วันพฤหัสบดี ที่ 30 ตุลาคม พ.ศ. 2568
การเสด็จสวรรคตของ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวงได้นำพาความโศกเศร้าอาดูรไปทั่วทั้งแผ่นดินไทยพระองค์ทรงเป็นศูนย์รวมแห่งความรัก ความศรัทธา และความผูกพันระหว่างพระมหากษัตริย์กับประชาชน พระราชกรณียกิจตลอดพระชนม์ชีพเป็นประจักษ์พยานแห่ง “พระเมตตา” ที่แผ่ไพศาลไปทุกหัวระแหง ตั้งแต่ยอดดอยเหนือสุดแดนสยามจนถึงขอบฟ้าภาคใต้ ทุกที่ล้วนเคยได้รับพระราชทานพระมหากรุณาธิคุณ
แต่ในท่ามกลางม่านน้ำตาแห่งความสูญเสีย สิ่งหนึ่งที่งดงามที่สุดได้ปรากฏขึ้น-นั่นคือ พลังแห่งความสามัคคีของคนไทย
ไม่ว่าจะต่างวัย ต่างภูมิหลัง หรือต่างความคิดเห็นทางการเมือง ทุกคนต่างรวมใจเป็นหนึ่งเดียวเพื่อถวายความอาลัยแด่พระองค์อย่างสงบและสำรวม ภาพของผู้คนที่แต่งกายไว้ทุกข์ เดินทางไปถวายสักการะทั่วประเทศ กลายเป็นภาพที่สะท้อนว่า “หัวใจไทยยังคงเต้นเป็นจังหวะเดียวกัน” ภายใต้ธงแห่งความจงรักภักดี
นอกจากนั้น ในห้วงเวลาจากนี้ไป ซึ่งจะเป็นเวลาที่คนไทยจากทุกทิศจะเดินมาสักการะพระบรมศพที่พระบรมมหาราชวัง เราจะได้เห็นน้ำใจคนไทยจำนวนมาก ที่เสียสละเวลา แรงกายกำลังทรัพย์มาเป็นจิตอาสาช่วยงานในด้านต่างๆ เช่น งานพยาบาล แจกจ่ายน้ำ อาหาร ดูแลจัดระเบียบผู้มาร่วมงาน การรับส่ง ฯลฯ เหมือนที่เคยได้เห็นเมื่อครั้งในหลวงรัชการที่ 9 สวรรคต
เมื่อเผชิญความเศร้า เราเลือกที่จะยืนอยู่เคียงข้างกัน แสดงออกด้วยความสงบ ความเคารพ และความรักต่อสถาบันอันเป็นรากฐานของประเทศสิ่งเหล่านี้สะท้อนว่า สายใยแห่งความผูกพันระหว่างประชาชนกับพระมหากษัตริย์ไม่ได้เสื่อมสลายตามกาลเวลา ตรงกันข้าม กลับยิ่งมั่นคงแน่นแฟ้นยิ่งกว่าเดิม
สมเด็จพระพันปีหลวงทรงเป็นแบบอย่างของ“ความงามที่แท้จริง” - ความงามที่ไม่ได้อยู่เพียงภายนอก หากอยู่ในพระทัยที่เปี่ยมด้วยความเมตตา ความอดทน และความห่วงใยในประชาชน ทรงสอนให้เรารู้คุณค่าของความเรียบง่าย ความขยัน และการพึ่งพาตนเอง พระองค์ทรงปลูกฝังแนวคิด “เศรษฐกิจพอเพียง” ผ่านโครงการพระราชดำริมากมายที่มุ่งให้คนไทยอยู่ได้ด้วยตนเองอย่างมีศักดิ์ศรี
ดังนั้น เมื่อวันนี้เราสูญเสีย “แม่ของแผ่นดิน” ไป สิ่งที่ควรทำไม่ใช่เพียงการหลั่งน้ำตา แต่คือการสืบสานเจตนารมณ์ของพระองค์
ไม่ว่าจะเป็นการอนุรักษ์ผ้าไหมไทย การรักษาศิลปหัตถกรรมพื้นบ้าน การส่งเสริมชุมชนเข้มแข็ง หรือการดูแลผืนแผ่นดินด้วยความรับผิดชอบสิ่งเหล่านี้คือหนทางแห่ง “ความจงรักภักดีที่แท้จริง”ที่จะทำให้พระเกียรติยศของพระองค์คงอยู่ตราบนานเท่านาน
เมื่อวันเวลาผ่านไป ความโศกเศร้าอาจจางหาย แต่สิ่งที่จะยังคงอยู่คือ ความทรงจำร่วมของคนไทยทั้งชาติ ที่ได้ร่วมกันหลั่งน้ำตา และจับมือกันด้วยหัวใจที่เปี่ยมด้วยรักและศรัทธา
“น้ำตา” จึงไม่ใช่เพียงสัญลักษณ์ของความเศร้า
หากเป็นประกายแห่ง “พลังของความสามัคคี”ที่ทำให้เราระลึกได้ว่า
ตราบใดที่คนไทยยังรักกัน ประเทศนี้จะไม่มีวันล้ม
ขอพระองค์ทรงสถิตอยู่ในดวงใจคนไทยตราบนิรันดร์

‘ในหลวง’ โปรดเกล้าฯให้ รองผู้ว่าฯจ.นรา เชิญตะกร้าสิ่งของพระราชทานไปมอบเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ได้รับบาดเจ็บ
นายกฯ หารือทวิภาคีนายกฯ แคนาดา มุ่งเสริมสร้างความสัมพันธ์ครบรอบ 65 ปี
‘ในหลวง-พระราชินี‘ ทรงบำเพ็ญพระราชกุศล สัตตมวาร (7วัน) ถวายพระบรมศพ ’สมเด็จพระพันปีหลวง’
ไทยเบฟ แสดงความอาลัยถวาย เบื้องหน้าพระฉายาลักษณ์ สมเด็จพระพันปีหลวง
'ชยพล-รักชนก'เผย ไร้คำตอบชัดเจน จาก 'ทบ.- กัน จอมพลัง' ปมเปิดรับบริจาค

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี