หากเกาะติดข่าวสารการเมืองในบ้านลุงแซมจะปวดหัวมากนาทีนี้ เพราะลุงทรัมป์ขยันทำเรื่องวุ่นไม่เว้นแต่ละวัน ปั่นป่วนจนไม่รู้ว่าจะเขียนอะไรก่อนหน้าหลัง ล่าสุดตั้งตัวเป็นบิ๊กบราเธอร์เหมือนในนวนิยายเรื่อง 1984 ด้วยการปิดกั้นเสรีภาพสื่อ ลามไปถึงในโซเชียลมีเดีย แต่เรื่องนี้คงต้องขอยกไปคุยอาทิตย์หน้า เพราะลุงทำเรื่องป่วนโลกก่อนหน้านี้คือ ท้าต่อยตีกับอาเฮียสีแห่งไชน่าที่ทำให้ชาวโลกปากอ้าตาค้างไปตามกัน
จุดเริ่มต้นของสงครามการค้าระหว่างลุงทรัมป์กับเฮียสี เริ่มจากการที่ลุงทรัมป์ผมเป๋ประกาศมาตรการขึ้นภาษีนำเข้าเหล็ก 25% และอะลูมิเนียม 10% โดยยกเว้นให้บรรดาลูกหาบของลุงอย่างสหภาพยุโรปหรืออียูอาร์เจนตินา ออสเตรเลีย บราซิล แคนาดา เม็กซิโก และเกาหลีใต้
แต่ไม่ยกเว้นมาตรการนี้ให้พญามังกร แถมยังเตรียมรีดภาษีศุลกากรเพิ่มจากสินค้าจีนมูลค่าราว 60,000 ดอลลาร์สหรัฐ โดยอ้างว่าเป็นการลงโทษที่อาเฮียอาตี๋อาหมวยทั้งหลายขโมยทรัพย์สินทางปัญญาของอเมริกัน เล่นเอาเฮียตี๋แดนมังกรออกมาส่ายหน้าดิกๆ ว่า “อั๊วม่ายล่ายทำน่อ”
เจอไอ้นกอินทรีหัวล้านจิกกบาลรัวๆ แบบนี้ พญามังกรก็ขยับตัวคำรามใส่ไปว่า ลื้ออย่าเปิดกล่องแพนโดราเลยวะ ไอ้กล่องที่ว่านี่คือกล่องใส่ความหายนะทั้งหลายในโลกตามความเชื่อแบบตะวันตก หากวันไหนกล่องเปิด นั่นคือโลกถึงกาลอวสาน แล้วคำรามเตือนไปอีกหนว่า สิ่งที่อเมริกาทำอยู่จะกระตุ้นให้ลัทธิกีดกันการค้าแพร่กระจายไปทั่วโลก
พญามังกรนั้นโกรธจนตัวสั่น นอกจากจิกตาใส่นกอินทรีหัวล้านแล้ว ยังออกมาประกาศอย่างชัดเจนว่าการที่ทรัมป์ทำแบบนี้เท่ากับละเมิดหลักว่าด้วยการไม่เลือกปฏิบัติ (non-discrimination) ซึ่งเป็นหนึ่งในกฎพื้นฐานของ WTO อย่างร้ายแรง ทำให้จีนเสียผลประโยชน์ งานนี้ดูเหมือนว่าพญามังกรจะไม่ยอมอ่อนข้อให้นกอินทรีหัวล้านเลยแม้แต่นิดเดียว ด้วยการออกมาคำรามกึกก้องว่า
“อาลุงแซมเอ๊ย มาตรการของลื้อนี่เลือกปฎิบัติชัดๆ ลื้อไม่แคร์องค์การค้าโลกอะไรเลยนี่หว่า คือกะกระโดดถีบอั๊วเต็มๆ ตีนเลยนั่นแหละ แบบนี้อั๊วเสียหาย เค้าเป๋ งั้นถ้าอั๊วจัดหนักกับลื้อ อั๊วก็ทำได้โดยชอบธรรมนะ เพราะอั๊วก็เป็นสมาชิก WTO เหมือนกัน”
ประกาศจบ พญามังกรก็ซดน้ำชาอย่างใจเย็น ผิวปากเบาๆ เพลงเหมยฮัว แล้วฟาดกลับไปยังจุดอ่อนของตาทรัมป์ผมเป๋ทันที ด้วยการกระทืบภาคเกษตรกรของอเมริกาเต็มตีน เพราะกลุ่มนี้แหละที่ชูป้ายไฟเชียร์ตาทรัมป์จนได้มานั่งก้นแอ่นในทำเนียบขาว
เกษตรกรอเมริกันส่งผลิตผลไปขายให้จีนเกือบ 20,000 ล้านดอลลาร์ เฉพาะเนื้อหมูมีมูลค่า 1,100 ล้านดอลลาร์ าแล้วอาเฮียก็ออกประกาศเรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าต่างๆ จากบ้านลุงแซมถึง 128 รายการ รวมถึงเนื้อหมูและผลไม้ เพื่อตอบโต้ไอ้นกอินทรีหัวล้านที่ประกาศเรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากปักกิ่งมาก่อนหน้านี้ การสู้แบบตาต่อตาฟันต่อฟันของจีนเล่นเอาหุ้นร่วงกราวรูด ชาวโลกถึงกับครางฮือเพราะหวาดเสียวกันทั่วหน้า
สาเหตุที่ลุงทรัมป์ผมเป๋คิดหักคอพญามังกร เพราะลุงแกยั๊วะที่อเมริกาขาดดุลการค้ากับจีนเป็นวงเงินสูงถึง 3.75 แสนล้านดอลลาร์เมื่อปีกลาย ซึ่งคิดเป็นสัดส่วนเกือบครึ่งหนึ่งของยอดขาดดุลการค้าโดยรวมของอเมริกา
จะว่าไปแล้วลุงทรัมป์แกฟาดงวงฟาดงาด่าทอทุกประเทศในโลกที่ได้ดุลอเมริกานั่นแหละ แล้วบีบคอให้ทุกประเทศชี้แจงว่าทำไมถึงได้กำไร อ้าว..ลุงไหนว่าเชื่อมั่นในการค้าเสรีไงจ๊ะ ไอ้ที่ลุงทำนี่เป็นวิธีการอันธพาลชัดๆ การค้าเสรีที่ไหนกันที่พอเสียเปรียบแล้วพาล แต่ลุงทรัมป์เคืองอาเฮียมากกว่าเพื่อน เพราะทำให้อเมริกาขาดดุลก้อนโต ลุงทรัมป์คงลืมไปแล้วสินะว่า นาทีนี้อาเฮียเป็นเจ้าหนี้ แต่ลุงดันท้าทายเจ้าหนี้อยู่เหย็งๆ ก็สมควรแล้วนี่ที่จะโดนตบปากสั่งสอน
ตบปากไอ้นกอินทรีหัวล้านกลับไปแล้ว พญามังกรก็ยืดอกประกาศเสียงดังฟังชัดไปทั้งโลกว่า หากนกอินทรีดึงดันประกาศมาตรการทางภาษีศุลกากรรอบใหม่ เพื่อจัดหนักผลิตภัณฑ์ของจีนที่ได้รับสิทธิพิเศษจากโครงการพัฒนาอุตสาหกรรม “เมด อิน ไชน่า 2025”ล่ะก็ จีนจะตบกลับอีกรอบให้แรงเท่ากับที่อเมริกาตบมาแบบไม่ยั้งมือ
พญามังกรไม่ได้ขู่ลอยๆ แต่เฮียทำจริง ด้วยการจัดหนักจนนกอินทรีถูกกรงเล็บมังกรขยุ้มจนขนร่วงเป็นหย่อมๆ ด้วยการทำเรื่องไปถึงองค์การค้าโลกว่าลุงแซมทำตัวถ่อยก่อน ดูเหมือนว่าลุงแซมยังทำหน้ามึน กวนอวัยวะสวมรองเท้าต่อไป ด้วยการเผยแพร่รายชื่อสินค้าจีนราว 1,300 รายการมูลค่า 50,000 ล้านดอลลาร์ ที่จะถูกเรียกเก็บภาษีศุลกากรเพิ่ม 25% ซึ่งรวมถึงผลิตภัณฑ์อิเล็กทรอนิกส์ ชิ้นส่วนเครื่องบิน ดาวเทียม เวชภัณฑ์ เครื่องจักรกล
สำนักงานผู้แทนการค้าสหรัฐฯ (USTR) ประกาศรายชื่อสินค้าจีน 1,300 ชนิดที่จะถูกเก็บภาษีนำเข้า 25% ตั้งแต่หลอดไฟแอลอีดีเรื่อยไปจนถึงชิ้นส่วนเครื่องจักรกล โดยอ้างว่าเป็นการตอบโต้เพื่อให้จีนยุติการขโมยทรัพย์สินทางปัญญา ซึ่งเจ้าหน้าที่ปักกิ่งยืนกรานว่าไม่เป็นความจริง
อย่าคิดว่าพญามังกรจะกลัว อาเฮียประกาศเปรี้ยงตามหลังทันทีอีก 11 ชั่วโมงต่อมา ว่าจะขึ้นภาษี 25 เปอร์เซ็นต์จากถั่วเหลือง เครื่องบิน รถยนต์ และสินค้านำเข้าอื่นๆ รวมเป็นเงิน 5 หมื่นล้านดอลลาร์เหมือนกัน เอาซี้..ริลองของกับอาเฮียสี แบบนี้ต้องตาต่อตาฟันต่อฟันไปเลยจ้า
การฟาดปากอินทรีหัวล้านตอบโต้หนนี้เล่นเอาชาวโลกถึงกับหันไปมองอเมริกากับจีน ซ้ายทีขวาทีเหมือนดูเทนนิสวิมเบิลดัน แต่ความเสียหายหลักนั้นกระทบต่อภาคเกษตรกรรมอเมริกาอย่างรุนแรง โดยเฉพาะรัฐที่ผู้เขียนอาศัยอยู่ เพราะอินเดียน่าปลูกถั่วเหลืองเป็นหลัก โดยมีจีนเป็นลูกค้ารายใหญ่
ถีบสวนไม่พอ พญามังกรออกมาเย้ยอีกว่าตนเปิดกว้างสำหรับการเจรจา แต่อเมริกาเป็นฝ่ายทิ้งโอกาสนั้นเอง และย้ำว่าการพยายามข่มขู่คุกคามเพื่อให้ลูกหลานมังกรยอมคุกเข่าให้จะไม่มีวันสำเร็จ เจอแบบนี้ลุงแซมถึงกับเงิบ ไอ้นกอินทรีหัวล้านนั้นหัวโกร๋นจนหมด เพราะถูกพญามังกรตะปบจนขนหลุดทั้งตัว แต่ที่นอนเลือดสาดในบ้านลุงแซมไม่ใช่ใครที่ไหน ชาวไร่ชาวนาอเมริกันทั้งนั้น
การทำแบบนี้ไม่เป็นผลดีกับอเมริกาเลย นับวันมีแต่จะโดดเดี่ยวเพราะการกระทำของตนเอง ในขณะที่ลุงแซมนั่งลูบปากร่อยๆ ที่กลบเลือดอยู่นั้น อาเฮียมังกรจีนบอกว่าชาวโลกควรลุกมาต่อต้านอเมริกาได้แล้ว หลังจากได้สติ ลุงทรัมป์ก็สำแดงความเป็นเฒ่าลาดื้อทันที ด้วยการสั่งให้เจ้าหน้าที่การค้าพิจารณาขยายมูลค่าสินค้านำเข้าจากจีนที่จะถูกรีดภาษีศุลกากรในอัตราสูงเพิ่มขึ้นอีก 100,000 ล้านดอลลาร์
เอ้า..เอาเข้าไปนะลุง หนักกว่าเดิมอีก ดูแล้วหาทางออกไม่เจอ นับวันจะยิ่งทวีความรุนแรงขึ้น และการตั้งกำแพงภาษีคือวิธีที่เหมาะสมจริงหรือ นาทีนี้คนอเมริกันต่างเกรงว่ามาตรการเช่นนี้อาจกระทบโซ่อุปทานที่ต้องพึ่งพาชิ้นส่วนจากจีนเป็นหลัก และท้ายที่สุดก็จะทำให้ผู้บริโภคอเมริกันต้องซื้อสินค้าแพงกว่าเก่า แถมผลิตผลทางการเกษตรที่เคนส่งไปขายจีน ก็ไม่สามารถส่งไปขายได้อีกต่อไป
อย่าว่าแต่ชาวไร่ถั่วเหลืองแถวบ้านดิฉันเลยที่กลัดกลุ้มในเรื่องนี้ นักลงทุนทั้งโลกก็ยกมือกุมหัวไปตามกัน ด้วยความกลัวว่าการงัดข้อทางการค้าครั้งนี้จะกลายเป็น “สงครามการค้า” เต็มรูปแบบระหว่างสองมหาอำนาจทางเศรษฐกิจของโลก
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี