แม้ว่าในอเมริกาเต็มไปด้วยมหาวิทยาลัยมากมายแต่ดูเหมือนว่าหนุ่มสาวมะริกันส่วนใหญ่จะเรียนแค่การศึกษาภาคบังคับคือแค่ชั้นมัธยมปลายเท่านั้นออกมาหางานทำสร้างเนื้อสร้างตัวแล้วแยกไปเริ่มครอบครัวใหม่ที่เป็นเช่นนี้ไม่ใช่เพราะสันหลังยาวแต่เป็นเรื่องของวิตามินเอ็มหรือมันนี่ล้วนๆ
การเรียนมหาวิทยาลัยในอเมริกาต้องให้ทางมหาวิทยาลัยตอบรับเข้าเรียนก่อนถึงมีที่นั่งในมหาวิทยาลัยแล้วก็ใช่ว่าจะลอยหน้าเข้าไปนั่งยิ้มแฉ่งเหล่สาวได้อย่างสะดวกโยธินหากพ่อแม่ใครไม่มีเงินเก็บที่พ่อแม่สะสมมาก็อดเข้าเรียนเพราะค่าใช้จ่ายแต่ละภาคการศึกษาแพงเอาการทีเดียว
นอกเหนือจากเรื่องวิชาการแล้วแต่ละมหาวิทยาลัยยังมีประเพณีแตกต่างกันออกไปบางทีแปลกประหลาดคาดไม่ถึงเลยทีเดียว เช่นมหาวิทยาลัยแถวบ้านคือมหาวิทยาลัยโพรดิวซ์มีประเพณีประหลาดอยู่ประเพณีหนึ่งเรียกว่า Purdue Nude Olympicsที่นักศึกษาทั้งชายหญิงจะออกมาแก้ผ้าโทงเทง วิ่งไปรอบๆมหาวิทยาลัยในเดือนมกราคมหรือกุมภาพันธ์
หลักการเลือกว่าวันใดหนาวที่สุดในรอบปีจะกำหนดให้เป็นวันวิ่งเปลือยประจำปีหน้าหนาวรัฐอินเดียน่านั้นสาหัสเอาการ เพราะหนาวจัดแบบติดลบซึ่งบางปีหนาวถึงขนาด -25 เซลเซียสเลยทีเดียวแล้วการวิ่งเปลือยนี่แทนที่จะวิ่งกันเงียบๆกลับแหกปากตะโกนโห่ร้องสนุกสนานบางคนแก้หมดเว้นไว้แต่ผ้าพันคอผืนเดียว หรือไม่ก็ใส่อะไรตลกๆแนวโชว์หญิง
การวิ่งเปลือยไม่ได้วิ่งกันเหยาะแหยะๆ แค่คนหรือสองคนแต่วิ่งเป็นร้อยๆ คน บางปีมีผู้หญิงมาแก้ผ้าวิ่งด้วยโดยเวลาของการวิ่งปลือยจะเป็นช่วงกลางคืนสาวไทยรายไหนมาเรียนต่อที่นี่หากได้ยินเสียงโห่ร้องกลางดึกหน้าหนาวอย่าได้ตกอกตกใจแต่จงแง้มหน้าต่างหรือตระเตรียมกล้องส่องทางไกลและแว่นขยายไว้แต่เนิ่นๆ
แต่ประเพณีแปลกๆแบบนี้ไม่ได้มีแค่ที่มหาวิทยาลัยโพรดิวซ์แห่งเดียวยังมีอีกสองมหาวิทยาลัยที่มีการวิ่งเปลือยหลายคนแทบไม่เชื่อสายตาตัวเองเมื่อรู้ว่าแม้แต่มหาวิทยาลัยอันดับหนึ่งในห้าของโลกอย่างฮาร์เวิร์ดก็มีประเพณีพิลึกนี้ด้วย
มหาวิทยาลัยระดับเลิศในอเมริกาจะเรียกรวมๆ ว่า ไอวี่ลีกส์ (Ivy League) ถือเป็นมหาวิทยาลัยในฝันของคนทั้งโลกเลยก็ว่าได้มหาวิทยาลัยในกลุ่มนี้มีอยู่แปดแห่งคือ มหาวิทยาลัยบราวน์ (Brown University) มหาวิทยาลัยโคลอมเบีย (Columbia University)มหาวิทยาลัยคอร์แนล (Cornell University) มหาวิทยาลัยดาร์ธมัธ
(Dartmouth College) มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด (Harvard University) มหาวิทยาลัยเพนซิลเวเนีย (University of Pennsylvania)และมหาวิทยาลัยพรินซ์ตัน (Princeton University)
ทั้งที่เป็นมหาวิทยาลัยปัญญาชนอันดับหนึ่งแต่ฮาร์วาร์ดดูหนักข้อกว่ามหาวิทยาลัยโพรดิวซ์เสียอีกเพราะมีประเพณีการวิ่งเปลือยที่เรียกว่า The Primal Screamจัดขึ้นตอนเที่ยงคืนสุดท้ายก่อนการสอบปลายภาคเหล่าปัญญาชนคนฮาร์วาร์ดจะลงมาวิ่งรอบ Harvard Yardซึ่งเป็นลานสนามหญ้าขนาดพอเหมาะพอเจาะแต่ถือเป็นสถานที่สำคัญอย่างยิ่งยวด เพราะเหมือนสะดือมหาวิทยาลัยอันรายล้อมไปด้วยตึกหอพักนักศึกษา หอสมุดและรูปปั้นจอห์น ฮาร์วาร์ดซึ่งรูปปั้นนี้ร่ำลือกันว่าขลังนักหนาหากใครอยากมาเรียนที่นี่ให้จับเท้ารูปปั้นแล้วจะสมหวังได้เข้ามาเป็นนักศึกษาฮาร์วาร์ดอย่างเต็มภาคภูมิ
ที่ลานแห่งนี้แหละที่พวกนักศึกษาจะมาวิ่งกันแบบโป๊ๆบางคนเปิดเผยก็เปิดหมด แต่บางคนมีเสื้อคลุมพอให้วับๆ แวมๆหรือบางคนแก้ผ้าหมด แต่มีหมวกครอบหัวไว้ใบหนึ่งแก้เขินจากนั้นวิ่งไปแหกปากร้องไปอย่างสนุกสนานที่ทำเช่นนี้เพราะเชื่อว่าจะทำให้สอบผ่านฉลุยและได้เกรดเออย่างแน่นอนดูๆไปแล้วเหมือนการแก้ผ้ารำแก้บนในเมืองไทยชอบกลที่มีการบนบานว่าจะมีการแก้ผ้ารำถวายต่อหน้ารูปปั้นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ต่างๆยังไม่หมดเท่านี้ คาดว่าที่นี่คงเรียนหนักจนเครียดจัดเลยมีประเพณีอีกอย่างคือมีความเชื่อว่าถ้าใครมีเซ็กส์ในห้องสมุดแล้วจะเรียนจบแน่นอน
ดังนั้นห้องสมุดที่นี่จึงมักมีเสียงประหลาดเล็ดรอดออกมาเสมอในยามปลอดคน
แม้ดูเหมือนว่าจะเป็นเรื่องขำๆ ฮาๆ แต่เคยมีการสำรวจออกมาในปี 2013 ว่านักศึกษา 13% ที่จบการศึกษาเคยมีเพศสัมพันธ์ในห้องสมุดแต่ที่ฮอตฮิตสุดคือการวิ่งเปลือยนี่แหละเพราะผลการสำรวจออกมาว่านักศึกษาถึง 32% ทำตามประเพณี ThePrimal Scream ในคืนสุดท้ายก่อนการสอบ เพราะเชื่อว่าจะทำให้สอบได้
ประเพณีพิลึกนี้ยังกระจายมาถึงมหาวิทยาลัยอีกแห่งหนึ่งในย่านอีสต์โคสต์คือ มหาวิทยาลัยทัฟส์ (Tufts University) รัฐแมสซาชูเซตส์ที่นี่มีประเพณีการวิ่งเปลือยที่เรียกว่า “'Naked Quad Run'”อันโด่งดังไม่แพ้ใครเหมือนกันแต่การแก้ผ้าวิ่งโทงเทงในมหาวิทยาลัยแห่งนี้ออกแนวศิลปะและถือคติว่า“ช้าๆ ได้พร้าเล่มงาม”
แทนที่จะถอดเสื้อผ้าจนโล่งโจ้งหมดแต่แรกกลับวิ่งไปเปลื้องไปทีละชิ้นท่ามกลางเสียงเป่าปากวิ๊ดวี้วจะว่าไปก็วัดความใจถึงด้วยเพราะกำหนดให้จัดขึ้นในหน้าหนาวเหมือนกัน โดยจัดขึ้นในช่วงก่อนสอบบรรดาชีเปลือยชาวมหาวิทยาลัยทัฟส์จะวิ่งโทงเทงจากตึก West Hallไปยังตึก Residential Quad แต่ระหว่างทางจะเต้นไปเสื้อถอดผ้าไปคาดว่าคงวิ่งตัวสั่นดุกๆ ด้วยความหนาวส่วนอวัยวะอย่างอื่นจะสั่นด้วยหรือไม่คงต้องขอไปสังเกตการณ์อย่างใกล้ชิดก่อนถึงจะสามารถมารายงานได้
ประเพณีนี้มีที่มาที่ไป ในช่วงปี 1900 มหาวิทยาลัยนี้เป็นมหาวิทยาลัยชายล้วนมีอยู่วันหนึ่งจับมือกับแจ็คสันคอลเลจซึ่งเป็นมหาวิทยาลัยหญิงล้วนประท้วงการรวมมหาวิทยาลัยด้วยการแก้ผ้าวิ่งร่วมกันจนกลายเป็นประเพณีต่อมา
เล่าถึงประเพณีโป๊ๆ ฮาๆของนักศึกษาแล้วคงต้องเล่าถึงระบำโป๊ของมหาวิทยาลัยแบรนดีส(Brandeis University) มีประเพณีจัดแสดงทุกปีในชุดการแสดงที่เรียกว่า “Liquid Latex” หรือการแก้ผ้าแล้วเอาสีมาทาตามร่างกายนั่นเองสีที่ใช้ก็ทากันอย่างทึบเลยทีเดียวเพื่อปกปิดสิ่งที่ควรปกปิด เอ๊ะหรือไม่ควรปกปิดก็ไม่ค่อยแน่ใจนัก การแสดงชุดนี้ถือว่าเด็ดดวงมากเพราะเคยได้รับรางวัลชมเชยจากนิตยสารเพลย์บอยเสียด้วย
เหล่านักแสดงจำเป็นที่คาดว่าคงดื่มมาอย่างเต็มที่จะทาสีต่างๆแล้วออกมาเต้นตามจังหวะเพลง ไม่ได้เต้นแบบมั่วๆแต่ดูออกว่ามีการฝึกซ้อมมาอย่างดีแต่ละคนพยายามกระโดดกระเด้งให้อะไรต่อมิอะไรผงกเงยมาสบตาคนดูอยู่เรื่อยบางปีนั้นฮาหนักมากด้วยการทาสีเป็นเจ้านกบิ๊กเบิร์ดแล้วเต้นย้อกแย้กตามสไตล์รายการเซซามี่สตรีท ปีนั้นทุกคนฮือฮากันใหญ่กับ “หนอนนก”ไม่ใช่เจ้านกบิ๊กเบิร์ด เรียกได้ว่าเฮฮาทั้งคนเต้นและคนดูประเพณีนี้สืบทอดกันมา 13 ปีแล้ว
เล่าสู่กันฟังในช่วงที่บ้านเราอบอ้าวด้วยอุณหภูมิส่วนซีกโลกตะวันตกก็เดือดเหมือนกันด้วยสถานการณ์สงครามและการเมือง ท่ามกลางช่วงเวลาแบบนี้ขอชวนคุยเรื่องสนุกสนานบันเทิงดีกว่าชีวิตจะได้ระอุอ้าวเกินไปนัก
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี