รัฐบาลน.ส.แพทองธาร ชินวัตร ได้ถูกวิพากษ์วิจารณ์เรื่องความอ่อนด้อยในประสิทธิภาพการบริหารราชการแผ่นดินมาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ก่อนที่จะเกิดปัญหาข้อพิพาทชายแดนไทย-กัมพูชาด้วยซ้ำไป จนถึงวันนี้ประเด็นดังกล่าวก็ยังถูกโจมตีเหมือนเดิม และยิ่งเสียงดังขึ้นเรื่อยๆ หลังจากเกิดสงครามไทย-กัมพูชา
ที่น่าสนใจก็คือ ประเด็นที่รัฐบาลถูกวิพากษ์วิจารณ์เพิ่มเติม ไม่ใช่เรื่องการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ หรือการเมือง แต่เป็นความอ่อนด้อยในการบริหารจัดการในภาวะสงคราม รัฐบาลชุดนี้ถูกมองว่าไม่รู้จะต้องบริหารจัดการอย่างไร ทำไมประเทศไทยที่เหนือกว่าทุกอย่าง แต่กลายเป็นว่าต้องตกเป็นเบี้ยล่าง และถูกประเทศที่เล็กกว่าข่มเหงรังแกซ้ำแล้วซ้ำเล่า
ตั้งแต่เหตุปะทะครั้งแรกที่ช่องบกเมื่อวันที่28 พฤษภาคมที่ผ่านมา ผ่านการปะทะใหญ่เป็นสงครามย่อยๆ จนมาถึงวันที่เสียงปืนสงบลงชั่วคราว ดูเหมือนการบริหารจัดการในภาวะหลังสงครามก็ยังไม่กระเตื้องขึ้น หลายครั้งถูกตั้งคำถามว่ารัฐบาลมัวทำอะไรอยู่ ไม่ทันเกมจริงๆ หรือ มีใครจงใจให้เป็นแบบนั้น สุดท้ายก่อตัวเป็นความไม่ไว้ใจเกิดขึ้นในความรู้สึกของคนไทย
กรณีรัฐบาลส่งสัญญาณว่า จะยุบศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา หรือศบ.ทก. โดยอ้างเหตุผล 2 ข้อหลักๆ คือ สถานการณ์ชายแดนคลี่คลาย กับเพื่อแสดงความจริงใจสงบศึกต่อกัมพูชาตามที่เคยพูดไว้ ทำให้เรื่องนี้ตกเป็นอีกหนึ่งเป้าโจมตีอย่างหนักถึงความอ่อนด้อยในภาวะสงคราม
ศบ.ทก.เกิดขึ้นเพื่อตอบสนองต่อสถานการณ์ความตึงเครียดที่เกิดขึ้นบริเวณแนวชายแดนไทย–กัมพูชา และบริหารสถานการณ์ให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ รวดเร็ว และเหมาะสมกับสภาพการณ์ที่เปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา โดยโครงสร้างมีบุคคลสำคัญจากหน่วยงานระดับสูงด้านความมั่นคงกว่า 25 หน่วยงาน
บทบาทหน้าที่ของศบ.ทก.มีทั้งการติดตาม ประเมิน วิเคราะห์สถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชาอย่างต่อเนื่อง และเสนอแนวทางหรือมาตรการที่เหมาะสมต่อรัฐบาล ไม่ว่าจะผ่านนายกรัฐมนตรี สภาความมั่นคงแห่งชาติ หรือคณะรัฐมนตรี โดยขึ้นอยู่กับลักษณะของเรื่อง และระดับความสำคัญ
นอกจากนี้ ศบ.ทก.ยังถูกวางบทบาทให้ทำหน้าที่เผยแพร่ข้อมูลข่าวสารอย่างถูกต้อง มีเอกภาพต่อสาธารณชน ลดโอกาสเกิดความสับสนหรือความเข้าใจผิดที่อาจบั่นทอนเสถียรภาพระหว่างประเทศ พร้อมทั้งมีอำนาจในการแต่งตั้งคณะอนุกรรมการหรือคณะทำงานสนับสนุนตามความจำเป็น
ขณะที่สถานการณ์จริง ยังพบโดรนสอดแนมนับร้อยๆ ลำบินว่อนเข้ามาในฝั่งไทยและทหารกัมพูชายังพยายามข้ามรั้วลวดหนามรุกล้ำอธิปไตย แม้จะไม่มีการปะทะ แต่ประชาชนหน้าด่านตามแนวชายแดนก็ยังข่มตานอนหลับไม่ลง บางวันมีข่าวลือก็ต้องรีบอพยพออกจากพื้นที่ สร้างความยากลำบากต่อการใช้ชีวิตในภาวะที่ไม่ปกติ
การที่ฝ่ายกัมพูชายังเล่นบทโจรลอบกัดมีพฤติกรรมจัดฉากโกหกโลก กะล่อนปลิ้นปล้อนอยู่แบบนี้ทุกวัน ศบ.ทก.จึงยังจำเป็นต้องมีอยู่ต่อไปเพื่อทำสงครามการทูต และข้อมูลข่าวสารการที่รัฐบาลมีแนวคิดจะยุบ ศบ.ทก.แม้จะยังไม่ชัดเจนก็ตาม แต่ก็สะท้อนตอกย้ำให้เห็นภาวะอ่อนด้อยของรัฐบาล และยังบวกเพิ่มความรู้สึกที่ไม่ไว้วางใจรัฐบาลชุดนี้สูงขึ้นไปอีกเท่าตัว
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี