วันจันทร์ ที่ 10 พฤศจิกายน พ.ศ. 2568
รายงานข่าวระบุว่า เมื่อวันที่ 6 พ.ย. 2568 นายนิสิต สินธุไพร อดีต สส.พรรคเพื่อไทยอดีตแกนนำ นปช. ได้ประสานติดต่อมายังเจ้าหน้าที่ตำรวจกองกำกับการ 3 กองบังคับการปราบปราม (กก.3 บก.ป.) เพื่อขอเข้ามอบตัว
โดยนายนิสิตเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดพัทยา ที่ 618/2562 ลงวันที่ 1 พ.ย. 2562 ข้อหา “ก่อความวุ่นวายในบ้านเมือง, ทำให้เสียทรัพย์ และบุกรุก” กรณีเหตุการณ์บุกล้มการประชุมอาเซียน ปี 2552
ศาลฎีกาพิพากษาจำคุก 4 ปี ไม่รอลงอาญา
ในเหตุการณ์เสื้อแดงบุกล้มประชุมอาเซียน มีภาพเหตุการณ์ที่นายนิสิต ร่วมกับนายอริสมันต์ บุกเข้าไปยึดโพเดียวแถลงข่าวในโรงแรมที่ประชุมอาเซียนด้วย
ที่ผ่านมา นายนิสิตหลบหนีไม่ไปฟังคำพิพากษาของศาล ถูกออกหมายจับ
อนึ่ง นายนิสิตเป็นบิดาของนางสาวจิราพร สินธุไพร อดีตรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในรัฐบาลเศรษฐา-แพทองธาร เพื่อไทย
1. ในปี 2552 ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ หลบหนีคดี หนีหมายจับของศาล ไปเคลื่อนไหวทางการเมืองอยู่ต่างประเทศ
นายทักษิณได้วีดีโอลิงก์เข้ามาปราศรัยในที่ชุมนุมคนเสื้อแดงหลายครั้ง เนื้อหายุยง หนุนส่งให้คนเสื้อแดงออกมาชุมนุมเคลื่อนไหว อ้างว่าเรียกร้องประชาธิปไตย
“ถ้าเสียงปืนแตก ผมจะไปนำพี่น้องเข้ากรุงเทพฯทันที”
“มีแต่บุก ไม่มีถอย... เราใกล้ชนะแล้ว... ผมแพ้ไม่ได้... อย่ากลับบ้านมือเปล่า..”
แกนนำ นปช. นำมวลชนกลุ่มคนเสื้อแดง บุกไปการล้มการประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียนกับประเทศคู่เจรจา ที่ประเทศไทย จัดขึ้นที่ โรงแรมรอยัล คลิฟ บีช รีสอร์ท เมืองพัทยา
นำโดยนายอริสมันต์ พงษ์เรืองรอง ซึ่งได้ประสานกับแกนนำเสื้อแดงที่อยู่เวที กทม. และหลังปฏิบัติการ ยังได้กลับมาขึ้นเวที นปช.ที่กทม. ประกาศชัยชนะ แถมเล่าว่าได้รับคำสั่งและได้รับเงินสนับสนุนจากแกนนำเสื้อแดงเพื่อให้บุกไปล้มประชุมอาเซียนที่พัทยาอย่างไรด้วย
สุดท้าย ศาลฎีกา พิพากษายืนตามศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ ให้ลงโทษจำคุกนายอริสมันต์ และพวก รวม 12 คน เป็นเวลา 4 ปี โดยไม่รอลงอาญา
อาทิ นายนิสิต สินธุไพร นายอริสมันต์ พงศ์เรืองรอง นายสุรชัย ด่านวัฒนานุสรณ์ พ.ต.ท.ไวพจน์ อาภรณ์รัตน์ นายวรชัย เหมะ นายพายัพ ปั้นเกตุ ฯลฯ
2. ถามว่า นายนิสิตมอบตัวครั้งนี้ เพระสำนึกในการกระทำความผิด อย่างนั้นหรือ?
คิดว่า ไม่น่าจะใช่
ถ้าสำนึกแล้วมามอบตัว รับโทษ รับผิดตามกรรมที่ก่อ ก็น่าจะมาก่อนนี้นานแล้ว
แต่อาจเป็นเพราะกฎหมายนิรโทษกรรมที่ผ่านสภาไปแล้วนั้น มีเนื้อหาล้างผิดครอบคลุมถึงคนที่ล้มการประชุมอาเซียนด้วย
นายอริสมันต์ที่ยังไม่มามอบตัว ก็น่าจะเป็นเพราะนายอริสมันต์มีโทษจำคุกตามคดีสินบนบ้านเอื้ออาทรติดตัวอีกต่างหาก ซึ่งคดีทุจริตไม่ได้รับนิรโทษกรรมด้วย
2. ดร.สมเกียรติ อ่อนวิมล เคยเขียนบทความ “ครบรอบ 4 ปี ทักษิณ ชินวัตร และ อริสมันต์พงษ์เรืองรอง กับการทำลายการประชุมสุดยอดอาเซียน ที่พัทยา 10-11 เมษายน 2552”
เนื้อหาบางส่วน ระบุว่า
“...เดือนเมษายน 2552. ระหว่างการประชุมสุดยอดอาเซียน+6 ที่พัทยา ผมอยู่ในโรงแรมรอยัล คลิฟ บีช รีสอร์ท ทุกวัน เหมือนสื่อมวลชนทั้งหลาย
ในวันแรกที่ไปถึง รู้สึกสะดวกสบายและเห็นความราบรื่นในการเตรียมงาน มองเห็นประโยชน์อันยิ่งใหญ่จากการประชุม เพราะการเตรียมงานเรียบร้อย มีประสิทธิภาพอย่างน่าภาคภูมิใจ...
...แต่พอเริ่มงานในวันที่ 10 เมษายน 2552 ทุกอย่างก็ไหวสะเทือนเพราะแรงการประท้วงจากฝูงชนผู้สนับสนุนอดีตนายกรัฐมนตรี พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ที่ใส่เสื้อสีแดงเป็นสัญลักษณ์ ผมทราบดีว่าคุณทักษิณ ต้องการอำนาจกลับคืนมา แต่ไม่มีวิธีอื่นใดนอกจากล้มรัฐบาลของนายกฯอภิสิทธิ์ และไม่มีวิธีอื่นใดที่จะล้มรัฐบาลได้ขณะที่ตัวเองเป็นผู้ต้องโทษหนีไปอยู่ต่างประเทศ
นอกจากจะให้ตัวแทนของตนในประเทศไทย รวมพลังมวลชนมาก่อกวนเพื่อล้มรัฐบาลด้วยเงื่อนไขที่รัฐบาลในระบอบประชาธิปไตยใดๆ จะรับไม่ได้ แต่ผมก็ไม่คิดว่ามวลชนของคุณทักษิณจะมาล้มการประชุมสุดยอดอาเซียนที่พัทยา ที่ผมคิดเช่นนี้ก็เพราะว่าพวกเสื้อแดงที่เป็นผู้นำการประท้วงกล่าวบนเวทีหน้าทำเนียบรัฐบาลที่กรุงเทพฯว่าจะไม่ขัดขวางการประชุมสุดยอดอาเซียนและพิสูจน์การรักษาสัจจะให้เห็นแล้วในระหว่างการประชุมสุดยอดก่อนหน้านี้ที่ชะอำ-หัวหิน
ในวันที่ 10 เมษายน 2552. ขบวนประท้วงของพวกเสื้อแดงเดินทางเข้ามาถึงหน้าโรงแรมอย่างง่ายดาย ทั้งๆ ที่ทางเข้าก็แคบและมีทางเข้าด้านหน้าทางเดียว ทางเข้าด้านหลังโรงแรมก็มีแต่ก็สามารถปิดกั้นให้ความปลอดภัยแก่สถานที่ประชุมได้ หากตำรวจและทหารต้องการจะทำหน้าที่จริงๆ โดยไม่จำเป็นต้องใช้อาวุธรุนแรง เพียงแต่ตั้งเครื่องกีดขวางเสริมด้วยตำรวจและทหารหลายๆแถว แต่ก็ไม่มีการดำเนินการใดๆ
.jpg)
.jpg)
...ระหว่างความชุลมุนวุ่นวายในอาคารสื่อมวลชนนั้น ผมนั่งคิดอยู่ว่าผมควรจะทำอย่างไรดีกับสถานการณ์ จะหลบไปหามุมปลอดภัย หรือจะเข้าไปอธิบายให้พวกแดงฟังบ้าง หรือจะเข้าไปเผชิญหน้าถกเถียงกับพวกเขาด้วยตัวเองเสียเลย ไม่รู้ว่าควรจะทำอย่างไรดี
ในที่สุด ผมก็เดินแหวกฝูงชนที่ห้อมล้อมคุณอริสมันต์อยู่นั้น แล้วผมก็เข้าไปด้านหลัง สะกิดไหล่คุณอริสมันต์ที่กำลังยืนพูดกับผู้สื่อข่าวข้างหน้า คุณอริสมันต์หันมาทักทายผม แล้วผมก็บอกคุณอริสมันต์ ที่พวกเราสื่อมวลชนเรียก “กี้ร์” ซึ่งเป็นชื่อเล่น
ผมขอร้องคุณอริสมันต์ว่าขอให้ถอนกำลังมวลชนกลับไปหลังจากยื่นหนังสือแล้ว ตามที่ได้สัญญาไว้กับท่านผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี ขอให้เห็นแก่อาเซียนและรัฐบาลซึ่งหมายถึงรัฐบาลของท่านนายกฯสมัคร สุนทรเวช รัฐบาลท่านนายกฯสมชาย วงศ์สวัสดิ์ และรัฐบาลของท่านนายกฯอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ทุกรัฐบาลทั้งหมดรวมกัน เพื่อรักษาชื่อเสียงของประเทศชาติเอาไว้ให้ได้ เพราะทุกรัฐบาล ล้วนแล้วแต่ร่วมกันทำงานเพื่ออาเซียน เพื่อชื่อเสียงของประเทศไทยมานานแรมปี อาเซียนเป็นของทุกรัฐบาล เป็นของคนไทย และเป็นของพลเมืองเกือบ 600 ล้านคนใน 10 ประเทศร่วมภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ของเรา
อาเซียนไม่เกี่ยวกับปัญหาระหว่างคุณทักษิณกับรัฐบาลพรรคประชาธิปัตย์แต่ประการใด
อาเซียนไม่เกี่ยวกับเสื้อเหลืองหรือเสื้อแดง
อาเซียนไม่ได้เป็นปฏิปักษ์อะไรกับพวกแดง!
ผมพูดกับคุณอริสมันต์โดยความหมายรวมทำนองนี้ในเวลาไม่ถึงนาที แล้วย้ำกับคุณอริสมันต์ว่า หากมวลชนของคุณอริสมันต์ถอยกลับตามสัญญาก็จะได้คะแนนนิยมเพิ่มขึ้นในฐานะที่แสดงความเป็นนักประชาธิปไตยในการประท้วงแล้วส่งความคิดเห็นตามช่องทางที่เหมาะสม จบแล้วก็จบกระบวนการประท้วง
หลังการยื่นหนังสือประณามรัฐบาลไทยแล้วขบวนมวลชนเสื้อแดงของคุณอริสมันต์ก็ถอยกลับไปอย่างเป็นระเบียบ ทำให้ผมโล่งใจและภูมิใจในความยึดมั่นสัจจะวาจาของคุณอริสมันต์
หลังจากนั้น ผมก็ได้ข่าวว่ามีชาวพัทยาจำนวนหนึ่งไม่พอใจการที่พวกคุณอริสมันต์มาประท้วงทำให้เสียหายต่อบรรยากาศทางสังคมและธุรกิจของเมืองพัทยา และกลุ่มชาวพัทยาที่มาประท้วงรออยู่ปากทางตอนที่พวกคุณอริสมันต์กำลังถอยขบวนย้อนทางออกไป ชาวพัทยาที่ประท้วงใส่เสื้อสีน้ำเงินเป็นสัญลักษณ์ ผมถามท่านผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรีก็ได้ความว่ามีจำนวนรวม 500 คน และท่านรับทราบถึงการมาของขบวนชาวเมืองพัทยา (หรืออาจจะตีความต่อไปได้ว่าท่านผู้ว่าฯมีส่วนในการจัดมวลชน) กลุ่มเสื้อสีน้ำเงินมีทั้งชาวเมืองที่ทำธุรกิจท่องเที่ยวและชาวประมง แต่การใส่เสื้อสีน้ำเงินแสดงถึงการจัดตั้งกลุ่มผู้ชุมนุมเอามาต่อต้านฝ่ายเสื้อแดงซึ่งมีจำนวนมากกว่า ผมมาทราบทีหลังว่ามีการตะโกนด่าทอและขว้างปาใส่กันบ้าง แต่ไม่มีใครบาดเจ็บรุนแรงหรือเสียชีวิต
เมื่อผมกลับไปพักที่โรงแรมริเวียร่า ในเขตนาเกลือ ไกลจากที่ประชุมสุดยอดอาเซียนได้ดูช่องโทรทัศน์ D-Station ผ่านดาวเทียมของคุณทักษิณ ชมการปราศรัยบนเวทีของผู้ประท้วงที่กรุงเทพฯ ประกาศให้มวลชนเสื้อแดงเดินทางไปสมทบและเตรียมประท้วงการประชุมสุดยอดอาเซียนที่พัทยาอีกรอบหนึ่ง ผมฟังคำปราศรัยของคุณทักษิณ ผ่านจอภาพวีดีโอ
คุณทักษิณพูดปลุกเร้าอารมณ์ชาวเสื้อแดงแสดงความไม่พอใจที่การประท้วงนำโดยคุณอริสมันต์จบลงอย่างง่ายเกินไป
คุณทักษิณต้องการให้พวกเสื้อแดงกลับไปประท้วงขัดขวางการประชุมสุดยอดอาเซียนต่อไปโดยตะโกนร้องว่า
“ผมแพ้ไม่ได้” ประท้วงแล้ว “ต้องมีอะไรติดไม้ติดมือกลับมา”
แล้วคุณทักษิณก็เรียกร้องให้การชุมนุมทวีความเข้มข้นขึ้น
ได้ยินดังนี้แล้วผมก็สิ้นหวัง และเชื่อว่าคำสั่งของคุณทักษิณนั้นศักดิ์สิทธิ์เหนือสัจจะวาจาใดๆ ที่คุณอริสมันต์ให้ไว้กับผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี หรือที่สัญญากับผมจากการคุยกันอย่างฉาบฉวยไม่กี่วินาที
เช้าวันที่ 11 เมษายน 2552. ผมไม่คิดว่าการประชุมสุดยอดอาเซียนจะเป็นไปได้
ดูจากสีหน้าที่โกรธขึ้งของคุณณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ และคุณจตุพร พรหมพันธุ์ บนเวทีปราศรัยหน้าทำเนียบรัฐบาล ก็เห็นความรุนแรงและมุ่งมั่นที่จะเอาชัยชนะติดมือจากพัทยากลับไปมอบให้คุณทักษิณให้ได้
..ระหว่างทางบนถนนนาเกลือ ไปสู่โรงแรมที่จัดประชุมสุดยอดอาเซียน ผมพบกลุ่มเสื้อแดงวิ่งไล่ตีชาวพัทยาบริเวณวงเวียนน้ำพุ กระเจิดกระเจิงมาในซอยที่ผมกับทีมงานสารคดีโทรทัศน์อาเซียนหลบอยู่ ชายหนุ่มชาวพัทยาที่หนีเข้ามามือโชกเลือดเนื้อฉีกเป็นแผ่นยาวน่ากลัว เลือดไหลไม่หยุด ผมให้ผ้าเช็ดหน้าไปซับเลือด แล้วเจ้าของร้านขายของบริเวณใกล้เคียงก็ออกมาช่วยทำแผลให้ พวกเสื้อแดงวิ่งไล่ล่าตามมาในซอยหวังทุบตีด้วยไม้กระบองในมือ แต่ชาวพัทยาผู้บาดเจ็บก็ขึ้นรถหลบหนีไป...
มาถึงเวทีการประท้วง ซึ่งอาศัยหลังคารถบรรทุกเป็นที่ยืนปราศรัย ผู้ปราศรัยนำโดยคุณอริสมันต์ พงษ์เรืองรอง เช่นเดิม เห็นหน้าคุณอริสมันต์อีกครั้งผมก็หมดความเชื่อถือในสัจจะวาจาที่เคยให้ไว้เมื่อวาน ผมเชื่อในใจว่าคุณอริสมันต์จริงใจกับอาเซียนเมื่อวันวานที่ถอยกำลังกลับไปแต่ก็มั่นใจว่าคุณทักษิณมีอำนาจสั่งการเหนือกว่า แล้วสั่งผ่านผู้นำบนเวทีอภิปรายหน้าทำเนียบรัฐบาลที่กรุงเทพฯ
ผมเชื่อว่าการล้มการประชุมสุดยอดอาเซียนเป็นของติดไม้ติดมือกลับไปตามที่คุณทักษิณต้องการนั้น คงจะถือเป็นสัญลักษณ์ของชัยชนะ
ไม่ว่าจะอ้างเงื่อนไขอะไร เมื่อวันวานผู้ประท้วงสร้างเงื่อนไขเพียงขอยื่นหนังสือประท้วง แต่มาวันนี้ผู้ประท้วงขอขัดขวางการประชุม หากไม่จับตัวคนที่ทำให้พวกเสื้อแดงเสียชีวิตในการปะทะกันที่พัทยา โดยอ้างว่ามีพวกเสื้อแดงเสียชีวิตจริง แต่ข้อเท็จจริงต้อนนั้นไม่มีใครทราบผมเองทราบเป็นส่วนตัวเพราะพบเห็นโดยตรงว่าพวกเสื้อแดงตีชาวพัทยามือฉีกเลือดโชกไปหนึ่งคน หนุ่มพัทยาที่รับผ้าเช็ดหน้าจากผมไปห้ามเลือดย่อมยืนยันได้
ความจริงในวันต่อมาก็พบว่าไม่มีใครเสียชีวิตตามที่คุณอริสมันต์ประกาศเอาเป็นเงื่อนไขการล้มการประชุมสุดยอดอาเซียน แต่ในขณะที่มีการสร้างข่าวสร้างเงื่อนไขเรื่องเสื้อแดงตายอยู่ในหมู่ฝูงชนที่กำลังเดือดดาลอยู่นั้น คุณอริสมันต์ก็พาฝูงชนบุกเข้าทุบทำลายประตูทางเข้าอาคารด้านหน้าของโรงแรมที่ประชุม กระจกบานประตูแตกละเอียด กระจัดกระจาย
คุณอริสมันต์พามวลชนเดินพล่านไปทั่วอาคาร ตะโกนโหวกเหวกโวยวายไปทั่ว ผมกับทีมงานและคณะนักข่าวกรมประชาสัมพันธ์หลบอยู่ในห้องอาหารของสื่อมวลชน ซึ่งทั้งหมดใช้อาคารส่วนหน้าของโรงแรมนี้เป็นศูนย์ทำงานของเหล่าสื่อมวลชนรวมนับพันคนจากทั่วโลกความกร้าวกร่างและรุนแรงของพวกเสื้อแดงถูกบันทึกไว้โดยสื่อมวลชนทั่วโลกที่มาชุมนุมทำข่าวอาเซียนกันอยู่แล้ว
ณ นาทีนั้น บรรดาผู้นำชาติอาเซียนและประเทศคู่เจรจาถูกพาหนีออกจากโรงแรมไปทั้งทางเรือ และทางอากาศโดยเฮลิคอปเตอร์ ท่านนายกรัฐมนตรี Kevin Rudd กำลังเดินทางมาจากออสเตรเลียใกล้จะถึงพัทยาแล้ว พอได้ข่าวการก่อความวุ่นวายของพวกเสื้อแดง ท่านก็สั่งหันหัวเครื่องบินกลับออสเตรเลียกลางอากาศโดยฉับพลัน
คุณทักษิณใช้คุณอริสมันต์ทำลายที่ประชุมสุดยอดอาเซียนโดยเฉพาะเจาะจง และ ทำลายอาเซียนโดยรวม จนคุณทักษิณและคุณอริสมันต์ถือว่าฝ่ายตนได้รับชัยชนะ
แต่ในความเห็นของผมนั้น คุณทักษิณพ่ายแพ้ยับเยิน จากพฤติกรรมที่ก่อขึ้นครั้งนี้
คุณทักษิณประพฤติตัวน่าอับอายเป็นอย่างยิ่ง ทั้งในระดับชาติ ระดับอาเซียน และระดับโลก
คุณทักษิณไม่สำนึกเลยว่าตัวเองเคยร่วมการประชุมสุดยอดอาเซียนมาแล้วถึง 6 ครั้ง มากกว่านายกรัฐมนตรีคนใดๆ ของไทย
คุณทักษิณไม่มีจิตสำนึกอะไรเลยต่องานที่ตัวเองทำให้อาเซียนและประเทศไทยนานถึง 6 ปี
คุณทักษิณไม่เคยคิดถึงคุณความดีของตัวเองที่เคยทำไว้ต่ออาเซียนบ้างเลย.
ผมไม่มีทางเห็นเป็นอื่น ผมจะสรุปว่าคุณทักษิณเป็นคนดีของอาเซียนไม่ได้เลย
ผมได้เห็น รู้จัก และวิเคราะห์คุณทักษิณ มานาน 25 ปี แล้ว
ผมผิดหวังมากในความเป็นมนุษย์ของคุณทักษิณก็คราวนี้ ที่พัทยา...” - ดร.สมเกียรติ อ่อนวิมล
ล้มประชุมอาเซียน คือ ตราบาปเสื้อแดงบริวารทักษิณเผาบ้านเผาเมือง
สารส้ม

น้ำในหลุมศักดิ์สิทธิ์ โซเชียลฮือฮา!ชาวบ้านกราบขอโชค‘กระโปกพระร่วง’
'สิริพงศ์'ฟาด'จอม-ทวี'ทำการบ้านน้อย กล่าวหา MotoGP เอื้อธุรกิจใคร
'สมชาย'ชวนจับตา! ปฏิบัติการจับ'ไทยเทา'เร็วๆนี้
สุดโรแมนติก! 'ใหม่-เต๋อ'จูงมือเข้าพิธีวิวาห์หวานราวเทพนิยาย
ผบช.ภ.4 สั่งทุกโรงพักเอกซเรย์เร่งปราบยาเสพติด-อาชญากรรมทุกรูปแบบ

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี