คำสั่งย้าย พ.ต.ท.พงศ์พร พราหมเสน่ห์ พ้นเก้าอี้ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ(ผอ.พศ.)ไปเป็นผู้ตรวจราชการสำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีรับผิดชอบงานจังหวัดชายแดนภาคใต้ทั้งๆที่ข้าราชการจอมตงฉินผู้นี้ได้สร้างผลงานเป็นที่ประจักษ์ในสายตามหาชนในการขจัดสิ่งชั่วร้ายในวงการพระพุทธศาสนาทำให้เกิดกระแสสังคมแสดงความไม่เห็นด้วยกับคำสั่งย้ายข้าราชการน้ำดีผู้นี้
ทั้งนี้ไม่กี่เดือนหลังจากที่เพิ่งจะย้าย พ.ต.ท.พงศ์พร จากกรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ)เพื่อให้มารับภารกิจสำคัญในการปฏิรูปวงการสงฆ์ให้ใสสะอาด ซึ่ง พ.ต.ท.พงศ์พร ซึ่งเป็นคนตรงไปตรงมาและจริงจังก็ไม่ได้ทำให้สังคมผิดหวังโดยสร้างผลงานจนเป็นที่ยอมรับโดยเฉพาะในการดำเนินคดีกับบรรดาข้าราชการระดับสูงในสำนักพระพุทธศาสนาหลายคนที่รวมหัวกันเป็นขบวนการทุจริตเงินทอนวัดกันมาช้านาน ขณะเดียวกัน พ.ต.ท.พงศ์พร ยังเดินหน้าพยายามที่จะตรวจสอบชำระล้างการทุจริตในหมู่พระผู้ใหญ่และพระทั่วประเทศจนเผชิญกับการบอยคอตต์ต่อต้านอย่างหนักจากบรรดากลุ่มมาเฟียในคราบผ้าเหลืองที่มีข่าวร่ำลือว่าเหิมเกริมถึงขนาดยื่นคำขาดผ่านเสนาบดีในรัฐบาลบางคนให้ย้าย พ.ต.ท.พงศ์พร มิฉะนั้นรวมหัวกันคว่ำบาตร ยิ่งไปกว่านั้นมาเฟียในคราบผ้าเหลืองกลุ่มนี้จะไม่ร่วมในพิธีสำคัญ และในที่สุดข้าราชการที่ซื่อสัตย์สุจริตและตั้งใจทำงานเพื่อชาติบ้านเมืองในการปฏิรูปสิ่งชั่วร้ายในวงการพระพุทธศาสนาก็ต้องพบจุดจบด้วยการตกเป็นแพะสังเวยถูกเด้งฟ้าผ่าท่ามกลางข้อเคลือบแคลงของสังคมต่ออำนาจรัฐว่าทำลายลูกน้องที่ดีเพื่อยอมหงอให้กับกลุ่มมาเฟียในวงการสงฆ์ทั้งๆที่มีนโยบายที่จะปฏิรูปประเทศในทุกด้าน และหากเป็นเช่นนี้เป็นการทำลายขวัญกำลังใจทำให้ข้าราชการที่ดีไม่มีกำลังใจทำงานรับใช้บ้านเมือง
หลังย้าย พ.ต.ท.พงศ์พร ก็มีการตั้ง นายมานัส ทารัตน์ใจ อดีตอธิบดีกรมการศาสนามาเป็นผอ.ผศ.คนใหม่ ทั้งนี้ปูมหลังของ นายมานัส มีข่าวร่ำลือว่าโดนใจเหล่ามาเฟียในคราบผ้าเหลืองเป็นอย่างยิ่ง เพราะที่ผ่านมา นายมานัส เคยทำงานร่วมกับบรรดาผู้ใหญ่ทั้งหลายมานานโดยยอมสนองตอบตามเหล่าเพราะผู้ใหญ่ทั้งหลายทุกเรื่องอย่างไม่มีอิดเอื้อน
จากการให้สัมภาษณ์ของ พล.ท.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกรัฐบาล ระบุว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) ได้มอบหมายภารกิจสำหรับ ผอ.พศ.คนใหม่ใน 4 เรื่องให้สำเร็จภายใต้การยอมรับและไว้วางใจจากคณะสงฆ์ หน่วยงานภายนอก และเจ้าหน้าที่ในพศ.เอง รวมทั้งทำงานร่วมกับทุกภาคส่วนได้อย่างใกล้ชิดและเป็นไปด้วยความราบรื่น โดยภารกิจ 4 ประการประกอบด้วย 1. การทำหน้าที่ในฐานะเลขาธิการมหาเถรสมาคม(มส.) 2.ปราบกรมการทุจริตที่ต้องตรวจสอบทั้งคนในพศ.ไปจนถึงระดับวัดและชาวบ้าน 3.จัดศาสนพิธีในพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพรัชกาลที่ 9 ร่วมกับกรมการศาสนา 4.แก้ไขปัญหาที่ดินสนามกอล์ฟอัลไพน์ที่ พศ. มส. สำนักงานตำรวจแห่งชาติ(สตช.)และกรมที่ดินต้องทำงานร่วมกัน
ปัญหาสิ่งเลวร้ายมาเฟียในวงการผ้าเหลืองมีช้านานและฝังรากลึกซึ่งแม้แต่ น.พ.จักรธรรม ธรรมศักดิ์ อดีตผอ.พศ. ให้ทัศนะว่าใครมาทำหน้าที่ผอ.พศ.ทำงานลำบากเพราะหากอยากทำงานง่ายและมั่นคงต้องท่องไว้ห้ามขัดใจพระผู้ใหญ่ ต้องเป็นมิสเตอร์เยสอย่างเดียว ซี่ง พ.ต.ท.พงศ์พร เป็นคนดีมีจุดยืน แต่ความแข็งกร้าวคือุปสรรคใหญ่ หากจะแก้ปัญหาในวงการสงฆ์รัฐบาลต้องเอาจริงด้วยการแก้พ.ร.บ.คณะสงฆ์เพราะเป็นต้นเหตุที่ทำให้พระสงฆ์แสวงหาสะสมยศถาบรรดาศักดิ์เงินทองจนมั่งคั่งถึงขั้นมีพลังล้มรัฐบาลได้ หากไม่รีบแก้ไขคณะสงฆ์จะกลายเป็นองค์กรที่แตะต้องไม่ได้
เพราะฉะนั้นการปฏิรูปสิ่งสกปรกรวมทั้งมาเฟียในวงการผ้าเหลืองอย่างจริงจังถือเป็นโจทย์ท้าทายและจะพิสูจน์ฝีมือความเอาจริงของผอ.พศ.คนใหม่ว่าจะผ่านสอบผ่านหรือสอบตกในสายตามหาชนโดยมีผลงานของ พ.ต.ท.พงศ์พรที่ได้สร้างไว้จนเป็นที่ยอมรับเป็นแบบอย่างเปรียบเทียบ
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี