“เมื่อเจ้ามา มีอะไร มาด้วยเจ้า
เจ้าจะเอา แต่สุข สนุกไฉน
เมื่อเจ้าไป เจ้าจะเอา อะไรไป
เจ้าก็ไป มือเปล่า เหมือนเจ้ามา”
ฝากคำกลอนของสมเด็จพระพุฒาจารย์(โต พรหมรังสี) แห่งวัดระฆังบทนี้ ให้กับทุกท่านโดยเฉพาะคนที่มีตำแหน่งหน้าที่ใหญ่โตในการบริหารบ้านเมืองได้อ่านกัน เพราะเป็นคำกลอนสอนใจตัวเองเตือนตัวเอง และแก้ไขตัวเอง ให้รู้จักดับไฟในตัวเองที่เร่าร้อนไปด้วยความโลภ ความโกรธ และความหลง มีสติปัญญาคอยควบคุมจิตใจ ไม่ให้ถูกความโลภครอบงำ ไม่ให้ความโกรธครอบงำ และไม่ให้ความหลงครอบงำ เพราะถ้าจิตใจที่มีแรงผลักดันอย่างมากจากสิ่งดังกล่าวแล้ว ก็จะฉุดลากไปในทางที่ผิดอยู่เสมอ
เกิดมามือเปล่า ตายไปก็มือเปล่า เอาอะไรไปไม่ได้
ยิ่งมีอำนาจมากเท่าไร ทำอะไรไม่บันยะบันยัง ไม่ชั่งใจไตร่ตรองให้ดีและรอบคอบด้วยแล้ว ยิ่งต้องระมัดระวังให้มากเป็นพิเศษ เวลาหมดอำนาจจะได้ไม่มีใครถ่มน้ำลายรด
สมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พรหมรังสี) ท่านสอนใจคนทุกคนแต่ในวันนี้ “ลูกศิษย์สมเด็จโต” ขอแต่งกลอนสอนใจพวกมีอำนาจทั้งหลายบ้าง มีความว่าดังนี้
“เมื่อเจ้ามา พร้อมกับปืน ในมือเจ้า
อย่าได้เฝ้า ใช้อำนาจ ไม่ขาดสาย
สามปีผ่าน ยังไร้สุข ทุกข์กระจาย
คนเบื่อหน่าย ออกมาไล่ ไปพร้อมปืน”
อย่าคิดว่าจะเป็นไปไม่ได้ตามคำกลอนบทนี้ เพราะมีบทเรียนที่ผ่านมาหลายต่อหลายครั้งในบ้านเรา เกี่ยวกับการลุกขึ้นสู้ของประชาชนต่อพวกมีอำนาจที่ได้มาจากปากกระบอกปืน โดยไม่ได้เกรงกลัวอะไรเพราะทนต่อไปไม่ไหวในสภาพที่ต้องประสบอยู่กับปัญหาร้อยแปดพันเก้า ที่โหมทับเข้ามาตลอดเวลาในการดำรงชีวิตแต่ละวัน ภายใต้การบริหารจัดการของคนทำหน้าที่ที่ไม่ได้เรื่อง
ต้องทำตามคำสั่งที่ออกมา ใครว่าอะไรไม่ค่อยฟัง
แก้ปัญหาสำคัญๆ บางอย่างที่มีผลกระทบต่อผลประโยชน์ส่วนรวม หรือผลกระทบต่อความรู้สึกของชาวบ้านในเรื่องที่เกี่ยวกับความทุจริตคดโกงของเจ้าหน้าที่ในบางหน่วยงาน เพราะไม่มีความคืบหน้าเท่าที่ควร เหมือนจะปล่อยให้มันเงียบหายไปเอง หรือผู้คนลืมในที่สุด เนื่องจากเจ้าหน้าที่ดังกล่าวเหล่านั้นเป็นพวกตัว เป็นญาติพี่น้องของตัว เป็นเพื่อนฝูงของตัว เป็นต้น
ผู้มีอำนาจในการบริหารต้องใส่ใจให้มากในเรื่องนี้
โดยเฉพาะอย่างยิ่งต้องกวดขันตรวจสอบให้จริงจังกับผู้คนในหมู่พวกของตน ในเรื่องความซื่อสัตย์สุจริตไม่คดโกง ซึ่งทำงานในตำแหน่งหน้าที่ต่างๆ ขณะนี้ เพราะเป็นการสร้างความเชื่อถือเชื่อมั่นไปในตัวกับผู้คนทั้งหลายที่เฝ้าดูอยู่
ไม่ใช่จัดการกันแบบหอยทากเป็นตะคริว
ไปไม่ถึงจุดหมายสักทีเพราะไม่ค่อยเขยิบ
ได้อำนาจมาใช้ด้วยวิธีการที่ไม่เป็นไปตามกระบวนการปกครองในระบอบประชาธิปไตยด้วยแล้ว ยิ่งต้องใส่ใจและระมัดระวังในเรื่องอย่างนี้ให้มาก “อย่าได้เฝ้าใช้อำนาจไม่ขาดสาย” เพราะมองไปทุกสารทิศแล้ว ยังไม่ใช่ชัยชนะที่เด็ดขาดอะไร เพราะเรื่องหนักหนาสาหัสของบ้านเมืองยังคงอยู่หลายอย่าง ยังไปไม่ถึงจุดหมายที่ต้องการเหมือนหอยทากเป็นตะคริว
โดยเฉพาะการแก้ไขความขัดแย้งระหว่างผู้คนในบ้านเมืองด้วยแล้ว ขณะนี้ดูจะมีความขัดแย้งกันมากยิ่งขึ้นด้วยซ้ำไป ความปรองดองยังไปไม่ถึงเพราะ“หอยทากเป็นตะคริว”
คำว่า “ประชารัฐ” ที่ชอบหยิบมาใช้จากคนมีอำนาจยังไปไม่ถึง เพราะประชาชนผู้เป็นเจ้าของอำนาจจริงๆ ของบ้านเมือง ยังไม่มีส่วนร่วมอย่างจริงๆ จังๆ ในการแก้ไขปัญหาต่างๆ ประชาชนยังคงถูกหยิบไปใช้เป็นตัวประกอบในการตัดสินใจของคนมีอำนาจเท่านั้น
ไม่ค่อยจะได้ยินคำว่า “ธรรมรัฐ” จากคนพวกนี้
ทั้งๆ ที่ “ธรรม” เป็น “โรดแมป” สำคัญในการนำทาง
ความเป็น “ธรรมรัฐ” ของประเทศชาติจะเป็นส่วนสำคัญ ที่จะส่งผลให้เกิดความใสสว่างทั่วบ้านทั่วเมืองตราบชั่วกาลนาน เพราะถ้า “ประชารัฐ” ไม่มีหลักธรรมกำกับในการเดินทางไปสู่จุดหมายที่ต้องการแล้ว “สิทธิเสรีภาพ” ที่ทุกคนใฝ่หาตามระบอบประชาธิปไตย จะแกว่งไกวไปตามความสำนึกที่ต้องการได้ตลอดเวลา และจะตกเป็นเครื่องมือหรือถูกครอบงำด้วยความคิด หรือวิธีการที่ผิดๆ ที่ตนจะได้ประโยชน์ โดยไม่เอาผลประโยชน์ของส่วนรวมเป็นที่ตั้ง
การขับเคลื่อนประเทศไทยให้เดินหน้าอย่างที่ร้องตะโกนจากพวกมีอำนาจทั้งหลาย เพื่อให้ผู้คนในบ้านเมืองเดินตามนั้น ผู้มีอำนาจในการทำงานต้องมีความรู้ความเข้าใจในการสร้าง “ธรรมรัฐ” ให้ได้ ให้เกิดขึ้นอย่างจริงจังก่อน
ลืมไปหมดแล้วหรือกับพระราชดำรัสของในหลวง ร.9 ที่ว่า “เราจะครองแผ่นดินโดยธรรม เพื่อประโยชน์สุขแห่งมหาชนชาวสยาม” พระองค์ทรงใช้ธรรมในการปกครองบ้านเมือง
ไม่ใช่การเห็นแต่ประโยชน์ตน ประโยชน์พวกหรือมีอำนาจแล้วยังไม่พอ อยากมีอำนาจต่อไปเรื่อยๆ ด้วยการหาวิธีการหรืออุบายร้อยแปดพันเก้ามากำหนด
ผู้มีอำนาจทั้งหลายจึงไม่ควรใช้อำนาจพร่ำเพรื่อ
อ่านคำกลอนข้างต้นในวันนี้อีกครั้งก็ดี ทั้งคำกลอนสอนใจของสมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พรหมรังสี) และคำกลอนของลูกศิษย์สมเด็จโต ที่ว่าไว้
น.ต.ประสงค์ สุ่นศิริ
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี