วันพุธ ที่ 19 พฤศจิกายน พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / คอลัมน์ / คอลัมน์การเมือง / กวนน้ำให้ใส
กวนน้ำให้ใส

กวนน้ำให้ใส

สารส้ม
วันพุธ ที่ 19 พฤศจิกายน พ.ศ. 2568, 02.00 น.
1.76 หมื่นล้านบาท ทำไมทักษิณต้องจ่ายภาษีขายหุ้นชินฯ

ดูทั้งหมด

  •  

เริ่มมีการปั้นแต่งสร้างเรื่อง ปั่นกระแส บิดเบือนประเด็นความจริง กรณีคำพิพากษาศาลฎีกาที่ทำให้ทักษิณจะต้องจ่ายภาษีเงินได้บุคคลธรรมดจำนวน 1.76 หมื่นล้านบาท จากการขายหุ้นชินฯ

ทั้งๆ ที่ คดีนี้ ทักษิณเป็นฝ่ายฟ้องคดีไปเอง และทักษิณก็เคยยอมรับคำตัดสินมาตลอด ในศาลชั้นต้นและชั้นศาลอุทธรณ์ ซึ่งตัดสินให้ฝ่ายนายทักษิณชนะคดี


แต่พอคำพิพากษาในชั้นศาลฎีกาฯ ไม่เป็นคุณแก่ทักษิณ ก็มีขบวนการปั่นกระแสบิดเบือนความจริงทันที

ตกลงว่า ศาลจะต้องมีคำพิพากษาที่เป็นคุณแก่นายทักษิณเท่านั้น จึงจะยอมรับว่าเป็นธรรมอย่างนั้นหรือ?

ความจริง เป็นอย่างไร?

1. ศาลฎีกาพิพากษาคดีภาษีขายหุ้นชินฯ เมื่อวันที่ 17 พฤศจิกายน 2568

คดีนี้ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ เป็นโจทก์

ยื่นฟ้องกรมสรรพากร (จำเลยที่ 1) และคณะกรรมการพิจารณาอุทธรณ์ ได้แก่ นายพงษ์ศักดิ์,นายประภาส และนายพิสิทธิ์ (จำเลยที่ 2-4) ต่อศาลภาษีอากรกลาง

เพื่อขอให้ศาลพิพากษาหรือมีคำสั่งให้เพิกถอนการประเมินตามหนังสือแจ้งภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาฯที่แจ้งให้นายทักษิณจ่ายภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ให้กับกรมสรรพากร เป็นเงิน 1.76 หมื่นล้านบาท จากการขายหุ้นชิน คอร์ปอเรชั่นฯ

2. ศาลฎีกาแผนกคดีภาษีอากร ตรวจสํานวนประชุมปรึกษาแล้ว ข้อเท็จจริงรับฟังได้ ในเบื้องต้นว่า

เมื่อวันที่ 10 เมษายน 2541 โจทก์เป็นผู้ถือหุ้นบริษัทชิน คอร์ปอเรชั่น จํากัด (มหาชน)จํานวน 32,920,000 หุ้น

วันที่ 12 มีนาคม 2542 โจทก์จดทะเบียนบริษัทแอมเพิล ริช อินเวสท์เม้นท์ จํากัด ซึ่งเป็นนิติบุคคลตามกฎหมายต่างประเทศในหมู่เกาะ British Virgin มีทุนจดทะเบียนเริ่มแรก 50,000 ดอลลาร์สหรัฐ แบ่งเป็นหุ้น จํานวน 50,000 หุ้น มูลค่าหุ้นละ 1 ดอลลาร์สหรัฐ เรียกชําระค่าหุ้นเพียง 1 หุ้น มูลค่า 1 ดอลลาร์สหรัฐ

บริษัทแอมเพิล ริช อินเวสท์เม้นท์ จํากัด  มีนาย เลา วี เตียง(Mr. Lau Hwee Tiang) และนางกาญจนาภา หงษ์เหิน เป็นกรรมการ มีวัตถุประสงค์ในการ ซื้อขายหุ้นหรือหลักทรัพย์ (Holding Investment Company) ในประเทศไทย โดยโจทก์ เป็นผู้ถือหุ้นแต่เพียงผู้เดียว จํานวน 1 หุ้น

ต่อมา วันที่ 11 มิถุนายน 2542 บริษัทแอมเพิล ริช อินเวสท์เม้นท์ จํากัด ซื้อหุ้นบริษัทชิน คอร์ปอเรชั่น จํากัด (มหาชน) จํานวน 32,920,000 หุ้น จากโจทก์ มูลค่าหุ้นละ 10 บาท (ราคา PAR)ในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย 

วันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2543 บริษัทแอมเพิล ริช อินเวสท์เม้นท์ จํากัด ได้เพิ่มนายพานทองแท้ชินวัตร เป็นกรรมการ

วันที่ 1 ธันวาคม 2543 โจทก์โอนหุ้นบริษัทแอมเพิล ริช อินเวสท์เม้นท์ จํากัด จํานวน 1 หุ้นให้แก่นายพานทองแท้

วันที่ 29 สิงหาคม 2554 บริษัทชิน คอร์ปอเรชั่น จํากัด (มหาชน) จดทะเบียนลดมูลค่าหุ้นจากที่ตราไว้ 10 บาท เหลือหุ้นละ 1 บาท ทําให้จํานวนหุ้นเพิ่มขึ้น 10 เท่า เป็นผลให้บริษัทแอมเพิล ริช อินเวสท์เม้นท์ จํากัด เป็นผู้ถือหุ้นบริษัทชิน คอร์ปอเรชั่น จํากัด (มหาชน) จํานวน 329,200,000 หุ้น

วันที่ 16 พฤษภาคม 2548 บริษัทแอมเพิล ริช อินเวสท์เม้นท์ จํากัด เรียกชําระค่าหุ้นเพิ่มอีก 4 หุ้นมูลค่าหุ้นละ 1 ดอลลาร์สหรัฐ โดยนายพานทองแท้ ซื้อเพิ่ม 3หุ้น และนางสาวพินทองทา ชินวัตรซื้อ 1 หุ้น และเปลี่ยนแปลงกรรมการ เป็นนายพานทองแท้ นางสาวพินทองทา และนางกาญจนา

บริษัทแอมเพิล ริช อินเวสท์เม้นท์ จํากัด ขายหุ้นบริษัทชิน คอร์ปอเรชั่น จํากัด (มหาชน) ที่ถืออยู่ทั้งหมด แก่นายพานทองแท้ และนางสาวพินทองทา ซึ่งเป็นกรรมการและผู้ถือหุ้นของบริษัทแอมเพิล ริช อินเวสท์เม้นท์ จํากัด คนละ 164,600,000 หุ้น ในราคาหุ้นละ 1 บาท โดยซื้อขายกันนอกตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย

วันที่ 23 มกราคม 2549 นายพานทองแท้และนางสาวพินทองทา ขายหุ้นดังกล่าว แก่กลุ่มบริษัทในเครือเทมาเส็ก

คณะกรรมการตรวจสอบการกระทําที่ ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ มีความเห็นว่า การที่บริษัทแอมเพิล ริช อินเวสท์เม้นท์ จํากัด โอนหุ้นให้แก่นายพานทองแท้และนางสาวพินทองทา ในราคาต่ำกว่าราคาตลาด ถือว่าส่วนต่าง ของราคาหุ้นระหว่างราคาตลาดกับราคาที่นายพานทองแท้และนางสาวพินทองทาได้รับโอนมา จากบริษัทแอมเพิล ริช อินเวสท์เม้นท์ จํากัด เป็นเงินได้ที่ต้องเสียภาษีตามมาตรา 39  แห่งประมวลรัษฎากร

คณะกรรมการตรวจสอบการกระทําที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ จึงแจ้งให้จําเลยที่ 1 (สรรพากร) เรียกตรวจสอบภาษีรายนายพานทองแท้และนางสาวพินทองทา

เจ้าพนักงานประเมินของจําเลยที่ 1 ออกหมายเรียกตามประมวลรัษฎากรไปยังนายพานทองแท้และนางสาวพินทองทา สําหรับการตรวจสอบภาษี ปีภาษี 2549 จํานวน 2 ครั้ง

ต่อมา เจ้าพนักงานประเมินของจําเลย ประเมินภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา นายพานทองแท้ 5,904,791,172,29 บาท และนางสาวพินทองทา 5,904,503,601.13 บาท

นายพานทองแท้และนางสาวพินทองทา อุทธรณ์การประเมิน คณะกรรมการพิจารณาอุทธรณ์มีคําวินิจฉัยให้ยกอุทธรณ์ แต่ลดเบี้ยปรับให้ คงเหลือเรียกเก็บ เพียงร้อยละ 50 ของเบี้ยปรับตามกฎหมาย

นายพานทองแท้และนางสาวพินทองทานําคดีมาฟ้องต่อศาลภาษีอากรกลาง

ระหว่างการพิจารณาของศาลภาษีอากรกลาง ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดํารงตําแหน่งทางการเมืองมีคําพิพากษา ในคดีหมายเลขแดงที่ อม.1/2553 ว่า โจทก์ยังคงเป็นเจ้าของหุ้นของบริษัทชิน คอร์ปอเรชั่น จํากัด (มหาชน) จํานวน 1,419,490,150 หุ้นนายพานทองแท้และนางสาวพินทองทาถือหุ้นบริษัทชิน คอร์ปอเรชั่น จํากัด (มหาชน) ไว้แทนโจทก์

ศาลภาษีอากรกลางจึงมีคําพิพากษาคดีหมายเลขแดงที่ 242-243/2553 ให้เพิกถอนการประเมินและคําวินิจฉัยอุทธรณ์

ต่อมา ศาลอุทธรณ์คดีชํานัญพิเศษพิจารณาพิพากษายืนตามชั้นต้น เห็นว่าการเรียกเก็บภาษีทำไม่ถูกต้อง และไม่อยู่ในกรอบเวลาตามกฎหมาย

กระทั่งมีการต่อสู้คดีถึงชั้นศาลฎีกาาแผนกคดีภาษีอากร

3. ประเด็นสำคัญที่ศาลศาลฎีกาแผนกคดีภาษีอากร วินิจฉัยชี้ขาด

เจ้าพนักงานประเมินของสรรพากร ออกหมายเรียกโดยชอบด้วยกฎหมายและภายในกําหนดเวลา ตามประมวลรัษฎากร มาตรา 19 หรือไม่?

สรรพากรออกหมายเรียกตรวจสอบเกี่ยวกับธุรกรรมการซื้อขายหุ้นบริษัทชิน คอร์ปอเรชั่น จํากัด (มหาชน) ไปยังนายพานทองแท้ ชินวัตร และนางสาวพินทองทา ชินวัตร ถือเป็นการออกหมายเรียกไปยังโจทก์(นายทักษิณ)แล้ว

เจ้าพนักงานประเมินของสรรพากร จึงออกหมายเรียกโจทก์ภายในกําหนดเวลาตามประมวลรัษฎากร มาตรา 19 และไม่จําต้องออกหมายเรียกไปยังโจทก์ใหม่

การกระทําของนายพานทองแท้และนางสาวพินทองทาในฐานะตัวแทนโจทก์ที่ได้กระทําลงไปในชั้นตรวจสอบตามหมายเรียก จึงมีผลผูกพันโจทก์ในฐานะตัวการ

การที่ปรากฏข้อเท็จจริงตามค่าพิพากษาศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดํารงตําแหน่งทางการเมืองและศาลภาษีอากรกลางว่า โจทก์ให้นายพานทองแท้และนางสาวพินทองทา เป็นผู้ถือหุ้นบริษัทชิน คอร์ปอเรชั่น จํากัด (มหาชน) แทนโจทก์ ดังนั้น จึงถือว่าโจทก์ในฐานะตัวการได้แสดงออกโดยการเชิดหรือยอมให้นายพานทองแท้และนางสาวพินทองทา ซึ่งแท้จริงเป็นเพียงตัวแทนของโจทก์ กระทําการโดยแสดงออกให้บุคคลภายนอกเชื่อว่า นายพานทองแท้และนางสาวพินทองทาเป็นเจ้าของหุ้นที่แท้จริง

โจทก์จึงต้องรับผิดต่อบุคคลภายนอกผู้สุจริต เสมือนหนึ่งว่าบุคคลทั้งสอง เป็นตัวแทนของตน และอาจทําให้เสื่อมเสียสิทธิของเจ้าพนักงานประเมิน ซึ่งเป็นบุคคลภายนอก ที่ได้ออกหมายเรียกไปยังนายพานทองแท้และนางสาวพินทองทา ซึ่งมีชื่อในใบหุ้นอันเป็นเอกสารสําคัญในขณะนั้น ก่อนที่เจ้าพนักงานประเมินจะทราบว่าบุคคลทั้งสองเป็นเพียงตัวแทนของโจทก์ การออกหมายเรียกดังกล่าวจึงมีผลผูกพันโจทก์ในฐานะตัวการตามมาตรา 806 มาตรา 820 และมาตรา 821 แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ และถือว่านายพานทองแท้และนางสาวพินทองทา ซึ่งเป็นตัวแทนของโจทก์ ได้รับหมายเรียกไว้แทนโจทก์ซึ่งเป็นตัวการ โดยชอบด้วยกฎหมายแล้ว

ทั้งนี้ ศาลภาษีฯ ได้อ้างอิงคำพิพากษาศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดํารงตําแหน่งทางการเมือง ในคดีหมายเลขแดงที่ อม.1/2553 วินิจฉัยว่า “พฤติการณ์ของผู้ถูกกล่าวหา (โจทก์) และผู้คัดค้านที่ 1 (คุณหญิงพจมาน ชินวัตร) กับผู้คัดค้านที่ 2 ถึงที่ 5 (นายพานทองแท้ ชินวัตร นางสาวพินทองทาชินวัตร นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร และนายบรรณพจน์ ดามาพงศ์) ดังได้วินิจฉัยมาเป็นเหตุผลประการหนึ่งให้เชื่อว่า ผู้คัดค้านที่ 5 ถือหุ้นเพิ่มทุนบริษัทชิน คอร์ปอเรชั่น จํากัด (มหาชน) ผู้คัดค้านที่ 2 ถึงที่ 5 ถือหุ้นบริษัทชิน คอร์ปอเรชั่น จํากัด (มหาชน) ที่ผู้ถูกกล่าวหาและผู้คัดค้านที่ 1 โอนให้ผู้คัดค้านที่ 2 ที่ 4 และที่ 5 ไว้แทนผู้ถูกกล่าวหาและผู้คัดค้านที่ 1 และรับเงินปันผลในหุ้นดังกล่าวจากบริษัทชิน คอร์ปอเรชั่น จํากัด (มหาชน) ไว้แทนผู้ถูกกล่าวหาและผู้คัดค้านที่ 1 ...ผู้ถูกกล่าวหาและผู้คัดค้านที่ 3 ยังคงถือไว้ ซึ่งหุ้นบริษัทชิน คอร์ปอเรชั่น จํากัด (มหาชน) จํานวน 1,519,490,150 หุ้นตามคําร้องในระหว่างที่ผู้ถูกกล่าวหาดํารงตําแหน่งนายกรัฐมนตรีในสองวาระ....”

และต่อมา ศาลภาษีอากรกลางมีคําพิพากษาคดีหมายเลขแดงที่ 242-243/2553 วินิจฉัยว่า “หุ้นที่โจทก์ทั้งสอง (นายพานทองแท้และนางสาวพินทองทา) ซื้อจากบริษัทแอมเพิล ริช อินเวสท์เม้นท์จํากัด คนละ 164,600,000 หุ้น ซึ่งจําเลยประเมินให้โจทก์ทั้งสอง (นายพานทองแท้และนางสาวพินทองทา) เสียภาษีเงินได้ในคดีนี้ เป็นส่วนหนึ่งของหุ้นที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดํารงตําแหน่งทางการเมืองวินิจฉัยว่า พันตํารวจโททักษิณ ชินวัตร (โจทก์ในคดีนี้) และคุณหญิงพจมานเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์โดยให้โจทก์ทั้งสอง (นายพานทองแท้ และนางสาวพินทองทา) ถือหุ้นแทน ... โจทก์ทั้งสอง (นายพานทองแท้และนางสาวพินทองทา) จึงไม่ใช่เจ้าของแท้จริงของหุ้นดังกล่าว ไม่ใช่ผู้มีเงินได้ตามมาตรา 41 แห่งประมวลรัษฎากร และมิใช่เป็นผู้รับประโยชน์อันอาจคํานวณเป็นราคาเงินได้ที่เข้าลักษณะเงินได้พึงประเมินตามมาตรา 39 และมาตรา 40 (2) ตามที่จําเลยประเมิน การประเมินของเจ้าพนักงานประเมิน ไม่ชอบ...” ซึ่งคดีของศาลภาษีอากรกลางดังกล่าวถึงที่สุดแล้วโดยไม่มีคู่ความฝ่ายใดอุทธรณ์

กรณีจึงฟังได้ว่า โจทก์ให้นายพานทองแท้ และนางสาวพินทองทาถือหุ้นบริษัทชิน คอร์ปอเรชั่นจํากัด (มหาชน) ไว้แทน โดยโจทก์ยังคง เป็นผู้ถือหุ้นบริษัทชิน คอร์ปอเรชั่น จํากัด (มหาชน) ที่แท้จริง เมื่อประมวลรัษฎากรไม่มีบทบัญญัตินิยามเรื่องตัวแทนไว้ จึงต้องถือเอาความหมายตามบทบัญญัติแห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาใช้บังคับกับกรณีได้เท่าที่ไม่ขัดกับส่วนอื่น จึงถือได้ว่านายพานทองแท้และนางสาวพินทองทาเป็นตัวแทนของโจทก์ ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 797

ในข้อนี้ได้ความจากนางสาวจํารัสว่า เจ้าพนักงานประเมินออกหมายเรียกนายพานทองแท้ และนางสาวพินทองทาเนื่องจากมีชื่อเป็นผู้ถือหุ้นบริษัทชิน คอร์ปอเรชั่น จํากัด (มหาชน) จึงถือเป็นบุคคลที่มีชื่อในใบหุ้นอันเป็นหนังสือสําคัญและทรัพย์สินนั้นก่อให้เกิดเงินได้พึงประเมินและเป็นผู้ได้รับประโยชน์จากการซื้อหุ้นในราคาต่ำกว่าราคาตลาด

เมื่อต่อมา ความปรากฏภายหลังว่า ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดํารงตําแหน่งทางการเมืองวินิจฉัยว่า โจทก์ยังคงถือไว้ซึ่งหุ้นบริษัทชิน คอร์ปอเรชั่น จํากัด (มหาชน) และคําพิพากษาศาลภาษีอากรกลาง วินิจฉัยว่า นายพานทองแท้และนางสาวพินทองทามิใช่เจ้าของหุ้นบริษัทชิน คอร์ปอเรชั่น จํากัด (มหาชน) ที่แท้จริง แต่เป็นเพียงผู้ถือหุ้นแทนโจทก์ 

เจ้าพนักงานประเมินของจําเลยที่ 1 เห็นว่าพฤติการณ์ของโจทก์เป็นการกระทําในฐานะตัวการที่เป็นเจ้าของหุ้นที่แท้จริง การที่เจ้าพนักงานประเมินของจําเลยที่ 1 ออกหมายเรียกไปยังนายพานทองแท้และนางสาวพินทองทาซึ่งเป็นผู้มีชื่อในใบหุ้นอันเป็นหนังสือสําคัญในขณะนั้น ก่อนที่เจ้าพนักงานประเมินของจําเลยที่ 1 จะทราบว่าบุคคลทั้งสองเป็นเพียงตัวแทนของโจทก์ แสดงให้เห็นว่า จําเลยที่ 1 ไม่รู้มาก่อนว่า นายพานทองแท้และนางสาวพินทองทาถือหุ้นบริษัทชิน คอร์ปอเรชั่น จํากัด (มหาชน) ไว้แทนโจทก์

โจทก์จึงอยู่ในฐานะเป็นตัวการไม่เปิดเผยชื่อ ยอมให้นายพานทองแท้และนางสาวพินทองทาตัวแทนแสดงออกหน้าเป็นตัวการซื้อหุ้นบริษัทชิน คอร์ปอเรชั่น จํากัด (มหาชน) จากบริษัทแอมเพิล ริช อินเวสท์เม้นท์ จํากัด และขายหุ้นทั้งหมดดังกล่าวแก่ กลุ่มเทมาเส็ก โดยจําเลยที่ 1ซึ่งเป็นบุคคลภายนอกไม่รู้ว่านายพานทองแท้และนางสาวพินทองทา เป็นตัวแทน

แต่ในคดีนี้โจทก์ได้กลับแสดงตนให้ปรากฏว่าตนเป็นเจ้าของหุ้นที่แท้จริงแล้ว ดังนั้น นิติกรรมใดอันเกี่ยวกับการซื้อขายหุ้นบริษัทชิน คอร์ปอเรชั่น จํากัด (มหาชน) ที่นายพานทองแท้
และนางสาวพินทองทากระทําลงไปย่อมผูกพันโจทก์ในฐานะตัวการ

ประกอบกับเมื่อพิจารณา หมายเรียกที่เจ้าพนักงาน ประเมินของจําเลยที่ 1 มีไปยังนายพานทองแท้และนางสาวพินทองทาแล้ว มีข้อความระบุไว้ในช่อง ให้นําส่งเอกสารหลักฐานว่า “เอกสารหลักฐานที่เกี่ยวกับการซื้อขายหุ้นบริษัทชิน คอร์ปอเรชั่น จํากัด (มหาชน) จากบริษัทแอมเพิล ริช อินเวสท์เมนท์จํากัด และหลักฐานการรับเงินชําระเงินค่าหุ้นดังกล่าว รวมถึงเอกสารหลักฐานอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับเงินได้ สําหรับปีภาษีดังกล่าว”

และนางสาวจํารัส เบิกความยืนยันว่า ข้อเท็จจริงอันเป็นมูลเหตุในการออกหมายเรียกนายพานทองแท้และนางสาวพินทองทาเป็นข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการซื้อขายหุ้นบริษัทชินคอร์ปอเรชั่น จํากัด (มหาชน) จากบริษัทแอมเพิล ริช อินเวสท์เม้นท์ จํากัด ซึ่งเป็นประเด็นเดียวกับที่เจ้าพนักงานใช้เป็นมูลเหตุในการประเมินภาษีโจทก์ และจํานวนเงินได้พึงประเมินที่นํามารวมคํานวณภาษี ก็เป็นจํานวนเดียวกัน

โดยโจทก์ไม่ได้โต้แย้งคัดค้านข้อเท็จจริงส่วนนี้ให้เห็นเป็นอย่างอื่น และไม่ปรากฏว่าโจทก์โต้แย้งถึงความถูกต้องของข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการซื้อหุ้นบริษัทชิน คอร์ปอเรชั่น จํากัด (มหาชน) จากบริษัทแอมเพิล ริช อินเวสท์เมนท์ จํากัด ดังกล่าว แสดงให้เห็นว่าข้อเท็จจริงที่เจ้าพนักงานประเมินของจําเลยที่ 1 นํามาใช้ประเมินภาษีโจทก์ เป็นข้อเท็จจริงเดียวกับที่ใช้ในการประเมินภาษีนายพานทองแท้และนางสาวพินทองทา ซึ่งมีอยู่ในสํานวนตรวจสอบนายพานทองแท้และนางสาวพินทองทาตัวแทนของโจทก์อยู่แล้ว

ดังนั้น เมื่อเจ้าพนักงานประเมินของจําเลยที่ 1 ดําเนินการออกหมายเรียกนายพานทองแท้และนางสาวพินทองทา ซึ่งเป็นตัวแทนของโจทก์ภายใน 2 ปี นับแต่วันที่โจทก์ได้ยื่นรายการ ถือได้ว่าเจ้าพนักงานประเมินของจําเลยที่ 1 ออกหมายเรียก โดยชอบด้วยกฎหมายและภายในกําหนดเวลาตามประมวลรัษฎากร มาตรา 19 ย่อมมีผลผูกพันโจทก์ในฐานะตัวการ เจ้าพนักงานประเมินของจําเลยที่ 1 จึงมีอํานาจประเมินภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาประจําปี 2549 โจทก์ได้โดยไม่จําต้องออกหมายเรียกโจทก์ตามประมวลรัษฎากร มาตรา 19 อีก

(อ่านต่อพรุ่งนี้)

สารส้ม

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

  •  
  • Breaking News
  • ข่าวยอดนิยม
  • คอลัมน์ฮิต
22:21 น. ไปก่อนไทย!สิงคโปร์คว้าตั๋วเอเชียนคัพรอบ41ปี
22:14 น. ‘น่าน’ประชุมเตรียมพร้อมจัดงานประเพณีแข่งเรือชิงถ้วยพระราชทานฯ ประจำปี 2568 ครั้งที่ 2
22:06 น. จาก'อังกฤษ'สู่'ไทย' : เปิดใจ'จู๊ด เบลล์'วันแจ้งเกิดช้างศึก
22:01 น. พ่อค้าแม่ค้าแห่จองล็อกขายสินค้าฟรี งานพลุนานาชาติ‘เมืองพัทยา’
21:55 น. ปากดีต้องโดนแบบนี้! 'ยุ้ย ญาติเยอะ'ฟาดกลับชาวเน็ต หวังแซะบูลลี่
ดูทั้งหมด
การทูตหยุดโลก 'อ.ธรณ์'ชี้ความสำคัญ ในหลวงเสด็จเยือนจีน
ยูเนสโกประกาศยกย่อง 'ในหลวงรัชกาลที่ 9' และ 'สมเด็จพระนางเจ้ารำไพพรรณีฯ'
เบื้องหลังฉลองพระองค์ 'สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี'
แรงมากแม่! 'เพลง ชนม์ทิดา'โพสต์สตอรี่ปริศนาพูดถึงเวรกรรม
งดงามดุจจันทรา! เปิดรายละเอียด'ไหมเปลือก 6 เส้น' ที่สุดแห่งเส้นใยชั้นนอกสู่ฉลองพระองค์อันวิจิตร
ดูทั้งหมด
การกลับมาของสภาพคล่องโลกหลัง Government Shutdown สหรัฐฯ - จะเป็นตัวเร่งรอบใหม่ของตลาดคริปโตหรือไม่?
ชะตาชีวิตของ‘ทักษิณ’
เทศกาลลอยกระทง...ขยะที่ลอยไม่ไปไหน กับปัญหาคอร์รัปชันที่ยังไม่จมหาย
3 หลี่ กงกง
1.76 หมื่นล้านบาท ทำไมทักษิณต้องจ่ายภาษีขายหุ้นชินฯ
ดูทั้งหมด

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

ปากดีต้องโดนแบบนี้! 'ยุ้ย ญาติเยอะ'ฟาดกลับชาวเน็ต หวังแซะบูลลี่

จาก'อังกฤษ'สู่'ไทย' : เปิดใจ'จู๊ด เบลล์'วันแจ้งเกิดช้างศึก

เรื่องชวนคิด!!! เลือก'ปธ.กกต.คนใหม่'ชอบด้วยกฎหมายหรือไม่?

ศึกอสรพิษ!‘งูบู๊ตะขาบ’ สุดท้ายไม่พ้นมือกู้ภัยอุดรธานี

ฟุตบอลลั่นกวาดหมด! สมาคมกีฬาฟันธง241ทองซีเกมส์

แฟนคลับส่งกำลังใจ! 'เก้า สุภัสสรา'เผยป่วยเนื้องอกในมดลูก เมนส์มาไม่หยุดจนเป็นลม

  • Breaking News
  • ไปก่อนไทย!สิงคโปร์คว้าตั๋วเอเชียนคัพรอบ41ปี ไปก่อนไทย!สิงคโปร์คว้าตั๋วเอเชียนคัพรอบ41ปี
  • ‘น่าน’ประชุมเตรียมพร้อมจัดงานประเพณีแข่งเรือชิงถ้วยพระราชทานฯ ประจำปี 2568 ครั้งที่ 2 ‘น่าน’ประชุมเตรียมพร้อมจัดงานประเพณีแข่งเรือชิงถ้วยพระราชทานฯ ประจำปี 2568 ครั้งที่ 2
  • จาก\'อังกฤษ\'สู่\'ไทย\' : เปิดใจ\'จู๊ด เบลล์\'วันแจ้งเกิดช้างศึก จาก'อังกฤษ'สู่'ไทย' : เปิดใจ'จู๊ด เบลล์'วันแจ้งเกิดช้างศึก
  • พ่อค้าแม่ค้าแห่จองล็อกขายสินค้าฟรี งานพลุนานาชาติ‘เมืองพัทยา’ พ่อค้าแม่ค้าแห่จองล็อกขายสินค้าฟรี งานพลุนานาชาติ‘เมืองพัทยา’
  • ปากดีต้องโดนแบบนี้! \'ยุ้ย ญาติเยอะ\'ฟาดกลับชาวเน็ต หวังแซะบูลลี่ ปากดีต้องโดนแบบนี้! 'ยุ้ย ญาติเยอะ'ฟาดกลับชาวเน็ต หวังแซะบูลลี่
ดูทั้งหมด

คอลัมน์ที่เกี่ยวข้อง

1.76 หมื่นล้านบาท  ทำไมทักษิณต้องจ่ายภาษีขายหุ้นชินฯ

1.76 หมื่นล้านบาท ทำไมทักษิณต้องจ่ายภาษีขายหุ้นชินฯ

19 พ.ย. 2568

อสส. อุทธรณ์คดี 112 ‘ทักษิณ’  ต้องสู้ให้สมศักดิ์ศรี

อสส. อุทธรณ์คดี 112 ‘ทักษิณ’ ต้องสู้ให้สมศักดิ์ศรี

18 พ.ย. 2568

อาวุธเด็ดไทย  อำนาจเหนือเขมร

อาวุธเด็ดไทย อำนาจเหนือเขมร

17 พ.ย. 2568

คนละครึ่งพลัส สุดปัง  ฝ่ายค้าน สุดพัง

คนละครึ่งพลัส สุดปัง ฝ่ายค้าน สุดพัง

14 พ.ย. 2568

จะโกงแม้กระทั่งการติดคุก  รัฐบาลอนุทินล้อมคอกด่วน

จะโกงแม้กระทั่งการติดคุก รัฐบาลอนุทินล้อมคอกด่วน

13 พ.ย. 2568

เริ่มปฏิบัติการทางทหาร !!!

เริ่มปฏิบัติการทางทหาร !!!

12 พ.ย. 2568

ผายลมเรื่องไม่มีชายชุดดำ

ผายลมเรื่องไม่มีชายชุดดำ

11 พ.ย. 2568

ล้มประชุมอาเซียน  ตราบาปเสื้อแดงบริวารทักษิณเผาบ้านเผาเมือง

ล้มประชุมอาเซียน ตราบาปเสื้อแดงบริวารทักษิณเผาบ้านเผาเมือง

10 พ.ย. 2568

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นายปรเมษฐ์ ภู่โต
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2025 Naewna.com All right reserved