nn สัปดาห์ก่อนเขียนถึงเรื่องความเดือดร้อนของเกษตรกรในภาคปศุสัตว์...ทั้งผู้เลี้ยงสุกร และไก่ไข่...ซึ่งปัญหาที่พบ...นอกจากราคาสินค้าตกต่ำแล้ว..ยังมีประเด็นเรื่องต้นทุนที่เพิ่มสูงขึ้น...โดยเฉพาะอาหารสัตว์...ทั้งนี้ทั้งนั้นก็เพราะมีการบิดเบือนกลไกตลาด...ทำให้ราคาและภาพรวมของการผลิตบิดเบี้ยวไปจนทำให้เกิดปัญหา....
ล่าสุด... 11 สมาคมผู้เลี้ยงสัตว์ ซึ่งเป็นสมาชิกของ...สมาพันธ์ปศุสัตว์และเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ…ได้รวมตัวกัน... ทำหนังสือถึงนายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์.... เรียกร้องให้กระทรวงพิจารณายกเลิกมาตรการควบคุมการนำเข้าข้าวสาลีในสัดส่วน 3:1 (ซื้อข้าวโพดในประเทศ 3 ส่วน ต่อการนำเข้าข้าวสาลี 1 ส่วน)....
ทั้งนี้ก็เพราะว่ามาตรการดังกล่าวส่งผลให้ราคาข้าวโพดในประเทศสูงกว่าราคาตลาดและความเป็นจริง....ซึ่งก็แน่นอนว่ากระทบโดยตรงต่อต้นทุนการผลิตอาหารสัตว์รวมถึงต้นทุนการเลี้ยงสัตว์สูงขึ้น โดยเฉพาะผู้เลี้ยงไก่เนื้อ ไก่ไข่ และสุกร ซึ่งปัจจุบันประสบปัญหาราคาตกต่ำและขาดทุนต่อเนื่องในปีนี้...
สิ่งที่เกิดขึ้นขณะนี้ซึ่งเป็นผลจากมาตรการดังกล่าวคือ....ทำให้การนำเข้าข้าวสาลีมีความยากลำบากเพราะกำหนดสัดส่วนการซื้อข้าวโพดในประเทศสูง ประกอบกับราคาข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ในประเทศขณะนี้ปรับตัวสูงขึ้นเฉลี่ย 9.10-9.50 บาท/กิโลกรัม ซึ่งเป็นราคาที่สูงกว่าราคาตลาดโลกที่ซื้อขายกันอยู่ที่กิโลกรัม 4-5 บาทเท่านั้น ที่สำคัญผู้ผลิตอาหารสัตว์ไม่สามารถนำเข้าข้าวสาลีได้เพราะราคาข้าวโพดในประเทศอยู่ในมือพ่อค้าคนกลางหมดแล้ว และต้องการขายในราคา 10 บาทต่อกิโลกรัม...ในปี 2560 ประเทศไทยผลิตข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ได้ 4.6 ล้านตัน เมื่อรวมกับการนำเข้าข้าวสาลีตั้งแต่ต้นปี จำนวน 1.27 ล้านตัน รวมแล้วมีวัตถุดิบเพื่อผลิตอาหารสัตว์เพียง 6 ล้านตัน ขณะที่ความต้องการใช้อยู่ที่ 8.1 ล้านตัน....ที่สำคัญในช่วงที่ราคาข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ขยับราคาขึ้น..เกษตรกรไม่ได้รับประโยชน์เพราะเป็นช่วงที่เกษตรกรขายผลผลิตข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ไปหมดแล้ว (ขายล่วงหน้าให้กับพ่อค้าคนกลาง)...
ที่เลวร้ายกว่านั้น..คือมีการลักลอบนำเข้าข้าวโพดเลี้ยงสัตว์จากประเทศเพื่อนบ้านเพื่อสวมสิทธิ์ฉวยประโยชน์จากการขาดแคลน... เมื่อข้าวโพดที่ลักลอบนำเข้ามา...ปะปนกับของในประเทศ...ก็ทำให้ปริมาณข้าวโพดเพิ่มขึ้น...สุดท้ายก็ไปกดราคาจากเกษตรกรผู้ปลูกข้าวโพด...!! พ่อค้าคนกลางสวาปามทั้ง 2 ฝั่ง...รวยพุงปลิ้นปากมันแผล็บ....
นับจากวันนี้อีกไม่นาน...หากรัฐบาลไม่มีการทบทวนมาตรการดังกล่าว หรือหาแนวทางแก้ไขปัญหา....โรงงานอาหารสัตว์และเกษตรกรภาคปศุสัตว์ประสบปัญหาขาดทุนจนต้อง
ล้มเลิกกิจการลงในที่สุด และต้นทุนข้าวโพดที่สูงขึ้นบั่นทอนความสามารถในการแข่งขันการส่งออกเนื้อไก่เมื่อเทียบกับเวียดนามซึ่งเป็นคู่แข่งของไทย ที่สำคัญต้นทุนที่สูงขึ้นกระทบต่ออุตสาหกรรมการส่งออกเนื้อไก่ไทยที่มีมูลค่าปีละประมาณ 1 แสนล้านบาท....
วันก่อน...ดร.สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายเศรษฐกิจ...ไปกล่าวในการแสดงปาฐกถาพิเศษในงานหนึ่ง...ระบุชัดว่าปัญหาต่างๆในภาคเกษตรกรรมของไทย มันเป็นปัญหาเชิงโครงสร้าง หยั่งรากลึกมานาน....แต่ถ้าไม่แก้ไขก็ไม่มีวันหลุดพ้นวงจรอุบาทว์....!! ทำให้ “เศรษฐศาสตร์วันหยุด”...อยากจะรู้จริงๆ ว่า คุณสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์...ซึ่ง ดร.สมคิด...เลือกมาเองกับมือ...จะใส่ใจและรีบเร่งแกไขปัญหาให้ภาคเกษตรกรรมของไทยมากแค่ไหน....
พงษ์พันธุ์
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี