วันพฤหัสบดี ที่ 18 ธันวาคม พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / คอลัมน์ / คอลัมน์การเมือง / คิด เขียน คุย
คิด เขียน คุย

คิด เขียน คุย

รุ่งเรือง ปรีชากุล
วันพฤหัสบดี ที่ 18 ธันวาคม พ.ศ. 2568, 02.00 น.
‘เศษสวะ’รกบ้านรกเมือง

ดูทั้งหมด

  •  

ถ้าไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง การเลือกตั้ง สส.ครั้งต่อไปตามที่ กกต.เคาะ ก็คือ วันอาทิตย์ที่ 8 กุมภาพันธ์ 2569 ต้นปีหน้า พร้อมกันนี้ก็จะมีการออกเสียงลงประชามติเรื่องการยกร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ว่าประชาชนคนไทยจะยอมให้มีการฉีกทิ้งรัฐธรรมนูญ “ฉบับปราบโกงนักการเมือง” ฉบับปี 2560 ที่ใช้ในปัจจุบันหรือไม่ ซึ่งรัฐธรรมนูญฉบับนี้ผ่านความเห็นชอบจากประชาชนในฐานะผู้สถาปนาเมื่อวันที่ 7 สิงหาคม 2559 ถึง 16.82 ล้านเสียง หรือคิดเป็น 61.35 เปอร์เซ็นต์ของผู้ออกมาใช้สิทธิ์ทั้งหมด 29.74 ล้านคน

การเลือกตั้ง สส. พร้อมการออกเสียงลงประชามติเรื่องการยกร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ตามวันเวลาที่ว่านั้น โดยเฉพาะการลงประชามติเรื่องรัฐธรรมนูญ อันเป็นความต้องการของนักการเมืองจากพรรคประชาชนและพรรคเพื่อไทย เพื่อจะฉีกทิ้งกฎกติกาต่างๆ ที่เป็น “บ่วงมัดคอ”ไม่ให้นักการเมืองสีเทาและนักการเมืองที่มีมลทินเป็นชนักติดหลังให้มีโอกาสเข้าสู่อำนาจได้ ถือว่าเป็นครั้งแรกของประเทศไทย ที่นำทั้งสองเรื่องนี้มาทำในวันเดียวกัน


น่าเป็นห่วงก็คือ ทั้งสองเรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่ ลำพังเรื่องเลือกตั้ง สส.ก็เป็นเรื่องที่ปรากฏให้เห็นมาแล้วว่า กกต.นั้นล้มเหลว ปล่อยให้“นักการเมืองสีเทา”หลุดรอดเข้าไปเป็น สส.จำนวนไม่น้อย แม้จะมีเรื่องร้องเรียนเกี่ยวกับการทำผิดกฎหมายเลือกตั้ง ซึ่งนอกจาก กกต.จะทำงานล่าช้าอืดอาดแล้ว การเอาผิดกับการทุจริตเลือกตั้งเพื่อให้ใบแดงหรือใบเหลืองกับ สส.สีเทาที่ได้รับเลือกตั้งเข้าไปก็แทบจะไม่มีเลย

ดังนั้น การพ่วงเรื่องการออกเสียงลงประชามติเกี่ยวกับการยกร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ โดยให้ลงคะแนนในวันเดียวกันกับการเลือก สส. ไม่เพียงแต่จะทำให้ประชาชนผู้ออกมาใช้สิทธิ์เกิดความสับสน ในการกาผิดกาถูกกับบัตรที่ต้องลงคะแนนพร้อมกัน 2 ใบเท่านั้น หัวใจสำคัญอันเป็นเหตุผลว่าทำไมจะต้องมีการฉีกทิ้งรัฐธรรมนูญฉบับที่ใช้ในปัจจุบันเพื่อนำไปสู่การยกร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ก็จะถูกลดทอนการตัดสินใจไปด้วย

เหตุผลก็เพราะ ประชาชนผู้ออกมาใช้สิทธิ์ซึ่งส่วนใหญ่เป็นชาวบ้านในชนบท ย่อมให้ความสำคัญกับการที่จะเลือกใครเข้าไปเป็น สส.มากกว่า ทั้งนี้ก็เพราะ การเลือกตั้งแต่ละครั้งไม่ว่าจะเลือก สส. เลือกสมาชิก อบต. สมาชิก อบจ. หรือแม้แต่การเลือกตั้งกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน “เงินซื้อเสียง” เป็นปัจจัยสำคัญในจากจูงใจให้ชาวบ้านเลือกผู้สมัครรับเลือกตั้ง

คำว่า “เงินไม่มากาไม่เป็น” ก็เพราะมีที่มาจากเรื่องนี้ ไม่เช่นนั้นคนไทยจำนวนหนึ่งที่แยกแยะออกว่าควรจะเลือกใครเข้าไปเป็นตัวแทนในสภาฯ คงไม่ต้องร้อง “เอ๊ะ” ด้วยความฉงนงงงวยว่า ทำไมคนอย่าง“ไอ้แป้ง” หรือ “ไอ้ฝุ่น” หรือ “ไอ้น้ำแข็ง” จึงได้รับเลือกตั้งเป็น สส. และบุคคลเหล่านี้ก็มีโอกาสได้ “ตีตั๋ว” ไปต่อ ในตำแหน่งรัฐมนตรี เพื่อจะถอนทุนคืนพร้อมบวกกำไรจากงบประมาณแผ่นดินในโครงการต่างๆ ที่ตนเองนั่งเป็นเจ้ากระทรวง

นอกเหนือจากนั้น ตามที่ กกต.บอกว่าการประกาศกำหนดวันลงประชามติเรื่องรัฐธรรมนูญ ว่าจะเป็นวันไหน จะทำพร้อมกันหรือไม่อย่างไร เป็นอำนาจของรัฐบาล โดยที่ กกต.เป็นเพียงผู้รับไม้ต่อในการจัดการออกเสียงลงประชามติให้สำเร็จเท่านั้น แต่ทั้งสองกิจกรรมมีความสัมพันธ์กัน เพราะพรรคการเมืองและนักการเมืองที่ลงสมัคร สส. สามารถใช้ประเด็นการลงประชามติเรื่องรัฐธรรมนูญไปโฆษณาหาเสียงได้ โดยมีข้อแม้เฉพาะเรื่องการลงประชามติว่า หากเมื่อผู้สมัคร สส.ขึ้นเวทีแสดงความคิดเห็นบนเทวีการแสดงประชามติของฝ่ายที่เห็นต่างหรือเห็นด้วยจะพูดหาเสียงไม่ได้

อย่างไรก็ตาม ทั้งสองเรื่องเป็นเรื่องใหญ่ แต่ก็ทำกันแบบพิลึกกึกกือ เริ่มกันตั้งแต่การเลือกตั้งและการลงประชามติถ้าทำในวันเดียวกัน ซึ่งเมื่อลงไปถึงชาวบ้านผู้มีสิทธิเลือกตั้ง ก็คงจะโกลาหลสับสนวุ่นวายไม่เป็นกระบวนกันไปหมด ทั้งผู้ที่จัดการเลือกตั้งในพื้นที่และผู้มีสิทธิเลือกตั้ง โดยเฉพาะเรื่องการลงประชามติเกี่ยวกับรัฐธรรมนูญที่จะถูกลดทอนความสำคัญ และก็คงจะเข้าทางพรรคการเมืองและนักการเมืองที่ต้องการจะฉีกทิ้งรัฐธรรมนูญฉบับที่เป็นประโยชน์แก่ประชาชนฉบับปี 2560

แต่ไม่ว่าจะออกเสียงลงประชามติพร้อมกันวันเดียวกับการเลือกตั้ง สส. หรือแยกไว้ต่างหากคนละวันกัน ก็เป็นเรื่องที่ไม่ควรจะมีทั้งสิ้น เพราะอย่างที่ชาวบ้านมีคำถามว่า การฉีกทิ้งรัฐธรรมนูญฉบับที่ใช้ในปัจจุบันเพื่อยกร่างฉบับใหม่นั้น “เป็นเงินของโคตรพ่องโคตรแม่ง” นักการเมืองหรืออย่างไร เนื่องจากจะต้องใช้เงินงบประมาณแผ่นดินที่มาจากภาษีอากรของชาวบ้านเป็นหมื่นล้านบาท ประกอบกับต่อให้เขียนรัฐธรรมนูญดีอย่างไร หาก “สันดานขี้โกง” ของนักการเมืองไม่เปลี่ยน รัฐธรรมนูญที่ดีก็หามีความหมายไม่

และโดยข้อเท็จจริง หากนักการเมืองและพรรคการเมืองใด เมื่อได้รับเลือกตั้งเข้าไปเป็น สส.แล้ว เมื่อเห็นว่ารัฐธรรมนูญฉบับที่พยายามจะฉีกทิ้งกันอยู่นี้มีจุดอ่อนตรงไหนที่ควรจะแก้ไขหรือปรับปรุงเพื่อให้เป็นคุณประโยชน์ต่อประชาชน ไม่ใช่เพื่อตนเอง ก็ย่อมแก้ไขได้ตามอำนาจหน้าที่โดยตรงในฐานะ“ฝ่ายนิติบัญญัติ”อยู่แล้ว ซึ่งไม่เพียงแต่รัฐธรรมนูญจะมีข้อบัญญัติให้กระทำได้เท่านั้น คำว่า“ฝ่ายนิติบัญญัติ”ชื่อก็บอกอยู่แล้ว ว่าหมายถึงผู้มีหน้าที่หลักในการ “ร่าง-ตรา-แก้ไข และยกเลิกกฎหมาย” เพื่อใช้บังคับในการบริหารประเทศ รวมทั้งมีหน้าที่ควบคุมตรวจสอบฝ่ายบริหารคือรัฐบาล

ถ้าทำตามที่ว่านั้น ก็ไม่ต้องเสียเงินเป็นหมื่นล้านบาทขณะที่ ณ เวลานี้ ประเทศชาติจำเป็นจะต้องใช้เงินอีกจำนวนมหาศาล เพื่อใช้สำหรับเยียวยาและบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนที่ต้องประสบภัยพิบัติ ทั้งในปัจจุบันและในวันข้างหน้า ซึ่งหลีกเลี่ยงไม่ได้จาก“ภาวะโลกร้อน” ที่ส่งผลทำให้เกิดภัยพิบัติทางธรรมชาติอย่างรุนแรงได้ทุกขณะ

ขนาดว่าศึกสงครามรุกรานใทยที่เขมรเป็นผู้ก่อและกำลังรบกันอย่างดุเดือดอยู่ในเวลานี้ ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องใหญ่อันเป็นปัญหาคอขาดบาดตายของประเทศเกี่ยวกับอธิปไตยและบูรณภาพแห่งดินแดนของชาติไทยเราคณะรัฐมนตรีรักษาการของนายอนุทิน ชาญวีรกูล ชุดนี้ เพิ่งจะอนุมัติงบประมาณจากงบกลางของรัฐบาลให้กองทัพเพียงแค่ 2.4 ล้านบาทเท่านั้น เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายสำหรับรองรับสถานการณ์สงครามที่ยังไม่รู้ว่าจะเผด็จศึกได้ในวันไหน

ทั้งนี้ทั้งนั้น เงินงบประมาณที่จะใช้สำหรับการเลือกตั้ง สส. และการจัดทำประชามติเรื่องการยกร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ที่ว่าไปแล้วมีความสำคัญน้อยมาก เมื่อเทียบกับการใช้เงินงบประมาณเพื่อปกป้องอธิปไตยและและบูรณภาพแห่งดินแดนของชาติ ซึ่งถ้าเลือกเพียงแค่ สส.ต้องใช้เงินไม่ต่ำกว่า 6 พันล้านบาท โดยยึดตัวเลขจากการเลือกตั้งครั้งล่าสุดเมื่อปี 2566 และถ้าพ่วงการลงประชามติเข้าไปด้วยในวันเดียวกันก็จะต้องใช้เงินเพิ่มขึ้นเป็นประมาณ 1 หมื่นล้านบาท และถ้าหากเลือกโดดๆ ต่างวันกัน อย่างน้อยรวมกันแล้วทั้งเลือก สส. และการลงประชามติ จะต้องใช้เงินไม่ต่ำกว่า 1.2 หมื่นล้านบาท

ถ้าสามารถดลบันดาลได้ ก็ไม่อยากจะให้มีการเลือกตั้ง สส. ไม่อยากให้มีการลงประชามติเรื่องรัฐธรรมนูญ เพราะสถานการณ์บ้านเมืองในเวลานี้ไม่ได้เป็นปกติ ยิ่งยืดออกไปได้นานที่สุดเท่าไหร่ก็จะยิ่งดีต่อประเทศชาติและประชาชน

เพราะมี สส.ที่มาจากการเลือกตั้งก็เหมือนมี “เศษสวะ” รกบ้านรกเมือง โดยเฉพาะแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี เท่าที่เห็นจากบางพรรคการเมืองได้มีการประกาศชื่อออกมา ถ้าพูดภาษาชาวบ้านก็ต้องบอกว่า “กูจะบ้าตาย” !

รุ่งเรือง ปรีชากุล

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

  •  
  • Breaking News
  • ข่าวยอดนิยม
  • คอลัมน์ฮิต
22:02 น. ‘หัวหน้าพรรคปวงชนไทย’ประชุมจัดตั้งตัวแทนพรรค เปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร สส.จันทบุรี
21:45 น. ‘โรงพักบ้านแท่น’ปล่อยแถวระดมกวาดล้างอาชญากรรมทุกรูปแบบ ช่วงคริสต์มาส-ปีใหม่2569
21:30 น. ‘น่าน’สร้างความเชื่อมั่นปชช. ปล่อยแถวระดมกวาดล้างอาชญากรรม รับคริสต์มาส-ปีใหม่2569
21:14 น. ‘นายกฯ’ยันรัฐบาล‘พูดแล้วทำ’ต่อต้านสแกมเมอร์ ลั่นทำไมต้องเลี้ยงดูคนพวกนี้ในประเทศเรา
21:05 น. เนิน 350 ไม่ใช่แค่สมรภูมิ แต่คือจุดชี้ขาดที่'กัมพูชา'กลัวเสียมากที่สุด
ดูทั้งหมด
ในหลวง พระราชินี พระราชทานพระบรมราชวโรกาสให้ นายกฯ-นายกสภาจุฬาฯ นำ คณะผู้บริหารเฝ้าฯ
ผลสลากกินแบ่งรัฐบาล งวดประจำวันที่ 16 ธันวาคม 2568
เสี่ยงเป็น‘นักรบรับจ้าง’! ห้วงธ.ค.‘ตม.’ปฏิเสธเข้าเมือง 128 ต่างชาติ-78 กัมพูชา
หนาวมาแน่! มวลอากาศเย็นระลอกใหม่จ่อถล่มอีสาน เหนือ-ใต้รับมือฝนตก-คลื่นสูง
ตะกร้อไทยช็อค!พ่ายมาเลเซียชวดแชมป์รอบ34ปี
ดูทั้งหมด
ฉลองปีใหม่ไม่เต็มที่เพราะโลกยังมีน้ำตา
‘เศษสวะ’รกบ้านรกเมือง
บุคคลแนวหน้า : 18 ธันวาคม 2568
เมื่อสภาฯเห็นชอบให้ไทยส่งทหารไปร่วมรบในสงครามเกาหลี
บทเรียนราคาแพงจาก ‘สนามทดลอง’ ทางการเมือง
ดูทั้งหมด

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

เนิน 350 ไม่ใช่แค่สมรภูมิ แต่คือจุดชี้ขาดที่'กัมพูชา'กลัวเสียมากที่สุด

มือปืนวัย 24 กราดยิงหาดบอนได เจอข้อหา 59 กระทง

กธ.เปิดตัว'คุณากร'อดีต สส.ส้ม 'ไผ่'ผงาดคุมเมืองหลวงร่วม'อนุดิษฐ์' ลั่นส่งครบทุกเขต

Still On My Mind ในดวงใจนิรันดร์

สดุดีทหารกล้า! ‘กองทัพบก’เปิดชื่อกำลังพลพลีชีพ 4 นาย รวมสู้รบ 10 วัน 21 นาย

คำสั่งเสียสุดท้าย พลทหารวัย18 พลีชีพเนิน350 เปิดใจแม่ช็อกเข้ารพ. จากเด็ก กศน.สู่ทหารกล้า

  • Breaking News
  • ‘หัวหน้าพรรคปวงชนไทย’ประชุมจัดตั้งตัวแทนพรรค เปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร สส.จันทบุรี ‘หัวหน้าพรรคปวงชนไทย’ประชุมจัดตั้งตัวแทนพรรค เปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร สส.จันทบุรี
  • ‘โรงพักบ้านแท่น’ปล่อยแถวระดมกวาดล้างอาชญากรรมทุกรูปแบบ ช่วงคริสต์มาส-ปีใหม่2569 ‘โรงพักบ้านแท่น’ปล่อยแถวระดมกวาดล้างอาชญากรรมทุกรูปแบบ ช่วงคริสต์มาส-ปีใหม่2569
  • ‘น่าน’สร้างความเชื่อมั่นปชช. ปล่อยแถวระดมกวาดล้างอาชญากรรม รับคริสต์มาส-ปีใหม่2569 ‘น่าน’สร้างความเชื่อมั่นปชช. ปล่อยแถวระดมกวาดล้างอาชญากรรม รับคริสต์มาส-ปีใหม่2569
  • ‘นายกฯ’ยันรัฐบาล‘พูดแล้วทำ’ต่อต้านสแกมเมอร์ ลั่นทำไมต้องเลี้ยงดูคนพวกนี้ในประเทศเรา ‘นายกฯ’ยันรัฐบาล‘พูดแล้วทำ’ต่อต้านสแกมเมอร์ ลั่นทำไมต้องเลี้ยงดูคนพวกนี้ในประเทศเรา
  • เนิน 350 ไม่ใช่แค่สมรภูมิ แต่คือจุดชี้ขาดที่\'กัมพูชา\'กลัวเสียมากที่สุด เนิน 350 ไม่ใช่แค่สมรภูมิ แต่คือจุดชี้ขาดที่'กัมพูชา'กลัวเสียมากที่สุด
ดูทั้งหมด

คอลัมน์ที่เกี่ยวข้อง

‘เศษสวะ’รกบ้านรกเมือง

‘เศษสวะ’รกบ้านรกเมือง

18 ธ.ค. 2568

แผ่นดินของเรา

แผ่นดินของเรา

17 ธ.ค. 2568

‘ยึดปราสาทตาควาย’สงครามใกล้จบ‘เขมรระส่ำ’

‘ยึดปราสาทตาควาย’สงครามใกล้จบ‘เขมรระส่ำ’

16 ธ.ค. 2568

‘ธนาธร-พิธา’กับสงครามเขมร

‘ธนาธร-พิธา’กับสงครามเขมร

15 ธ.ค. 2568

ต้องเผด็จศึกเขมรโดยเร็วก่อน‘ฝูงอีแร้ง’ลงรุมทึ้ง

ต้องเผด็จศึกเขมรโดยเร็วก่อน‘ฝูงอีแร้ง’ลงรุมทึ้ง

12 ธ.ค. 2568

‘เผด็จศึกเขมร’ไม่มีการหยุดยิง

‘เผด็จศึกเขมร’ไม่มีการหยุดยิง

11 ธ.ค. 2568

สงครามยังไม่จบอย่าเพิ่งนับศพทหารเขมร

สงครามยังไม่จบอย่าเพิ่งนับศพทหารเขมร

10 ธ.ค. 2568

จบเขมรด้วยสงคราม-จับ‘ฮุนเซน’ฟ้องศาล ICC

จบเขมรด้วยสงคราม-จับ‘ฮุนเซน’ฟ้องศาล ICC

9 ธ.ค. 2568

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นายปรเมษฐ์ ภู่โต
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2025 Naewna.com All right reserved