วันอาทิตย์ ที่ 28 กันยายน พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / คอลัมน์ / คอลัมน์การเมือง / เส้นใต้บรรทัด
เส้นใต้บรรทัด

เส้นใต้บรรทัด

จิตกร บุษบา
วันอาทิตย์ ที่ 28 กันยายน พ.ศ. 2568, 02.00 น.
คดี 112 ‘ทักษิณ’ จะจบลงอย่างไร?

ดูทั้งหมด

  •  

มีข้อถกเถียงกันเรื่อง “อุทธรณ์” หรือ “ไม่อุทธรณ์” คดี 112 ที่นายทักษิณ ชินวัตร ตกเป็นจำเลย ภายหลังศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง เมื่อวันที่ 22 ส.ค. 2568

โดยวันดังกล่าว ศาลอาญา มีคำพิพากษายกฟ้อง คดีหมายเลขดำ อ.1860/2567 ที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญา 8 เป็นโจทก์ฟ้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เป็นจำเลยในความผิด ฐานดูหมิ่นสถาบันตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 ความผิดเกี่ยวกับพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ พ.ศ.2560 กรณีเมื่อปี 2558 นายทักษิณ ได้ให้สัมภาษณ์สื่อทีวีประเทศเกาหลีใต้ พาดพิงดูหมิ่นสถาบันฯ


1) ศาลพิเคราะห์หลักฐานว่าจริงหรือเท็จ

โดยคำพิพากษาของศาล ระบุว่า “...โจทก์มีพยานซึ่งเป็นเจ้าพนักงานตํารวจ และพยานปากนายอนันต์ เหล่าเลิศวรกุลมาเบิกความ ยืนยันว่าดูคลิปวิดีโอหมาย วจ.1 และ วจ.2 แล้ว เห็นว่าเป็นการกล่าวถ้อยคําให้สัมภาษณ์จําเลยจริง แม้โจทก์ไม่มีคลิปให้สัมภาษณ์ของจําเลยฉบับเต็มมาเป็นหลักฐาน แต่เมื่อพยานโจทก์ต่างยืนยันว่าคลิปวิดีโอหมาย วจ.1 และ วจ.2เป็นคลิปให้สัมภาษณ์ของจําเลยบางช่วงบางตอน และพยานโจทก์เห็นว่าสามารถนํามาใช้เป็นพยานหลักฐานในคดีได้ ส่วนที่จําเลยอ้างว่าเป็นการตัดต่อคลิปวิดีโอ ไม่ปรากฏว่าเป็นการตัดต่อในส่วนใดและส่วนไหนไม่ถูกต้องหรือไม่ตรงกับความจริง จึงเป็นการกล่าวอ้างโดยไม่มีหลักฐานที่น่าเชื่อถือได้มาสนับสนุนหักล้างพยานหลักฐาน โจทก์

ประกอบกับจําเลยยังเบิกความตอบโจทก์ถามค้าน รับว่าบุคคลและเสียงในคลิปวิดีโอหมาย วจ.1 และ วจ.2 เป็นจําเลย พยานหลักฐานโจทก์จึงมีน้ำหนักรับฟังได้ว่า จําเลยให้สัมภาษณ์นักข่าวที่ สาธารณรัฐเกาหลี ตามคลิปวิดีโอหมาย วจ.1 และ วจ.2 โดยมีเนื้อหาของข้อความตามคําฟ้อง ไม่ได้เป็นการตัดต่อหรือเสริมแต่งเพื่อใส่ความให้ร้ายจําเลย...”

หลักฐานที่เป็นคลิปวิดีโอจึงรับฟังได้

2) ศาลพิเคราะห์เนื้อหาว่า กล่าวถึง “ในหลวงรัชกาลที่ 9”
หรือไม่

“...ในส่วนของข้อความที่จําเลยให้สัมภาษณ์ตามฟ้องนั้น เป็นการพูดหรือแสดงหรือพาดพิงหรือทําให้เข้าใจได้ว่าเป็นการกล่าวถึง พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร รัชกาลที่ 9 อันมีลักษณะเป็นการหมิ่นประมาท ดูหมิ่น หรือแสดงความอาฆาตมาดร้ายต่อองค์พระมหากษัตริย์หรือไม่

...เห็นว่า ข้อความที่จะถือว่าเป็นความผิดฐานหมิ่นประมาทนั้น จะต้องได้ความว่าการใส่ความนั้นระบุถึงตัวบุคคลผู้ถูกใส่ความ หรือเป็นการยืนยัน ข้อเท็จจริงที่รู้ได้แน่นอนว่าบุคคลที่ถูกใส่ความเป็นใคร หรือหากไม่ระบุถึงผู้ที่ถูกใส่ความโดยตรงการใส่ความนั้นก็ต้องได้ความว่าหมายถึงบุคคลใดบุคคลหนึ่งโดยเฉพาะ

...ส่วนการดูหมิ่น ต้องพิจารณาว่าถ้อยคําที่กล่าวเป็นการดูถูกเหยียดหยาม หรือสบประมาทผู้ที่ถูกกล่าวถึงขนาดทําให้อับอายหรือไม่ หากเป็น เช่นนั้นก็ถือได้ว่าเป็นการดูหมิ่นแล้ว

...อีกทั้งความผิดฐานหมิ่นประมาทและดูหมิ่นผู้อื่นด้วยการใช้ข้อความ หรือคําพูด ก็ต้องพิจารณาด้วยว่า เมื่อวิญญูชนโดยทั่วไปได้พบเห็น หรือได้อ่านหรือได้ยินข้อความนั้นแล้ว จะส่งผลให้ผู้ถูกกระทําเสียชื่อเสียง ถูกดูหมิ่น หรือถูกเกลียดชังหรือไม่

...เมื่อพิจารณาข้อความหรือถ้อยคําให้สัมภาษณ์ของจําเลยมิได้ใช้คําว่า “พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ รัชกาลที่ 9” โดยตรง และไม่ได้ใช้ ถ้อยคําสรรพนามที่อ้างถึงบุคคลที่สามโดยมีคําราชาศัพท์หรือถ้อยคําที่สามารถระบุเฉพาะเจาะจงให้ เข้าใจได้ว่าหมายถึงพระมหากษัตริย์แต่อย่างใด หากแต่ใช้คําสรรพนามบุรุษที่ 3 ว่า “เขา” เรียกแทน บุคคลใดบุคคลหนึ่งหรือบุคคลอื่นหลายคนรวมกัน และยังมีคําว่า “องคมนตรี” “ทหาร” “Palace Circle” และ “คนในวัง” ล้วนแต่อยู่ในประโยคคําให้สัมภาษณ์ของจําเลย”

3) ศาลพิเคราะห์ความน่าเชื่อถือของ “พยานโจทก์

“...เห็นว่า พยานโจทก์ซึ่งเป็น ผู้เชี่ยวชาญด้านภาษาที่โจทก์นํามาเป็นพยานเพียงปากเดียว กับพยานบุคคลภายนอกที่โจทก์อ้างมา ล้วนแต่เข้าร่วมชุมนุมขับไล่จําเลยทางการเมือง อันส่อแสดงให้เห็นว่าเป็นผู้มีอคติต่อจําเลย จึงมีข้อสงสัย ถึงความเป็นกลางและต้องรับฟังด้วยความระมัดระวัง พยานบุคคลดังกล่าวของโจทก์จึงไม่อาจแสดงให้ เชื่อได้ว่า วิญญูชนทั่วไปจะตีความข้อความที่จําเลยกล่าวไปในลักษณะที่พยานเหล่านั้นเข้าใจ

...ส่วนพยาน ที่เป็นเจ้าพนักงานตํารวจของโจทก์ก็ต้องรับฟังด้วยความระมัดระวัง เนื่องจากพยานเบิกความตอบคําถามค้านสอดคล้องกันว่า ในระหว่างการดําเนินคดีกับจําเลยนั้น ความจริงพยานต่างเห็นว่า พยานหลักฐานไม่เพียงพอที่จะสั่งฟ้องจําเลยได้ เพราะคลิปวิดีโอของกลางไม่อาจยืนยันได้ว่าเป็นต้นฉบับ ทั้งไม่สามารถสืบหาบุคคลที่นําคลิปลงเผยแพร่ในระบบคอมพิวเตอร์

...ประกอบกับเมื่อพิจารณา เพจแอปพลิเคชั่นเฟซบุ๊กและเว็บไซต์ยูทูบ ที่นําคลิปวิดีโอให้สัมภาษณ์ของจําเลยมาเผยแพร่ลงในระบบคอมพิวเตอร์ พบว่าบุคคลที่นํามาเผยแพร่ซึ่งเป็นคนที่ได้รับฟังคลิปวิดีโอมาตั้งแต่แรก ล้วนเข้าใจตรงกัน ว่าจําเลยให้สัมภาษณ์โจมตีการยึดอํานาจและรัฐประหาร โดยพาดพิงถึงนายสุเทพกับนายทหารชั้นผู้ใหญ่ และองคมนตรีเท่านั้น ไม่ได้เข้าใจว่าถ้อยคําให้สัมภาษณ์นั้นจะพาดพิงหรือสื่อความหมายหรืออ้างว่า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ รัชกาลที่ 9 ทรงอยู่เบื้องหลังการปฏิวัติรัฐประหาร”

4) ศาลจึงวินิจฉัยว่า...

“...พยานหลักฐาน ทั้งหมดที่โจทก์นําสืบมา จึงยังไม่มีน้ำหนักเพียงพอให้รับฟังว่า จําเลยกล่าวข้อความตามคําฟ้องโดย เจตนาหมายถึงพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ รัชกาลที่ 9 หรือเมื่อวิญญูชนทั่วไปได้พบเห็นหรืออ่าน ข้อความที่จําเลยกล่าวแล้วจะเข้าใจได้ว่าหมายถึงพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ รัชกาลที่ 9

...ในขณะที่ การสืบพยานหลักฐานของโจทก์ไม่สมกับภาระการพิสูจน์ในคดีอาญาว่าจําเลยกระทําความผิดตามฟ้อง พยานหลักฐานโจทก์ที่นําสืบมา จึงไม่อาจรับฟังลงโทษจําเลยในความผิดฐานร่วมกันหมิ่นประมาทหรือ ดูหมิ่นพระมหากษัตริย์ตามฟ้อง

...สําหรับข้อหาร่วมกันแสดงความอาฆาตมาดร้ายพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ รัชกาลที่ 9 โจทก์กล่าวอ้างในคําฟ้อง แต่มิได้นําพยานหลักฐานใดๆ มานําสืบเกี่ยวกับข้อหานี้เลย จึงรับฟังไม่ได้

...สําหรับความผิดฐานร่วมกันนําเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นความผิด เกี่ยวกับความมั่นคงแห่งราชอาณาจักรตามประมวลกฎหมายอาญาหรือไม่ เห็นว่า เมื่อพยานหลักฐาน โจทก์รับฟังไม่ได้ว่า คําให้สัมภาษณ์ของจําเลยเป็นการหมิ่นประมาท ดูหมิ่น หรือแสดงความอาฆาตมาดร้ายพระมหากษัตริย์ จําเลยจึงไม่มีความผิดในข้อหานี้”

5) ปัญหาที่ตามมา คือ อัยการสูงสุดจะยื่นอุทธรณ์คดีนี้หรือไม่?

โดยคดีนี้เป็นอำนาจหน้าที่ของอัยการสูงสุด (อสส.) ชี้ขาดว่าจะยื่นอุทธรณ์ต่อหรือไม่ เนื่องจากเป็นคดีนอกราชอาณาจักรโดยมีกำหนดภายในเวลา 30 วัน จะครบในวันที่ 20 ก.ย. 2568 ต่อมามีรายงานข่าวว่า ได้ขอขยายเวลาไปจนถึงวันที่ 22 ตุลาคม

6) นายพิชิต ไชยมงคล แกนนำ คปท. ซึ่งติดตามทวงถามเรื่องนี้จากอัยการ เปิดเผยว่า ก่อนหน้านี้ก็เคยมาติดตามคดี ที่นายทักษิณ ตกเป็นจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 และ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ซึ่งเรื่องนี้ศาลพิพากษายกฟ้องนายทักษิณทั้ง 2 ข้อหา โดยในช่วงหนึ่งของคำพิพากษาศาลให้ความเห็นว่า ทางอัยการนำสืบไม่สมภาระในการพิสูจน์ ทำให้ทั้งนักวิชาการ และคนไทยมีข้อสงสัย และมีคำถามว่าในฐานะที่อัยการเป็นโจทก์ได้มีการดำเนินการครบถ้วนสมบูรณ์หรือไม่ รวมถึงเรื่องคลิปวิดีโอ ว่ามีการพิสูจน์ครบถ้วนเเละได้นำคลิปจริงมายื่นต่อศาลได้หรือไม่ หรือคลิปมีการตัดต่อหรือไม่ และเกรงว่าในศาลชั้นต้น อัยการอาจจะทำให้สำนวนในคดีนี้อ่อนท้ายสุดแล้วอยากให้คดีไปถึงที่สุดถึงศาลฎีกา ไม่ควรตัดต่อเฉพาะศาลชั้นต้นเท่านั้น

เมื่อถามว่าทางอัยการมีการขยายระยะเวลาไปเป็นวันที่ 22 ต.ค. 2568 หากครบกำหนดแล้วยังไม่มีการยื่นอุทธรณ์จะมีการติดตามหรือไม่ นายพิชิต ระบุว่าเราติดตามเรื่องนี้อยู่แล้วตั้งแต่วันนี้จนถึงวันที่ 22 ต.ค. 2568 ก็จะมีการติดตามเร่งรัด ให้อัยการส่งสำนวนที่มีความรัดกุมมากกว่านี้ ซึ่งถ้าหากทางอัยการไม่ยื่นอุทธรณ์อาจจะเข้าข่ายความผิด มาตรา 157 ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ อัยการอาจจะกลายเป็นจำเลยเองเนื่องจากปฏิบัติหน้าที่โดยไม่ชอบ เนื่องจากคดีนี้เป็นคดีที่เกี่ยวข้องกับสถาบันพระมหากษัตริย์ และอัยการเองเป็นทนายแผ่นดิน ต้องทำหน้าที่ปกป้องพระเกียรติภูมิให้ถึงที่สุดการไม่ปฏิบัติหน้าที่ไม่ปกป้องพระเกียรติภูมิของพระมหากษัตริย์ให้ถึงที่สุดเป็นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ จึงต้องต่อสู้คดีถึงที่สุดไม่ควรจบลงที่ศาลชั้นต้นควรให้เรื่องไปถึงศาลฎีกาเพื่อให้สิ้นกระแสความ

7) กระแสข่าวบอกว่า จะไม่ยื่นอุทธรณ์

มีรายงานข่าวว่าเมื่อเร็วๆ นี้ คณะกรรมการพิจารณาคดี 112 ของอัยการ มีการพิจารณาเเละมีมติไม่ยื่นอุทธรณ์คดี ที่อัยการสูงสุด (อำนาจ เจตน์เจริญรักษ์) โดยพนักงานอัยการสำนักงานคดีอาญา 8 ยื่นฟ้องนาย ทักษิณ ชินวัตร ในความผิดฐานดูหมิ่นสถาบันตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 เเละความผิดเกี่ยวกับพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ พ.ศ.2560

มีรายงานว่าก่อนหน้านี้ นายไพรัชมีคำสั่งให้นำเรื่องนี้เข้าสู่การพิจารณากลั่นกรอง ของคณะกรรมการคดี 112 ของอัยการที่มี นายอิทธิพร แก้วทิพย์ รองอัยการสูงสุด ว่าที่อัยการสูงสุด 1 ต.ค. 2568 นี้เป็นประธาน

โดยที่ประชุมมีมติ 8-2 เห็นควรไม่อุทธรณ์ก่อนส่งให้นายไพรัชอัยการสูงสุด พิจารณาเป็นที่เรียบร้อยเเล้ว ซึ่งนายไพรัชยังมีเวลาพิจารณาก่อนจะพ้นวาระก่อน 1 ต.ค.นี้

สำหรับคณะกรรมการพิจารณาคดี 112 คือคณะกรรมการที่อัยการสูงสุดตั้งขึ้นมาพิจารณาคดีหมิ่นพระบรมเดชานุภาพทั่วราชอาณาจักร ประกอบไปด้วย รอง อสส.ที่ได้รับมอบหมายเป็นประธาน ปัจจุบันคือ นายอิทธิพร แก้วทิพย์ รอง อสส. ส่วนเลขาคณะกรรมการชุดนี้คือ อธิบดีอัยการสำนักงานคดีอาญาโดยตำเเหน่ง ในส่วนคณะกรรมการ จะมาจากอัยการที่ดำรงตำเเหน่งอธิบดีอัยการสำนักงานคดีอาญาในเขตพื้นที่กรุงเทพฯ เช่น อธิบดีอัยการสำนักงานคดีอาญากรุงเทพใต้,อธิบดีอัยการสำนักงานคดีอาญาธนบุรี เเละอธิบดีอัยการสำนักงานอาญาอื่นๆ เพราะถือว่าเป็นสำนักงานที่ต้องรับคดีประเภทนี้โดยตรง นอกจากนี้ ยังมีอธิบดีอัยการสำนักงานการสอบสวนด้วยเนื่องจากบางคดีมีสำนวนที่เป็นคดีนอกราชอาณาจักร รวมถึงผู้ตรวจการอัยการบางคน เเละมีระดับรองอธิบอัยการบางสำนักงาน รวมกัน 10 กว่าคน(จำนวนไม่เเน่ชัด) ขึ้นอยู่กับอัยการสูงสุดในขณะนั้นตั้งขึ้น ทำหน้าที่พิจารณาสำนวนคดี 112 จากทั่วประเทศ เรียกว่าคดี 112 คดีใดจะสั่งฟ้องหรือไม่ขึ้นอยู่กับคณะกรรมการชุดนี้

เเต่สำหรับคดีนี้ ซึ่งตามขั้นตอนคดี 112 ของนายทักษิณเป็นคดีนอกราชอาณาจักรอำนาจพิจารณายื่นอุทธรณ์เป็นของอัยการสูงสุด การพิจารณาของคณะกรรมการพิจารณาคดี 112 จึงเป็นการกลั่นกรองให้อัยการสูงสุด

สำหรับขั้นตอนต่อไปหากอัยการสูงสุดไม่ยื่นอุทธรณ์ตามความเห็นของคณะกรรมการคดี 112 จะส่งผลให้คดีของนายทักษิณสิ้นสุดลงในศาลชั้นต้น เเต่หากยื่นอุทธรณ์คดีจะเข้าสู่การพิจารณาของศาลอุทธรณ์ต่อไป

7) ก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 21 กันยายน 2568 นายสมชาย แสวงการ อดีตสมาชิกวุฒิสภา โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ระบุว่า “คดี 112 คือคดีหมิ่นประมาท อาฆาตมาดร้ายต่อพระมหากษัตริย์ อสส.มีหน้าที่ต้องอุทธรณ์เท่านั้น หากตัดตอนไม่อุทธรณ์ หรือไม่ขยายเวลาเพื่ออุทธรณ์ ต้องรับผิดชอบและอาจถูกดำเนินคดีเสียเอง”

เรื่องนี้จึงต้องติดตามกันต่อไปว่า จะมีการยื่นอุทธรณ์หรือจบกันเพียงเท่านี้

หากจบกันเพียงเท่านี้ จะมีใครยื่นเรื่องเอาผิดกับอัยการ ฐานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่หรือไม่?

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

  •  
  • Breaking News
  • ข่าวยอดนิยม
  • คอลัมน์ฮิต
23:26 น. หงส์แพ้แล้ว!โดนยิงทดเจ็บ-เช็คผลพรีเมียร์ลีกทุกคู่
22:07 น. บุกจับ'อดีตหน่วยรบพิเศษ' เคยต้องโทษประหาร พ้นคุกไม่นาน ผันตัวค้ายาเสพติด
21:51 น. ฝนถล่มกรุงเทพฯ-สมุทรปราการ! หนักสุด'เขตบางนา' พบน้ำท่วมขังหลายพื้นที่ รถติดหนัก
21:30 น. รฟท. ประกาศแจ้งเหตุน้ำท่วมหนัก'ทางรถไฟขาด' ที่บ้านเหลื่อม โคราช สั่งปรับแผนเดินรถ
21:15 น. ขึ้นแท่นฉาวสนั่นโลก! 'มัสก์-เจ้าชายแอนดรูว์'มีชื่อในเอกสารลับเอปสตีน ผู้ต้องหาคดีทางเพศ
ดูทั้งหมด
คนญี่ปุ่นเมิน! ร้านอาหารเขมรเอาธงไทยวางพื้น สุดท้ายเจ๊งไม่เป็นท่า
ชาวมัทฉะเดือด เปิดปมร้อน! 'ชมพู่ อารยา' โดนจับตา ใช้'ถ้วยมัทฉะ'ก๊อปปี้?
ททท.แนะ 5 พิกัดเที่ยวปลายฝนต้นหนาว สุขทันที ที่เที่ยวไทย
กรมสมเด็จพระเทพฯ พระราชทานปูนซีเมนต์ ปรับปรุงที่พักกำลังพลชายแดนไทย-กัมพูชา
'เบียร์ เดอะวอยซ์'โพสต์แบบนี้ หลัง'หนุ่ม กรรชัย'ประกาศถอนฟ้อง
ดูทั้งหมด
ทักษิณ ชินวัตร จงใจเป็นข่าวตลอดเวลา
บุคคลแนวหน้า : 28 กันยายน 2568
พี่วิศิษฎ์
คดี 112 ‘ทักษิณ’ จะจบลงอย่างไร?
อนุทินโปรดทราบ ตึกใหม่สตง. ถล่มมาครึ่งปีแล้ว
ดูทั้งหมด

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

หงส์แพ้แล้ว!โดนยิงทดเจ็บ-เช็คผลพรีเมียร์ลีกทุกคู่

ขึ้นแท่นฉาวสนั่นโลก! 'มัสก์-เจ้าชายแอนดรูว์'มีชื่อในเอกสารลับเอปสตีน ผู้ต้องหาคดีทางเพศ

นาทีชีวิต!!! 2 หนุ่มใหญ่เข้าป่าหาเห็ดโคน เจอช้างไล่กระทืบเจ็บ 1 หนีทัน 1

ผกก.สามเสน เผยเหตุถนนทรุด เข้าข่ายความผิด ม.227 เตือนห้ามเข้าพื้นที่ ฝ่าฝืนปรับวันละ 3 หมื่น

กู้ศักด์ศรีประเทศ! อลป.ไทยบินถกเปตองโลกลุ้นปลดแบนซีเกมส์

โดรนปริศนาบินป่วนฐานทัพขนาดใหญ่ที่สุดในเดนมาร์ก เชื่อรัสเซียเป็นผู้อยู่เบื้องหลัง

  • Breaking News
  • หงส์แพ้แล้ว!โดนยิงทดเจ็บ-เช็คผลพรีเมียร์ลีกทุกคู่ หงส์แพ้แล้ว!โดนยิงทดเจ็บ-เช็คผลพรีเมียร์ลีกทุกคู่
  • บุกจับ\'อดีตหน่วยรบพิเศษ\' เคยต้องโทษประหาร พ้นคุกไม่นาน ผันตัวค้ายาเสพติด บุกจับ'อดีตหน่วยรบพิเศษ' เคยต้องโทษประหาร พ้นคุกไม่นาน ผันตัวค้ายาเสพติด
  • ฝนถล่มกรุงเทพฯ-สมุทรปราการ! หนักสุด\'เขตบางนา\' พบน้ำท่วมขังหลายพื้นที่ รถติดหนัก ฝนถล่มกรุงเทพฯ-สมุทรปราการ! หนักสุด'เขตบางนา' พบน้ำท่วมขังหลายพื้นที่ รถติดหนัก
  • รฟท. ประกาศแจ้งเหตุน้ำท่วมหนัก\'ทางรถไฟขาด\' ที่บ้านเหลื่อม โคราช สั่งปรับแผนเดินรถ รฟท. ประกาศแจ้งเหตุน้ำท่วมหนัก'ทางรถไฟขาด' ที่บ้านเหลื่อม โคราช สั่งปรับแผนเดินรถ
  • ขึ้นแท่นฉาวสนั่นโลก! \'มัสก์-เจ้าชายแอนดรูว์\'มีชื่อในเอกสารลับเอปสตีน ผู้ต้องหาคดีทางเพศ ขึ้นแท่นฉาวสนั่นโลก! 'มัสก์-เจ้าชายแอนดรูว์'มีชื่อในเอกสารลับเอปสตีน ผู้ต้องหาคดีทางเพศ
ดูทั้งหมด

คอลัมน์ที่เกี่ยวข้อง

คดี 112 ‘ทักษิณ’ จะจบลงอย่างไร?

คดี 112 ‘ทักษิณ’ จะจบลงอย่างไร?

28 ก.ย. 2568

‘แม่ทัพกุ้ง’ กับบท ‘คุณลุงแม่ทัพ’

‘แม่ทัพกุ้ง’ กับบท ‘คุณลุงแม่ทัพ’

24 ก.ย. 2568

ฮุน มาเนต, ฮุนเซน และ ‘อนุทิน’

ฮุน มาเนต, ฮุนเซน และ ‘อนุทิน’

21 ก.ย. 2568

ไม่ใช่คุกสุดท้ายของ ‘ทักษิณ’

ไม่ใช่คุกสุดท้ายของ ‘ทักษิณ’

17 ก.ย. 2568

ว่าด้วยเรื่อง ‘เปิดด่านชายแดนไทย-กัมพูชา’

ว่าด้วยเรื่อง ‘เปิดด่านชายแดนไทย-กัมพูชา’

14 ก.ย. 2568

ตามพระบรมราชโองการ

ตามพระบรมราชโองการ

10 ก.ย. 2568

ถามหา ‘ยางอาย’ จาก ‘แพทองธาร’

ถามหา ‘ยางอาย’ จาก ‘แพทองธาร’

7 ก.ย. 2568

กัด กรีด และดีดตัว ออกจาก ‘พรรคเพื่อไทย’

กัด กรีด และดีดตัว ออกจาก ‘พรรคเพื่อไทย’

3 ก.ย. 2568

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นายปรเมษฐ์ ภู่โต
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2025 Naewna.com All right reserved