nn นับเป็นเรื่องที่ถูกต้องที่รัฐบาลให้ความสำคัญและเอาจริงเอาจังกับการแก้ไขปัญหาให้เกษตรกรไทยที่ประสบปัญหารายได้ตกต่ำ...แต่ก็อยากจะบอกว่าคำว่าเกษตรกร...ไม่ใช่แค่ ชาวนา ชาวสวนยาง ชาวสวนปาล์มน้ำมัน ฯลฯ...เกษตรกร...อีกหลายๆ กลุ่มก็กำลังเดือดร้อนเช่นกัน...นั่นคือกลุ่มปศุสัตว์....ซึ่งตอนนี้ที่เจอปัญหาหนักหน่วงคือ..เกษตรกรเลี้ยงหมู และไก่ไข่....
เกษตรกรผู้เลี้ยงไก่ไข่....ขณะนี้ได้รับความเดือดร้อนอย่างหนัก จากที่ต้องแบกภาระราคาไข่ไก่ต่ำกว่าทุนต่อเนื่องมาเป็นเวลานาน ตลอดทั้งปีนี้ราคาขายไข่ไก่คละหน้าฟาร์มไม่เคยสูงกว่าต้นทุนที่ฟองละ 2.80 บาท โดยปัจจุบันราคายังตกต่ำขายได้เพียงฟองละ 2.10 บาท ....และต้นทุนที่สูงขึ้นส่วนหนึ่งเป็นผลจากราคาข้าวโพดที่ใช้เป็นวัตถุดิบหลักในการผลิตอาหารสัตว์มีราคาสูง ต่อเนื่องแม้ว่าอยู่ในช่วงที่มีผลผลิตออกสู่ตลาดมากเดือนกันยายนราคายืนอยู่ที่กิโลกรัมละที่ 8.00 บาท แต่ขณะนี้ถึงเดือนธันวาคมผลผลิตลดลงราคาสูงขึ้นอีกเป็นกิโลกรัมละ 9.00 บาท….และผู้เลี้ยงยังไม่สามารถซื้อข้าวโพดตามจำนวนความต้องการมาใช้ได้ เนื่องจากพ่อค้าขอขึ้นราคาทุกครั้ง
ขณะที่ เกษตรกรผู้เลี้ยงหมู...ตอนนี้ก็อาการน่าเป็นห่วงไม่แพ้กัน....เพราะได้รับผลกระทบอย่างหนัก ทั้งเรื่องปริมาณผลผลิตในประเทศที่มีมากเกินกว่าความต้องการบริโภค เกิดภาวะหมูล้นตลาด....พ่อค้าคนกลางกดดันราคา ....เกษตรกรจำเป็นต้องขายต่ำกว่าทุนติดต่อมานานกว่า 6 เดือนแล้ว และยังต้องเผชิญกับปัญหาต้นทุนสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ทุกวันนี้ราคาขายสุกรขุนหน้าฟาร์มตกต่ำอยู่ที่ประมาณ 48 บาทต่อกิโลกรัม ต่ำกว่าต้นทุนการผลิตเฉลี่ยที่พุ่งสูงถึง 58-60 บาทต่อกิโลกรัม ต้นทุนที่สูงขึ้น ส่วนหนึ่งมาจากปัญหาวัตถุดิบอาหารสัตว์ราคาสูงขึ้น จากกลไกการตลาดที่ถูกบิดเบือนจากมาตรการประกันราคารับซื้อข้าวโพดที่กิโลกรัมละ 8 บาททั้งปี และการให้นำเข้าข้าวสาลีเพื่อทดแทนผลผลิตข้าวโพดที่ไม่เพียงพออยู่แล้ว ยังติดขัดข้อกำหนดมาตรการควบคุมที่ต้องซื้อข้าวโพด 3 ส่วนเพื่อนำเข้าข้าวสาลีเพียง 1 ส่วน ทำให้ผู้ผลิตอาหารสัตว์จำเป็นต้องซื้อข้าวโพดในราคาสูง และยังไม่สามารถซื้อข้าวสาลีซึ่งเป็นอีกทางเลือกช่วยทดแทนการขาดแคลนข้าวโพดในประเทศ....
รัฐบาล...จำเป็นต้องหันมาดูแล... เกษตรกรภาคปศุสัตว์....ด้วยเหมือนกัน....และต้องทำอย่างเร่งด่วนด้วย....อย่างแรกก็ต้องช่วยผ่อนคลายระเบียบเพื่อแก้ปัญหาปริมาณวัตถุดิบอาหารสัตว์กลุ่มที่ใช้ทดแทนข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ที่ไม่เพียงพอ และแก้ปัญหาการถูกจำกัดโดยไม่มีทางเลือก.... ซึ่งจะช่วยเกษตรกรจัดการต้นทุนให้อยู่ได้และรองรับสภาวะราคาสินค้าตกต่ำได้...
แต่ถ้ายังไม่รีบดำเนินการใดๆ ในตอนนี้.... “เกษตรกรผู้เลี้ยงสัตว์....ที่ต่างได้รับผลกระทบจากต้นทุนอาหารสัตว์ที่สูง มานานมากแล้ว.... จะไม่สามารถแบกภาระปัญหาดังกล่าวได้อีก
ต่อไป...ในที่สุดก็ต้องเลิกอาชีพที่ทำมานาน...และแน่นอนเมื่อวันนั้นมาถึง...รัฐบาลจะต้องเจอกับปัญหาการขาดแคลนอาหารในกลุ่มเนื้อสัตว์.... !! คราวนี้ล่ะเดือดร้อนกันทั้งประเทศ..รัฐบาลเองก็อยู่ลำบากเหมือนกัน....!!
พงษ์พันธุ์
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี