วันจันทร์ ที่ 3 พฤศจิกายน พ.ศ. 2568
รัฐบาลก็คงไม่คาดคิดว่า กระแสไม่เห็นด้วยและโจมตีการลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือแร่หายากของโลก หรือแร่แรร์เอิร์ธกับสหรัฐอเมริกา จะโหมกระหน่ำรุนแรงถึงขนาดนี้จนกลายเป็นโจทย์ยากสำหรับรัฐบาลที่จะต้องมานั่งแปลภาษาอังกฤษเป็นไทย และแปลไทยมาเป็นไทยอีกว่า ไม่ได้หมกเม็ด หรือไม่ได้ลักไก่ตรงไหน
ตัวแทนฝ่ายรัฐบาลพยายามอธิบายว่าMOU ฉบับนี้ไม่ใช่กฎหมาย เป็นเพียงข้อตกลงความเข้าใจเพื่อร่วมมือกันในการพิจารณาเรื่องห่วงโซ่อุปทาน และเรื่องการส่งเสริมการลงทุนแร่หายาก หรือแร่แรร์เอิร์ธ ซึ่งไม่มีข้อผูกพันทางกฎหมาย จะยกเลิกเมื่อไหร่ก็ได้ แต่ขณะเดียวกัน ก็ยอมรับกลายๆ ว่า เป็นการปูทางเจรจาภาษีสหรัฐฯ เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันในอาเซียน
หรือแม้แต่นายอดิทัต วะสีนนท์ อธิบดีกรมอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่ ก็ยังออกมาช่วยชี้แจงว่า แร่หายากนี้กระจายอยู่ทั่วไปในไทย แต่ยังไม่พบแหล่งแร่ที่มีความเข้มข้นพอที่จะคุ้มค่าต่อการลงทุนในเชิงพาณิชย์ ที่ไทยส่งออกเป็นอันดับ 5 นั้น เพราะเรานำเข้าและตกแต่งแร่ให้มีความเข้มข้นมากขึ้นก่อนจะส่งออกต่อ ไม่ได้มาจากการทำเหมืองในประเทศ
แต่คำอธิบายเหล่านั้น กลับไม่ได้ทำให้เสียงโจมตีลดราวาศอกลงไปเลย เหตุผลอย่างแรกก็คือมันเป็นเรื่องของความรู้สึกเพราะรัฐบาลไปลงนามข้อตกลงโดยไม่บอกคนไทยสักคำ เพิ่งมารู้กันภายหลังที่ประธานาธิบดีโดนัลป์ ทรัมป์ ของสหรัฐ โพสต์ข้อความลงบนโซเชียลของเขาตรงนี้เองทำให้ประชาชนที่มีความระแวงนักการเมืองอยู่แล้ว คิดว่ารัฐบาลลักไก่เปิดทางให้ต่างชาติเข้ามาแสวงหาผลประโยชน์จากทรัพยากรธรรมชาติของไทย
อีกอย่างคือ คนไทยไม่พอใจกับบทบาทการจุ้นจ้านของทรัมป์เป็นทุนเดิม และวิตกกังวลว่า การทำข้อตกลงกับชาติมหาอำนาจครั้งนี้ เบื้องหลังก็คือเกมการเมืองระดับโลกที่สหรัฐฯใช้ไทยเป็นข้อต่อสำคัญแทรกห่วงโซ่จีนเจ้าตลาด กลายเป็นแรงกดทับทำให้ไทยต้องวางน้ำหนักรักษาสมดุลความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจในเวทีระหว่างประเทศอย่างระมัดระวังเพราะจำเป็นต้องพึ่งพาทั้งสหรัฐและจีน
ขณะเดียวกัน ความสุ่มเสี่ยงต่อปัญหาสิ่งแวดล้อมและชุมชนท้องถิ่น ก็เป็นเรื่องสำคัญมากๆ เช่นกัน เนื่องจากอุตสาหกรรมแร่แรร์เอิร์ธเป็นเรื่องใหม่ ไทยเรายังไม่มีความพร้อมใดๆ ทั้งการศึกษาผลกระทบ กฎหมายรองรับ และองค์ความรู้ต่างๆ ตัวอย่างที่เห็นชัดเจนที่สุดก็คือ การทำเหมืองแร่แรร์เอิร์ธเถื่อนฝั่งประเทศเพื่อนบ้าน ได้ส่งผลกระทบมลพิษทางน้ำขึ้นในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ และเชียงราย จนขณะนี้ก็ยังแก้ไขปัญหาอะไรไม่ได้เลย
จริงอยู่ แม้รัฐบาลพยายามจะบอกว่าMOU ความร่วมมือแร่แรร์เอิร์ธที่ไทยทำกับสหรัฐฯไม่มีข้อผูกพันทางกฎหมาย และสามารถยกเลิกได้นั้น ในความเป็นจริงแล้วคงทำไม่ได้ง่ายๆ ดังนั้น คนไทยจึงมีสิทธิ์ที่จะสงสัยและตั้งคำถามง่ายๆ ว่า ในเมื่อเป็นข้อตกลงเรื่องผลประโยชน์ ถ้าไม่เข้ามาหาประโยชน์ มันจะเป็นไปได้ยังไง ซึ่งเป็นเรื่องที่รัฐบาลต้องหาทางอธิบายต่อไปให้ดี
อย่างไรก็ตาม ปัญหาของเรื่องนี้ มาจากรัฐบาลเองที่ทำให้เกิดข้อสงสัยว่า จงใจปิดบังประชาชนหรือไม่ ทั้งๆ ที่เรื่องใหญ่และสำคัญขนาดนี้ ประชาชนควรรู้ก่อน ไม่ใช่มารู้ทีหลัง จนเกิดความรู้สึกที่ไม่น่าไว้วางใจตามมา อย่าลืมว่ากรณีแบบนี้เคยเกิดขึ้นแล้วในรัฐบาลชุดก่อนจนนำมาซึ่งวิกฤตศรัทธาผู้นำอย่างรุนแรงเพราะฉะนั้นรัฐบาลชุดนี้ก็ควรจะดูไว้เป็นบทเรียนและสำเหนียกไว้ให้ดีว่า อย่ามองข้ามหัวประชาชน และอย่าล้อเล่นกับความไว้วางใจ

'เนเน่' เล่าเหตุระทึก 'อภิสิทธิ์' นั่งเคลียร์นิสิตจุฬาฯ ชูป้ายประท้วงสลายชุมนุน 53
สะเทือนขวัญ! คนร้ายใช้มีดไล่แทงคนบนรถไฟในอังกฤษ บาดเจ็บสาหัสนับ10ราย
'คนละครึ่ง'กระตุ้น'ชีวิต'รากหญ้า! 'นักเขียนดัง'เผยแม่ค้ายิ้มระรื่น ดีกว่าเงิน 10,000 บาท
เช้านี้คนกรุงอ่วม! น้ำท่วมขังถนนหลายสายทำจราจรเป็นอัมพาต ชาวเน็ตแห่แชร์สนั่นโซเชียล
'นิพิฏฐ์' ซัด 'อนุทิน' ไร้มารยาทการเมือง เปิดตัวหน้าที่ทำการพรรค ปชป.-แต่งสีกากีหาเสียง

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี