เลื่อนเลือกตั้ง ...ยังต้องเลื่อนไปอีกไม่รู้เมื่อไหร่ ไม่มีใครกำหนดได้ เพราะ คสช. ไม่ได้เป็นผู้กำหนดเอง มีปัจจัยอะไรแทรกซ้อนอีก ที่ต้องติดตาม …
เถียงกัน รุมถล่ม คสช. และพลเอกประยุทธ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ก็ด้วยเรื่อง ไม่รักษาสัญญา ที่จะให้มีการเลือกตั้งตามโรดแมปปลายปี 61 ถึงขนาด พรรคเพื่อไทย กล่าวหา พลเอกประยุทธ เป็นโมฆะบุรุษ เพียงเพราะไม่สนองให้มีการเลือกตั้งตามที่ได้ประกาศไว้ ทั้งพรรคประชาธิปัตย์เอง ก็ออกมารุมถล่ม คสช. ว่ามีแผนต้องการสืบทอดอำนาจออกไปอีก
ทั้งหลายทั้งปวง มีข้อน่าสังเกตว่า การมองแต่เรื่องการเลือกตั้งอย่างเดียว เป็นการคิดถึงแต่ผลประโยชน์ของตนเอง หรือพรรคพวกหรือไม่ ไม่มีใครนึกถึงผลประโยชน์ของประเทศชาติบ้านเมืองอย่างแท้จริง
4-5 ปี ที่ผ่านมา ประชาชนได้ต่อสู้เพื่อให้มีการปฏิรูปประเทศครั้งใหญ่ ล้มตายบาดเจ็บนับร้อย จนบัดนี้ คสช. ยึดอำนาจทำรัฐประหาร ก็ไม่ได้ทำอะไรในเรื่องนี้อย่างจริงจัง บริหารอำนาจจนเพลิน ได้เรือดำน้ำหลายพันล้าน ได้โชว์นาฬิการิชาดมิลล์ เรือนหรูหลายสิบล้าน ทั้งที่ก็รู้ว่า ไม่ได้เกิดประโยชน์อะไรกับประชาชน และประเทศชาติ จนกลายเป็นเป้าให้ฝ่ายที่จ้องถล่มคสช. และพลเอกประยุทธ์ เอาไปเป็นประเด็นเพื่อแซะคสช.
ทั้งกรณีบิ๊กตู่ มีโอกาสจะกลับมาเป็นนายกรัฐมนตรีรอบสอง ในฐานะนายกรัฐมนตรีคนนอกหรือไม่?... ก็ถูกถล่มหนัก โพลล์สำรวจความคิดเห็นประชาชนกว่า 70 % ก็ไม่เอานายกฯคนนอก แม้พลเอกประยุทธ์ ที่เป็นแคนดิเดทคนหนึ่งจะแสดงปฏิกิริยาไม่รังเกียจ ไม่เหนียมอายอย่างแต่ก่อน หากจะได้รับการเสนอให้เป็นนายกรัฐมนตรีคนนอก พลเอกประยุทธ์ ประกาศแล้วว่า เป็นนักการเมืองเต็มตัว ไม่ได้เป็นทหารอย่างเดียว ทั้งหมดนี้ก็เป็นเป้าให้ถูกรุมถล่มเละ คะแนนนิยมบิ๊กตู่ตกลงวูบ จากที่เคยได้รับความนิยมเกิน 60-70 % ตอนนี้ตกลงมาไม่ถึง 50 % สอดคล้องกับที่ท่านประธานองคมนตรี และรัฐบุรุษ พลเอกเปรม ติณสูลานนท์ ได้เตือนไว้ตอนปีใหม่ว่า ตอนนี้ กองหนุนที่เคยสนับสนุนพลเอกประยุทธ์ ร่อยหรอลงไปแล้ว ต้องสร้างศรัทธาให้กลับคืนมาโดยเร็ว แต่ท่านประยุทธ์ เอง ก็ยังมองไม่ออกและไม่ค้นหาสาเหตุที่แท้จริงว่า ที่กองหนุนร่อยหรอลงเพราะเหตุใด? กลับมองไปอีกเรื่องหนึ่ง เมื่อไม่รู้สาเหตุที่กองหนุนร่อยหรอลง ก็ยากที่จะแก้ไขปัญหาได้ตรงจุด เรียกว่าเกาอย่างไรก็ไม่ถูกที่คัน!...
ส่วนการเลือกตั้ง โดยสรุปก็คงจะเกิดขึ้นต้นปี 62 อย่างเร็ว น่าจะประมาณเดือนกุมพาพันธ์ หรือมีนาคม 62 หลังจากพรป.ประกอบรัฐธรรมนูญมีการแก้ไข ให้มีผลบังคับใช้หลังประกาศในราชกิจจานุเบกษา 90 วัน "อย่างไรก็ตาม ก็ยังมีความไม่แน่นอนอีก ตราบใดที่รัฐบาล ยังไม่มีการประกาศอย่างชัดเจนในเรื่องนี้ โอกาสที่จะมีการพลิกผัน จึงมีได้ตลอดเวลา ทั้งหมดก็ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ ที่ยังไม่อาจวางใจได้" แหล่งข่าวทางความมั่นคงระบุล่าสุด
หลายคนยังหวาดผวาไม่หาย เมื่อได้ยิน อดีตนักการเมืองเก๋ากึก อย่าง รตอ. เฉลิม อยู่บำรุง ที่เงียบหายไปนาน จู๋ ๆ ก็ลุกขึ้นมาประกาศว่า “อยากจะกลับมามีอำนาจอีก” จุดกระแสยิ่งไม่อยากให้มีการเลือกตั้งเร็ว เพราะฝันร้ายในอดีตเกี่ยวกับความล้มเหลวในการบริหารนำพาประเทศ การเผาบ้านเผาเมือง และการคอร์รัปชั่นของนักการเมืองในอดีต ยังตามหลอกหลอนไม่เลิก
4 ปี ของ คสช. และพลเอกประยุทธ์ ที่เข้ามาบริหารประเทศ สิ่งที่อยากเห็นการเปลี่ยนแปลงอันดับแรก คือ การปฏิรูปตำรวจ ไม่ต้องรอมาตรา 44 เพื่อให้เกิดความยุติธรรมกับประชาชน แต่จนบัดนี้ ก็ยังไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง ล่าสุด คณะกรรมการปฏิรูปตำรวจที่ คสช. อุตส่าห์ไปเชิญพลเอกบุญสร้าง เนียมประดิษฐ์ นายทหารนอกราชการที่มีภาพพจน์ดีที่สุด ให้มาเป็นประธาน ทำงานมาเกือบจะครบ 1 ปีแล้ว ก็ยังจัดการอะไรไม่ได้
ล่าสุด ดร. บรรเจิด สิงคะเนติ นักวิชาการจากนิด้า อดีตกรรมการสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) ได้ออกมากล่าวถึงเรื่องนี้ว่า ขณะนี้มีการส่งสัญญาณว่าการปฏิรูปอาจจะล้มเหลว มติคณะทำงานที่เสนอให้อัยการเข้ามาถ่วงดุลย์ การสอบสวนของตำรวจ ก็ถูกคว่ำ "มีการล้มกระดาน" การปฏิรูปตำรวจก็ทำเพื่อตำรวจ ไม่ได้เป็นไปเพื่ออำนวยความยุติธรรมให้กับประชาชน อย่างที่สังคมตั้งความหวังไว้"
ดร.บรรเจิด สิงคะเนติ ยอมรับว่า ไม่มีความคืบหน้าอะไรเกี่ยวกับการปฏิรูปตำรวจ ถือได้ว่าล้มเหลว ในส่วนการแยกอำนาจสอบสวนออกมาให้เป็นอิสระจากศูนย์กลางอำนาจของตำรวจ คือสำนักงานตำรวจแห่งชาติ แม้แต่ความพยายามจะให้สำนักงานอัยการสูงสุด เข้ามาถ่วงดุลอำนาจกับตำรวจ ก็ยังมีการคัดค้าน จากนายตำรวจระดับสูง มติของคณะทำงานในเรื่องดังกล่าว ไม่ได้รับการยอมรับ
"การปฏิรูปตำรวจเป็นเรื่องที่สามารถทำได้ก่อน ไม่จำเป็นต้องรอถ่วงเวลา นี่ผ่านมามา 3-4 ปีแล้ว ก็ยังทำไม่ได้ นับประสาอะไร หาก คสช. และพลเอกประยุทธ์ จะมีอำนาจเป็นนายกรัฐมนตรีต่อไปอีกสมัย ก็คงไม่เกิดประโยชน์อะไร? ..." เสียงจากแวดวงตำรวจระดับล่าง ที่อยากเห็นการเปลี่ยนแปลงในระดับโครงสร้างต่างพูดกันอย่างสิ้นหวัง
การหากินกับธุรกิจสีเทา ของตำรวจยังคงมีอยู่ดาษดื่น การบุกจับสถานอาบอบนวด วิคตอเรีย ซีเคร็ท พระราม 9 ซึ่งพบว่า เป็นแหล่งการค้ามนุษย์ใหญ่ที่สุดใจกลางกรุงเทพฯ มีเด็กอายุต่ำกว่า 15 ปี เป็นเหยื่อเซ่นสังเวยหลายคน จากการกระทุ้งของสื่อ ทำให้ได้ชื่อคนที่เป็นเจ้าของ แต่จนถึงขณะนี้ ก็ยังไม่สามารถจับมาลงโทษได้
การค้ามนุษย์ที่ถูกกฎหมาย ซึ่งเกี่ยวโยงกับการฟอกเงินในตลาดหุ้น และนายตำรวจระดับสูง ที่รับส่วยน้ำกาม มีปรากฏให้เห็นอยู่ตลอด ธุรกิจสีเทาอาบอบนวด เปิดกันเป็นกิจการใหญ่โต เฉพาะใจกลางกรุงเทพ ย่านพระราม 9 รัชดา หลายสิบแห่ง ไม่เฉพาะวิคตอเรียซีเคร็ท ทำกันจนเป็นปกติ เพราะมีผลประโยชน์มหาศาลอยู่เบื้องหลัง ทั้งนักการเมืองก็ให้ความคุ้มครอง ปิดแล้วก็เปิดใหม่ ในชื่ออื่นอีก กิจการขยายตัว ทุนค้ามนุษย์ไหลไปรวมกับทุนการเมือง เปิดช่องให้มีการฟอกเงินในตลาดหลักทรัพย์อย่างโจ่งแจ้ง!...
พลเอกบุญสร้าง เนียมปรดิษฐ์ ประธานคณะกรรมการปฏิรูปตำรวจ ท่านก็ทำอะไรไม่ได้ ยอมรับว่า การปฏิรูปตำรวจ มีความซับซ้อน เห็นด้วยว่า จะต้องมีการถ่วงดุลงานสอบสวนของตำรวจ โดยให้สำนักงานอัยการสูงสุดเข้ามาให้ความเห็นงานสอบสวน แต่สุดท้าย มติของคณะกรรมการในเรื่องนี้ก็ไม่ได้ส่งให้คณะกรรมการชุดใหญ่ จึงมีแนวโน้มว่า จะมีการล้มกระดานในเรื่องนี้ อย่างที่ ดร.บรรเจิด ได้ให้ข้อสังเกตไว้ล่าสุด
ส่วนกำหนดการเลือกตั้งที่จะต้องเลื่อนออกไปอีก ไม่ได้เป็นไปตามโรดแมป ที่บิ๊กตู่ประกาศไว้ปลายปี 61 อาจเป็นชนวนให้เกิดความขัดแย้งรอบใหม่ตามมา โดยเฉพาะพรรคเพื่อไทย ที่ออกมาถล่ม คสช. และบิ๊กตู่อย่างรุนแรงว่า เป็นแผนการสืบทอดอำนาจ ของ คสช. แม้แต่พรรคประชาธิปัตย์เอง ก็ออกมารุมถล่มยับเช่นกัน บอกว่า เป็นเพราะคำสั่ง คสช. ทำให้ต้องเลื่อนออกไป แม้พลเอกประยุทธ์ จะออกมาย้ำว่า ไม่มีคำสั่งก็ตาม แต่ก็ยากที่สังคมจะเชื่อ “เพราะพรรคทหารเตรียมตัวไม่ทัน ก็เลยสร้างเรื่อง ขอยืดเวลาเลือกตั้งออกไปอีก” เป็นเสียงก่นด่า คสช.
"ในช่วงแรก คสช. ชะล่าใจ หวังว่า จะร่วมมือกับพรรคประชาธิปัตย์ในการเลือกตั้งได้ แต่แนวโน้มตอนนี้ เป็นไปได้ยากแล้ว ภายในพรรคประชาธิปัตย์เอง ก็มีความขัดแย้งกันหนักในเรื่องนี้ มีบางฝ่ายอยากจะชู อดีตนายกฯชวน หลีกภัย ให้ขึ้นมาเป็นหัวหน้าพรรคแทนนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เพื่อต้านทหารจะเข้ามาสืบทอดอำนาจ" แหล่งข่าววงในพรรคประชาธิปัตย์ระบุ
ยังมีปัจจัยแทรกซ้อนอีกหลายอย่างที่อาจจะทำให้การเลือกตั้งต้องเลื่อนออกไปอีก ซึ่ง อาจไม่ใช่ต้นปี 62 หลังวันที่ 25 มกราคมที่ พรป. ว่าด้วยการเลือกตั้งสส. เข้าสภา ต้องดูความชัดเจนอีกครั้งในตอนนั้น เพราะมี สนช.บางคน เสนอแปรญัตติให้เลื่อนการบังคับใช้ของกฎหมายดังกล่าว ออกไปถึง 120 วัน นั่นหมายความว่า อีก 6 เดือน หลังมีประกาศในราชกิจจา ฯ จึงจะมีการเลือกตั้ง เพราะแค่ 90 วัน เตรียมตัวไม่ทัน โดยเฉพาะในการจัดทำไพรมารี่โหวต ซึ่งต้องใช้เวลา
ขณะที่พรรคประชาธิปัตย์ ก็เดินหน้าร้องไปที่ศาลรัฐธรรมนูญ ให้ตีความ คำสั่ง คสช. ฉบับที่ 53/2561 ที่มีผลการรีเซทพรรคการเมืองว่า เป็นการขัดรัฐธรรมนูญหรือไม่? ที่ให้สมาชิกพรรคเก่า ต้องยืนยันความเป็นสมาชิกพรรคภายใน 1 เดือน
เวลาทำงานของคสช.น้อยลงไปเรื่อยๆ ที่สำคัญที่สุดคือผลงานที่ต้องตา-ต้องใจประชาชนจริงๆ จนถึงวันนี้ แทบจะไม่มีเลย แม้แต่เรื่องปฏิรูปนาฬิกา,ปฏิรูปหลักสูตรการซ่อมโรงเรียนเตรียมทหาร หรือ เรื่องปฏิรูปตำรวจก็ไม่มีคะแนนบวกให้ ล่าสุด ที่ต้องจับตาคือ กลุ่มที่ป่วน คสช. จะระดมออกมาเคลื่อนไหวอะไรอีกต่อจากนี้ หากการเลือกตั้งไม่ได้เป็นไปตามโรดแมปปลายปี 61 คสช. จะควบคุมสถานการณ์ไว้ได้หรือไม่ นายกรัฐมนตรี ได้ขอให้ประชาชนทำความเข้าใจความจำเป็นที่ต้องเลื่อนการเลือกตั้งออกไปอีก….ประชาชนจะเห็นใจ-เข้าใจหรือไม่,แค่ไหน? ไม่แน่ใจ แต่ที่แน่ๆคือ ความน่าเชื่อถือและความสง่างามของคสช.ค่อย ๆลดน้อย-ถดถอยลง ต้องเร่งฟื้นศรัทธาและความเชื่อมั่นให้คืนกลับมาโดยเร็ว "..ทำวันนี้-ทำเดี๋ยวนี้ เพราะ พรุ่งนี้อาจสายเกินไปแล้ว"......
ปฏินันท์ สันติเมทนีดล
วิทยาลัยนิเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยรังสิต
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี