิตยสารต่างประเทศเหล่านั้นว่าระบบของกองทัพไทยใช้ C4ISR ซึ่งเป็นระบบควบคุม, สั่งการ, สื่อสาร, ข่าวกรอง, การเฝ้าควบคุมและการสอดแนม

ระบบนี้ กองทัพไทย นำมาแทนที่ระบบเก่า ซึ่งเป็นระบบควบคุมสั่งการและสื่อสารเท่านั้น

สื่อต่างประเทศต่างกล่าวว่าไทยรบกับเขมรครั้งนี้ ใช้ระบบก้าวหน้า ใช้สมองในการตัดสินใจใช้โดรนผลิตในประเทศ ที่ทำงานอย่างได้ผล ใช้ดาวเทียมและระบบ C4ISR อย่างได้ผลมีประสิทธิภาพ สู้กับฝ่ายเขมรที่ยังใช้ Conventional Warfare ไม่พัฒนา ไทยเคลื่อนกำลังกองทัพบก เรือ อากาศพร้อมเพรียงกัน

และทั่วโลกสนใจเป็นพิเศษ คือ ใช้เครื่องบินรบกริพเพนเป็นครั้งแรกในโลกที่ขึ้นบินทำสงคราม

สื่อมวลชนตะวันตกถามว่า ใครในกองทัพไทย อยู่เบื้องหลังการใช้ C4ISR และมีแผนอัจฉริยะ เริ่มตั้งแต่ ๑๙๖๔ แบบกองทัพนาโตที่นอร์เวย์ ทำให้ศักยภาพกองทัพไทยเทียบเท่าอิสราเอล ซึ่งมีการใช้ปัญญาประดิษฐ์ (AI) ในการทำสงครามกับคู่ต่อสู้ในสนามรบ

ผมเชื่อว่าข้อสังเกตและคำวิจารณ์ของสื่อต่างชาติทั้งหมดนี้ ล้วนเป็นไปในทางบวกต่อกองทัพไทยทั้งสิ้น

แสดงว่าพวกเขาได้รายงานเจาะลึกและเข้าถึงชั้นความลับไม่มากก็น้อย

ทำให้เชื่อว่าข้อมูลที่เขาได้รับน่าจะเป็นจริง ไม่เช่นนั้นเขาคงไม่นำไปตีความดังที่ผมได้รวบรวมมา

อย่างไรก็ดี ขอแสดงความยินดีต่อกองทัพไทยด้วยครับ”

5. การใช้เครื่องบินรบกริพเพน

บทวิเคราะห์เชิงยุทธศาสตร์ Gripen ในสมรภูมิไทย–กัมพูชา: เมื่อการใช้กำลังทางอากาศอย่างยับยั้งชั่งใจ สะเทือนไปถึงระเบียงการเมืองยุโรป

เผยแพร่เพจข่าว นภาธิปัตย์ โดย น.อ.รัตนสุทธิ สุทธิแย้ม

ระบุว่า

“1. เมื่อแนวรบชายแดนกระเพื่อมถึงน่านฟ้าเหนือยุโรป

ความขัดแย้งบริเวณชายแดนไทย–กัมพูชาในช่วงที่ผ่านมา นอกจากจะนำไปสู่การตอบโต้ทางทหารของไทยแล้ว ยังกลายเป็นเวทีปฏิบัติการจริงครั้งแรกของ JAS-39 Gripen เครื่องบินขับไล่สมรรถนะสูงที่จัดหาโดยกองทัพอากาศไทยจากสวีเดน นับเป็นพัฒนาการสำคัญในมิติยุทธศาสตร์การป้องกันประเทศของไทย แต่ขณะเดียวกันกลับก่อให้เกิดแรงกระเพื่อมในระดับระหว่างประเทศ โดยเฉพาะต่อรัฐบาลสวีเดน ผู้ผลิตอาวุธที่กำลังเผชิญแรงกดดันจากภาคประชาสังคมและกลุ่มสิทธิมนุษยชนในยุโรป

2. ความระมัดระวังของกองทัพอากาศไทย: พฤติกรรมการใช้กำลังตามหลักมนุษยธรรม

แม้การใช้กำลังทางอากาศจะถูกวิจารณ์จากบางภาคส่วนในต่างประเทศ แต่ข้อเท็จจริงสำคัญคือ กองทัพอากาศไทยได้ปฏิบัติการอย่างมีความยับยั้งชั่งใจ โดยคำนึงถึงหลักกฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศอย่างเคร่งครัด ทั้งในด้านการเลือกเป้าหมาย การใช้กำลังแบบพอเหมาะพอควร (Proportionality) และการลดผลกระทบต่อพลเรือนให้น้อยที่สุด

การโจมตีทางอากาศของกองทัพอากาศไทยถูกออกแบบอย่างจำกัด (Limited Precision Strikes) และดำเนินการเฉพาะต่อ เป้าหมายทางทหารที่ชัดเจน เช่น ที่ตั้งทางยุทธวิธีของฝ่ายตรงข้ามที่เป็นต้นเหตุของการโจมตีพลเรือนไทยซ้ำซาก การเลือกใช้อากาศยาน Gripen ซึ่งมีระบบตรวจจับและชี้เป้าหมายด้วยความแม่นยำสูง ยังสะท้อนถึงความพยายามในการลดความเสียหายพลอยได้ (Collateral Damage) ตามมาตรา 51 ของ Additional Protocol I แห่งอนุสัญญาเจนีวา

3. Gripen กับแนวคิด “Coercive Air Power”: พลังบังคับที่แม่นยำและจำกัด

การใช้อำนาจทางอากาศของไทยในครั้งนี้ สามารถตีความได้ในกรอบของ “Coercive Air Power” โดยเฉพาะแนวทาง “Denial Strategy” ที่มุ่งทำลายศักยภาพของฝ่ายตรงข้ามในการดำเนินยุทธการเพิ่มเติม โดยไม่จำเป็นต้องใช้อำนาจแบบทำลายล้าง

ตามหลักทฤษฎีของ Pape (1996) การบรรลุวัตถุประสงค์ทางการเมืองผ่านอากาศยานโจมตีที่เลือกเป้าหมายอย่างรัดกุม จะช่วยหลีกเลี่ยงการทำให้สถานการณ์ลุกลามเกินควบคุม และยังสร้าง “ต้นทุนทางจิตวิทยา” แก่อีกฝ่าย ซึ่งตรงกับพฤติกรรมของไทยในสถานการณ์ปัจจุบัน...

บทสรุป : ปฏิบัติการ Gripen ไทยคือแบบจำลองของ “Air Power with Restraint”

การนำ Gripen เข้าสู่สนามรบจริงของกองทัพอากาศไทย ไม่ได้เป็นเพียงสัญลักษณ์ของความก้าวหน้าเชิงยุทโธปกรณ์ แต่ยังเป็นกรณีศึกษาสำคัญของ การใช้อำนาจทางทหารอย่างยับยั้งชั่งใจ (Restrained Use of Force) ตามหลักสากล ภายใต้สถานการณ์ที่เสี่ยงต่อการลุกลาม

การปฏิบัติการของไทยซึ่งจำกัดเป้าหมายอย่างเคร่งครัด และดำเนินการด้วยความรับผิดชอบตาม IHL จึงควรได้รับการรับรู้ในเชิงบวก มากกว่าการตกเป็นเหยื่อของการตีความด้านเดียวโดยไม่พิจารณาข้อเท็จจริงทางยุทธศาสตร์และกฎหมาย”

สารส้ม

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

  •  
  • Breaking News
  • ข่าวยอดนิยม
  • คอลัมน์ฮิต
16:09 น. โลกจับตา! รัสเซียคาด'ทรัมป์-ปูติน'อาจพบกันสัปดาห์หน้า
16:08 น. 'กวีเหลวไหล' เปิดเหตุผลเบิกเนตร 'ทำไมถึงรักลุงตู่?'!
16:05 น. ยืนยันแล้ว! โยกใช้สนามราชมังฯ จัดพิธีเปิด'ซีเกมส์ 2025' แทนสนามหลวง
15:58 น. 'สหรัฐฯ'สั่งล่าตัว'ปธน.เวเนซุเอลา' เพิ่มรางวัลนำจับ1,600พันล้านบาท
15:54 น. 'รศ.ธีรวัฒน์'โพสต์การ์ตูนเงาเxี้ย คล้าย'ฮุน เซน' เจอตีความเดือด สัตว์ลิ้นสองแฉก มิใช่มหาบุรุษ
ดูทั้งหมด
(คลิป) เผยความลับ'เขมร' แห่กลับ ที่แท้มันเป็นอย่างนี้นี่เอง!
'สิงคโปร์'มองเหตุปะทะไทย-กัมพูชา สะท้อนความล้มเหลวของผู้นำ
'BHQ องครักษ์พิทักษ์ฮุนเซน' ถูกสอบเครียด หลุดปากเพิ่งเป็นทหารมาได้ 9 เดือน
(คลิป) เปิดหลักฐานสำคัญ ภาพจากดาวเทียม แฉ! 'เขมร' ขนอาวุธเตรียมตัวบุก 'ไทย'
สายใยแห่งมิตรภาพ! หน่วยรบพิเศษกรีนเบเรต์สหรัฐฯ ร่วมอาลัย'จ่าสิบเอก อโณทัย ป้องแก้ว'
ดูทั้งหมด
ภาษีการค้า (สหรัฐฯ) และปัญหาชายแดน (กัมพูชา)
ออมกำลัง? (1)
กองทัพไทย รบชนะราบคาบ คนไทยต้องการฝ่ายการเมืองที่ไว้ใจได้กว่านี้
บุคคลแนวหน้า : 8 สิงหาคม 2568
ชุมชนเทียม
ดูทั้งหมด

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

โลกจับตา! รัสเซียคาด'ทรัมป์-ปูติน'อาจพบกันสัปดาห์หน้า

ยืนยันแล้ว! โยกใช้สนามราชมังฯ จัดพิธีเปิด'ซีเกมส์ 2025' แทนสนามหลวง

'สหรัฐฯ'สั่งล่าตัว'ปธน.เวเนซุเอลา' เพิ่มรางวัลนำจับ1,600พันล้านบาท

'รศ.ธีรวัฒน์'โพสต์การ์ตูนเงาเxี้ย คล้าย'ฮุน เซน' เจอตีความเดือด สัตว์ลิ้นสองแฉก มิใช่มหาบุรุษ

(คลิป) ซัดกันแหลก! 'เพื่อไทย-ภูมิใจไทย' ศึกใหญ่! 'เขากระโดง' คนซวยคือชาวบ้าน!

แววตาสิ้นหวัง! คลิปไวรัลทหารกัมพูชาสุดช็อก ปู่วัย89-75ปี ถูกเรียกตัวเข้ารับใช้ชาติ

  • Breaking News
  • โลกจับตา! รัสเซียคาด\'ทรัมป์-ปูติน\'อาจพบกันสัปดาห์หน้า โลกจับตา! รัสเซียคาด'ทรัมป์-ปูติน'อาจพบกันสัปดาห์หน้า
  • \'กวีเหลวไหล\' เปิดเหตุผลเบิกเนตร \'ทำไมถึงรักลุงตู่?\'! 'กวีเหลวไหล' เปิดเหตุผลเบิกเนตร 'ทำไมถึงรักลุงตู่?'!
  • ยืนยันแล้ว! โยกใช้สนามราชมังฯ จัดพิธีเปิด\'ซีเกมส์ 2025\' แทนสนามหลวง ยืนยันแล้ว! โยกใช้สนามราชมังฯ จัดพิธีเปิด'ซีเกมส์ 2025' แทนสนามหลวง
  • \'สหรัฐฯ\'สั่งล่าตัว\'ปธน.เวเนซุเอลา\' เพิ่มรางวัลนำจับ1,600พันล้านบาท 'สหรัฐฯ'สั่งล่าตัว'ปธน.เวเนซุเอลา' เพิ่มรางวัลนำจับ1,600พันล้านบาท
  • \'รศ.ธีรวัฒน์\'โพสต์การ์ตูนเงาเxี้ย คล้าย\'ฮุน เซน\' เจอตีความเดือด สัตว์ลิ้นสองแฉก มิใช่มหาบุรุษ 'รศ.ธีรวัฒน์'โพสต์การ์ตูนเงาเxี้ย คล้าย'ฮุน เซน' เจอตีความเดือด สัตว์ลิ้นสองแฉก มิใช่มหาบุรุษ
ดูทั้งหมด

คอลัมน์ที่เกี่ยวข้อง

กองทัพไทย รบชนะราบคาบ  คนไทยต้องการฝ่ายการเมืองที่ไว้ใจได้กว่านี้

กองทัพไทย รบชนะราบคาบ คนไทยต้องการฝ่ายการเมืองที่ไว้ใจได้กว่านี้

8 ส.ค. 2568

ฮุนเซนอยากได้อะไร แอบตกลงกับใคร?  ‘เคลื่อนแนวอธิปไตยทางบก เพื่อปรับแนวเส้นฐานทะเล’

ฮุนเซนอยากได้อะไร แอบตกลงกับใคร? ‘เคลื่อนแนวอธิปไตยทางบก เพื่อปรับแนวเส้นฐานทะเล’

7 ส.ค. 2568

แค้นอัลไพน์  ระบายที่เขากระโดง?

แค้นอัลไพน์ ระบายที่เขากระโดง?

6 ส.ค. 2568

ม.144 ยาแรง  กำจัดนักการเมืองเล่นแร่แปรธาตุงบประมาณ

ม.144 ยาแรง กำจัดนักการเมืองเล่นแร่แปรธาตุงบประมาณ

5 ส.ค. 2568

ชีวิตเลือดเนื้อ และความชอบธรรมของไทย  ต้องไม่สูญเปล่า

ชีวิตเลือดเนื้อ และความชอบธรรมของไทย ต้องไม่สูญเปล่า

4 ส.ค. 2568

ภัยคุกคามความมั่นคงอวตาร?  ไทยต้องเตรียมรับมือกับอะไร

ภัยคุกคามความมั่นคงอวตาร? ไทยต้องเตรียมรับมือกับอะไร

1 ส.ค. 2568

ลางร้ายพ่อนายกฯ  แล้วลูกจะอยู่ถ่วงประเทศไปถึงเมื่อไหร่?

ลางร้ายพ่อนายกฯ แล้วลูกจะอยู่ถ่วงประเทศไปถึงเมื่อไหร่?

31 ก.ค. 2568

จุดอ่อนของไทย  คือ ผู้นำรัฐบาลที่ไร้ภาวะผู้นำ

จุดอ่อนของไทย คือ ผู้นำรัฐบาลที่ไร้ภาวะผู้นำ

30 ก.ค. 2568

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นายปรเมษฐ์ ภู่โต
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2025 Naewna.com All right reserved