บริษัทหลักทรัพย์(บล.)โกลเบล็กวิเคราะห์หุ้นบมจ.ทีพีซี เพาเวอร์ โฮลดิ้ง (TPCH)รายได้ปี 60 เติบโตสู่ 1,092 ล้านบาท +66% จากการรับรู้รายได้จากโรงไฟฟ้า TSG และ MGP กำลังการผลิต 8 MW และ 9.2 MW ตามลำดับเต็มปี และรับรู้รายได้จากโรงไฟฟ้า PGP กำลังการผลิต 9.2 MW ที่ดำเนินการเชิงพาณิชย์ (COD) ใน 3Q60 ช่วยหนุนรายได้เพิ่มเติม (ณ ธันวาคม 2560 โรงไฟฟ้า COD แล้ว 5 แห่งรวม 43.6 MW) ด้านต้นทุนขายปรับตัวขึ้น 2% สู่ 54% เนื่องจากปรับเพิ่มค่าบริหารโรงไฟฟ้าจากคู่ค้าหลังราคาเชื้อเพลิงทรงตัวในระดับสูงที่ 1,250 บาทต่อตัน ด้านสัดส่วนค่าใช้จ่ายในการบริหารปรับตัวลงจาก 10% สู่ 8% อย่างไรก็ตาม มีการตั้งด้อยค่าในเงินลงทุนราว 60 ล้านบาท คอยกดดันกำไรสุทธิปี 2560 หากไม่รวมค่าใช้จ่ายพิเศษบริษัทจะมีกำไรปกติ 269 ล้านบาทเติบโต 33%YoY
Ø มีโรงไฟฟ้า COD เพียง 1 แห่ง
: ในปี 2561 มีโรงไฟฟ้า COD ใน 1Q61 เพียง 1 แห่งคือโรงไฟฟ้า SGP กำลังการผลิต 9.2 MW (ณ มีนาคม 2561โรงไฟฟ้า COD แล้ว 6 แห่งรวม 52.8 MW) โดยอีก 3 แห่ง(TPCH1 TPCH2 และ TPCH5) คาดว่าจะ COD ใน 4Q61 ต้องล่าช้าออกไปอีก 1 ปีสู่ 4Q62 4Q62 และ 1Q63 ตามลำดับเนื่องจากความล่าช้าในการก่อสร้างและการหาพื้นที่ใหม่ของโรงไฟฟ้า TPCH5 หลังพื้นที่เก่าน้ำท่วม อย่างไรก็ตาม ในปี 2561 บริษัทใช้กลยุทธ์ลดต้นทุนเชื้อเพลิงเพื่อเพิ่มกำไร โดยปลูกพืชพลังงาน (หญ้าสายพันธุ์พิเศษ) กว่า 600 ไร่เพื่อใช้เป็นเชื้อเพลิงแก่โรงไฟฟ้า MWE ส่งผลให้ต้นทุนลดลงจาก 1,250 บาทต่อตันสู่ 790 บาทต่อตัน ขณะที่โรงไฟฟ้า MGP มีแผนใช้กะลามะพร้าวมาเป็นเชื้อเพลิงซึ่งมีต้นทุนเพียง 700 บาทต่อกิโลกรัมเมื่อเทียบกับต้นทุนเดิมที่ 1,250 บาทต่อตัน
Ø มีโอกาสโตจากการเปิดประมูลโรงไฟฟ้า
: บริษัทเตรียมเข้าประมูลโรงไฟฟ้ารูปแบบ VSPP-Semi Firm ซึ่งคาดว่าจะเปิดประมูลภายใน 1Q61 รวม 269 MW โดยบริษัทยังคงเน้นการประมูลโรงไฟฟ้าชีวมวลที่ภาคใต้ราว 80 MW ซึ่งโรงไฟฟ้าชีวมวลขนาดไม่เกิน 10 MW ไม่ต้องจัดทำรายงานผลกระทบกับสิ่งแวดล้อม (EIA) เนื่องจากเป็นโรงไฟฟ้าขนาดเล็กและใช้ไม้สับเป็นเชื้อเพลิงซึ่งมีมลพิษน้อยกว่าโรงไฟฟ้าที่ใช้ถ่านหินเป็นเชื้อเพลิง นอกจากนี้ภาครัฐมีโอกาสส่งเสริมโรงไฟฟ้าชีวมวลภาคใต้เพิ่มเติมอีก 300 MW เพื่อลดผลกระทบจากการคัดค้านการสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหินที่กระบี่
Ø ปรับประมาณการกำไรลง 4%
: ฝ่ายวิจัยปรับลดประมาณการปี 2561 ลงจาก 405 ล้านบาทสู่ 388 ล้านบาทลดลง 4% เนื่องจากปี 2561 มีการ COD โรงไฟฟ้าเพียง 1 แห่งจากที่ก่อนหน้านี้คาดว่าจะ COD 4 แห่ง อย่างไรก็ตามเราคาดว่าอัตรากำไรขั้นต้นจะปรับตัวดีขึ้นหลังใช้พืชพลังงานและกะลามะพร้าวมาเป็นเชื่อเพลิงเพื่อลดต้นทุน ขณะที่เราคาดกำไรปี 2562 อยู่ที่ราว 519 ล้านบาท +34%YoY จากการ COD โรงไฟฟ้า 2 แห่ง TPCH1 และ TPCH2 รวมถึงรับรู้รายได้จากโรงไฟฟ้า SGP เต็มปี
Ø คงคำแนะนำ “ซื้อ”
เนื่องจากความล่าช้าของการดำเนินงานเชิงพาณิชย์ของโรงไฟฟ้า 4 แห่งและฝ่ายวิจัยได้ปรับประมาณการกำไรลดลง ทำให้ราคาเหมาะสมซึ่งประเมินด้วยวิธีคิดลดกระแสเงินสด (DCF) ที่ต้นทุนเงินทุนถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนัก (WACC) ที่ 6.37% ลดลงจาก 21.74 บาทเหลือ 16.74 บาทซึ่งยังมีอัพไซต์จากราคาปัจจุบัน ทำให้เรายังคงคำแนะนำ “ซื้อ”
ที่มา : บล.โกลเบล็ก
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี