วันอาทิตย์ ที่ 7 ธันวาคม พ.ศ. 2568
การยึดอำนาจล้มรัฐบาลของหลวงธำรงนาวาสวัสดิ์ ที่มาจากการเลือกตั้ง โดยคณะรัฐประหารที่นำโดย พลโทผิน ชุณหะวัณ ในวันที่ 8 พฤศจิกายน พ.ศ. 2490 นั้น คณะรัฐประหารได้ยกเลิกรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2489 ไป และมีการประกาศใช้รัฐธรรมนูญ (ฉะบับ ชั่วคราว) พ.ศ. 2490 ของคณะรัฐประหาร ตามรัฐธรรมนูญฉบับนี้ได้กำหนดให้รัฐสภาของไทยเป็นสภาคู่ คือมีสภากลั่นกรอง เรียกชื่อใหม่ว่า “วุฒิสภา”กับอีกสภาหนึ่งคือสภาผู้แทนราษฎรเหมือนอย่างเดิม รัฐธรรมนูญได้บัญญัติไว้ในบทเฉพาะกาล มาตรา 96 ความว่า
“ในวาระเริ่มแรกวุฒิสภาประกอบด้วยสมาชิกซึ่งพระมหากษัตริย์ทรงเลือกตั้ง ภายในกำหนด 15 วัน นับตั้งแต่วันใช้รัฐธรรมนูญนี้ และถ้าจำเป็น จะทำการประชุมวุฒิสภาก็ได้ ซึ่งในกรณีนี้
ให้วุฒิสภามีอำนาจหน้าที่ของรัฐสภาไปจนกว่าการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนตามบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญนี้จะสำเร็จเรียบร้อย”
ดังนั้น 10 วันหลังการรัฐประหารยึดอำนาจเสร็จเรียบร้อย และประกาศใช้รัฐธรรมนูญชั่วคราวแล้วคณะรัฐประหารจึงดำเนินการให้มีการแต่งตั้งสมาชิกวุฒิสภาขึ้นในวันที่ 18 พฤศจิกายน พ.ศ. 2490 จำนวน 100 คน เพื่อให้ทำหน้าที่ด้านนิติบัญญัติไปจนกว่าจะได้มีการเลือกสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรในรายชื่อ จะเห็นได้ว่าไม่มีชื่อนายทหารที่คุมกำลัง ซึ่งร่วมทำการรัฐประหารเป็นสมาชิกขององค์กรนิติบัญญัตินี้เลย ซึ่งก็ดูจะต่างจากวุฒิสภาชุดหลังๆที่คณะผู้ยึดอำนาจได้เป็นผู้เสนอแต่งตั้งนายทหารที่เป็นข้าราชการประจำอยู่ ให้มีตำแหน่งทางการเมืองนี้ด้วย เข้าใจว่าคณะรัฐประหารยังไม่ค่อยแน่ใจว่าข้าราชการประจำจะมาเป็นสมาชิกวุฒิสภาได้
ในรายชื่อที่เห็นจึงมีอดีตข้าราชการ หรือผู้ที่เคยทำงานราชการในอดีตเป็นจำนวนมาก มีขุนนางเก่าที่ดำรงตำแหน่งที่มีบรรดาศักดิ์เป็นพระยาอยู่ถึง50 ท่าน ซึ่งเท่ากับครึ่งหนึ่งของสภานั่นเอง และยังมีขุนนางที่มีบรรดาศักดิ์ขั้นคุณพระและคุณหลวงอยู่อีก 21 นาย แต่ก็ยังมีผู้ก่อการเปลี่ยนแปลงการปกครองฯอยู่ไม่น้อยกว่า 5 คน รวมทั้งนายทหารอาวุโสของผู้ก่อการเปลี่ยนแปลงการปกครองฯ หนึ่งท่าน คือ พระยาฤทธิอัคเนย์ และมีสมาชิกสภาผู้แทนชุดแรกที่มาจากการแต่งตั้งอยู่อย่างน้อยก็ 2 คน คือพระยาเทพวิทุรพหุลศรุตบดี กับพระยาปรีดานฤเบศร์ และมีอดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรชุดแรกที่มาจากการเลือกตั้งคือพระยาสมันตรัฐบุรินทร์ และมีเจ้าพระยาอยู่เพียงท่านเดียวคือเจ้าพระยาศรีธรรมาธิเบศ ภาพโดยรวมก็อาจจะบอกได้ว่ามีข้าราชการและขุนนางเก่าทั้งนายทหารระดับนายพลอาวุโสอยู่จำนวนมาก ซึ่งล้วนแต่เป็นนายทหารรุ่นเก่า ภาพจึงแสดงว่าคณะรัฐประหารในตอนนั้นอาจเพียงต้องการเลือกผู้ว่าอาวุโสที่เป็นคนรุ่นเก่าเป็นสำคัญ เพราะผู้ที่สนับสนุนคณะรัฐประหารไม่ว่าจะเป็นนายทหารระดับกลางหรือพ่อค้ากับพลเรือนอีกหลายคนยังไม่ได้รับแต่งตั้งเข้ามาให้วุฒิสภาชุดนี้
ต่อมาในวันที่ 24 พฤศจิกายน เมื่อมีการเปิดประชุมวุฒิสภา วุฒิสภาก็เลือก เจ้าพระยาศรีธรรมาธิเบศ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมเป็นประธาน เลือก พระยาอภิบาลราชไมตรี อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศเป็นรองประธานวุฒิสภาคนที่หนึ่ง กับพลโทพระยาสีหราชเดโชไชย อดีตเสนาธิการทหาร เมื่อปี 2475 เป็นรองประธานสภาคนที่สอง
องค์กรวุฒิสภาแห่งแรกนี้ ได้อยู่ต่อมาจนถึงเดือนพฤศจิกายน พ.ศ. 2494 ภายหลังจากเกิดเหตุการณ์กบฏสำคัญสองครั้งที่มีการต่อสู้กันเสียเลือดเนื้อคนไทยด้วยกัน คือ กบฏวังหลวงในเดือนกุมภาพันธ์ พ.ศ. 2492 และกบฏแมนฮัตตันในเดือนมิถุนายน พ.ศ. 2494 จึงมีคณะนายทหารจากกองทัพบก กองทัพเรือ และกองทัพอากาศ จำนวนกองทัพละ 3 นาย ได้ร่วมมือกันยึดอำนาจเพื่อล้มรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2492 ในวันที่ 29 พฤศจิกายน พ.ศ. 2494 อันมีผลเท่ากับล้มเลิกวุฒิสภาไปด้วย หลังจากนั้นเป็นระยะเวลาประมาณ 18 ปีต่อมา เมื่อมีรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2511 จึงกลับมามีวุฒิสภาอีกครั้งในวงการเมืองไทย
นรนิติ เศรษฐบุตร

ซีเกมส์2025-อนาคตกีฬาไทย: อย่าเป็น'มรดก'ที่ไม่มีใครอยากจำ
หวั่นซ้ำรอยเขมร! ยัดห่วงเข้มห้ามโอนสัญชาติแข่งซีเกมส์
‘ผบ.ทบ.’กำชับดูแลสิทธิกำลังพลได้รับบาดเจ็บไฟดูดขณะเข้าฟื้นฟู‘รพ.สต.สะดาวา’ จ.ปัตตานี
'บิว'ประกาศ! กวาด3ทองกรีฑาซีเกมส์
แห่สมัครรับเลือกตั้ง‘อบต.’บุรีรัมย์ 133 แห่ง 3,431 คน กกต.เร่งตรวจสอบคุณสมบัติผู้สมัคร

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี