วันนี้ผมขอแนะนำท่านผู้อ่านให้รู้จักท่านอาจารย์แพทย์ท่านหนึ่งที่ทำคุณประโยชน์ให้แก่ประเทศไทยเป็นอย่างยิ่ง ท่านผู้นี้ คือ ผศ.นพ.วิศิษฎ์ ฐิตวัฒน์ ผู้ล่วงลับไปแล้ว เมื่อวันที่ 2 สิงหาคม พ.ศ. 2568 นี่เอง
ตำแหน่งหน้าที่สุดท้ายของท่านอาจารย์ คือ ผู้อำนวยการศูนย์รับบริจาคอวัยวะ สภากาชาดไทย ซึ่งท่านดำรงตำแหน่งนี้ตั้งแต่ พ.ศ. 2537 จนถึงวาระสุดท้าย ซึ่งท่านได้ทำหน้าที่อย่างดีเยี่ยม และพัฒนาหน่วยงานของท่านตลอดเวลา
พี่วิศิษฎ์จบแพทยศาสตรบัณฑิต รุ่นที่ 11 ในปี พ.ศ. 2504 จากจุฬาฯ ทำงานเป็นแพทย์ประจำบ้านภาควิชาศัลยศาสตร์ ปี พ.ศ. 2505-2507 และไปศึกษาต่อที่สหราชอาณาจักรหลายที่ เช่น ที่กรุงลอนดอน Edinburgh (ประเทศ Scotland ที่ Western General Hospital) ที่ Addenbrooke’s Hospital, Cambridge กับ ศ.นพ. Sir Roy Calne ศัลยแพทย์ที่โด่งดังทั่วโลกทางด้านการปลูกถ่ายตับ และที่ St. Mark’s Hospital ลอนดอน ที่เป็นโรงพยาบาลที่ดังมากทางด้านลำไส้ใหญ่ ท่านสอบได้เป็น Fellow ของราชวิทยาลัยศัลยแพทย์แห่ง Edinburgh (หรือ Fellow of the Royal College of Surgeons of Edinburgh) และยังได้ศึกษาหลักสูตรทางด้านระบาดวิทยา ที่ Toronto แคนาดา และหลักสูตรการบริหาร รพ. สำหรับผู้บริหารระดับสูงที่มหาวิทยาลัยลอนดอนและ Birmingham
ที่คณะแพทยศาสตร์ จุฬาฯ ท่านเคยเป็นหัวหน้าหน่วยศัลยศาสตร์ทั่วไป (พ.ศ. 2520-2539) หัวหน้าภาควิชาศัลยศาสตร์ (พ.ศ. 2532-2536) ที่สภากาชาดไทยพี่วิศิษฎ์ ได้รับการแต่งตั้ง (สมัยท่าน ศ.นพ.จรัส สุวรรณเวลา เป็นคณบดีและ ผอ.รพ.จุฬาลงกรณ์) เป็นรองผู้อำนวยการ โดยผมเองได้รับแต่งตั้งให้เป็นผู้ช่วย ผอ.ในช่วงปี พ.ศ. 2528-2532 และตั้งแต่ พ.ศ.2537 จนท่านเสียชีวิต ท่านได้รับการแต่งตั้งจากสภากาชาดไทยให้เป็น ผอ.ศูนย์รับบริจาคอวัยวะ ฯลฯ
พี่วิศิษฎ์มีผลงานมากมายทั้งทางด้านศัลยแพทย์ ทางด้านการปลูกถ่ายอวัยวะ แต่วันนี้ผมขอเน้นเรื่องของศูนย์รับบริจาคอวัยวะ สภากาชาดไทย
นอกจากเป็นศัลยแพทย์ตัวยงของจุฬาฯ แล้ว เป็นถึงหัวหน้าภาควิชาศัลยศาสตร์ ผู้เชี่ยวชาญทางการผ่าตัดตับและลำไส้ใหญ่ โดยสอบได้เป็นถึง Fellow ของ Royal College of Surgeons ของ Edinburgh หรือสมาชิกของราชวิทยาลัยศัลยศาสตรแพทย์แห่ง Edinburgh ซึ่งตั้งมาตั้งแต่ ค.ศ.1505 และเป็นการสอบที่หินมาก ในประเทศไทยมีผู้ที่สอบผ่านการสอบนี้ไม่กี่สิบคน โดยราชวิทยาลัยศัลยแพทย์ของสหราชอาณาจักรมี 3 แห่ง คือ 1 แห่ง อยู่ในลอนดอน อีก 2 แห่ง อยู่ใน Scotland ที่เมือง Edinburgh และ Glasgow โดยปกติประเทศหนึ่งมักมีราชวิทยาลัยหรือวิทยาลัยเพียงแห่งเดียว แต่ในสหราชอาณาจักรการแพทย์ได้เจริญมานานหลายร้อยปี และการแพทย์ทาง Scotlandก็มีชื่อเสียงมาก จึงไม่แปลกใจที่มีการตั้งถึง 3 ราชวิทยาลัย ราชวิทยาลัยอายุรแพทย์แห่งประเทศไทย ได้ตั้งมาในปี พ.ศ. 2527 หรือ 41 ปี เท่านั้นเอง! ใหม่มากเมื่อเทียบกับราชวิทยาลัยอายุรแพทย์แห่งลอนดอน (ค.ศ.1518)
ผลงานเด่นของพี่วิศิษฎ์ คือ ท่านเป็นผู้ริเริ่มจัดทำกระบวนการรับบริจาคอวัยวะจากผู้เสียชีวิต (ผู้มีภาวะสมองตาย) ในประเทศไทยและได้พัฒนากระบวนการนี้อย่างต่อเนื่อง เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพโรงพยาบาลทั่วประเทศในการรับบริจาคและปลูกถ่ายอวัยวะ
ด้านการบริจาคอวัยวะ ได้ให้ความรู้เรื่องการบริจาคอวัยวะแก่สาธารณชนทั่วประเทศ เพื่อรณรงค์ให้บริจาคอวัยวะเพื่อช่วยเหลือชีวิตผู้อื่น มีการเผยแพร่โดยการบรรยายให้ความรู้แก่บุคลากรทางการแพทย์และประชาชนในสถานที่ต่างๆ ทั่วประเทศ จัดนิทรรศการจัดทำสื่อในการประชาสัมพันธ์ เช่น ภาพยนตร์โฆษณา แผ่นพับ โปสเตอร์ เผยแพร่ทาง Social Media เช่น website ของศูนย์รับบริจาคอวัยวะสภากาชาดไทย Application บริจาคอวัยวะ Facebook เป็นต้น
ด้านการปลูกถ่ายอวัยวะ พี่วิศิษฎ์ได้ขยายเครือข่ายโรงพยาบาลที่รับบริจาคอวัยวะ และโรงพยาบาลที่ปลูกถ่ายอวัยวะออกไปทั่วประเทศ โดยการให้ความรู้ ฝึกอบรมบุคลากร โดยเฉพาะแพทย์ พยาบาลที่ปฏิบัติงานด้านนี้ ให้การสนับสนุนอุปกรณ์ น้ำยาที่ใช้ในการดูแลผู้บริจาคอวัยวะ ตรวจเยี่ยมและตรวจรับรองโรงพยาบาลที่จะสมัครเป็นสมาชิกศูนย์รับบริจาคอวัยวะ สภากาชาดไทย และตรวจรับรองมาตรฐานโรงพยาบาลสมาชิกศูนย์รับบริจาคอวัยวะฯ ผลักดันให้งานรับบริจาคอวัยวะเป็นส่วนหนึ่งของงานประจำ นอกจากนี้ยังช่วยในการจัดตั้งเครือข่ายพยาบาลประสานงานการรับบริจาคและปลูกถ่ายอวัยวะซึ่งถือเป็นบุคลากรสำคัญที่ทำให้งานบริจาคอวัยวะในโรงพยาบาลประสบผลสำเร็จ จากการทำงานทั้งหมด ทำให้การบริจาคอวัยวะจากผู้เสียชีวิตในประเทศไทยเพิ่มขึ้นร้อยละ 10 ต่อปี
ภารกิจที่มีส่วนบุกเบิกและริเริ่มก่อตั้ง
1.ศูนย์รับบริจาคอวัยวะ สภากาชาดไทย ก่อตั้งเมื่อปี พ.ศ. 2537
2.คลังเนื้อเยื่อ ศูนย์รับบริจาคอวัยวะ สภากาชาดไทย
ก่อตั้งเมื่อปี พ.ศ.2543
วันนี้จึงขอเรียนให้ท่านผู้อ่านทราบถึงความเสียสละของพี่วิศิษฎ์ ที่ทำงานหนักมาตลอด 31 ปี เพื่อให้การบริจาคและปลูกถ่ายอวัยวะได้มีการพัฒนายิ่งๆ ขึ้นไป เพื่อประโยชน์สุขของพี่น้องชาวไทยครับ
ยังมีต่อครับ...
นพ.พินิจ กุลละวณิชย์
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี