ท่ามกลาง “วิกฤติศรัทธา” ที่มีต่อตำรวจมาช้านาน กลับปรากฏนาม “ด.ต.ยุทธพลศรีสมพงษ์” ขึ้นมาแบบ “สวนกระแส” เพราะเจ้าของฉายา “จอนนี่ มือปราบอินดี้” กลับเป็น “ขวัญใจมหาชน” ได้รับคำชื่นชมจากชาวบ้านร้านตลาด...ด้วย “มุมคิด” และ “รูปลักษณ์” ที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว ขณะที่ผลงานจับกุมเหล่าร้ายการันตีถึงความสามารถ ทำให้เขาเป็นที่ยอมรับในฐานะอีกหนึ่ง “มือปราบ” ที่พึ่งได้
นักสืบ “ผมยาว สวมรองเท้ายาง” ผู้นี้เป็นใครมาจากไหน เหตุใดจึงเป็นที่รักของชาวบ้าน…“บนถนนสีกากี” จะพาไปทำความรู้จัก!!!
“ด.ต.ยุทธพล” เล่าว่า เขาเกิดในห้องแถวเล็กๆ ที่ อ.พิบูลมังสาหาร จ.อุบลราชธานี และใฝ่ฝันจะเป็น “ผู้พิทักษ์สันติราษฎร์” ตั้งแต่เล็ก เพื่อเจริญตามรอยเท้าบิดาที่เป็นตำรวจฝ่ายสืบสวน อ.พิบูลมังสาหาร แต่พลาดโอกาส “สอยดาวมาประดับบ่า” เพราะสอบเข้าโรงเรียนนายร้อยตำรวจ สามพราน ไม่ได้ แต่เขายัง“ล่าฝัน” ต่อไป สุดท้ายก็สอบเข้า “โรงเรียนพลตำรวจ” สำเร็จ
หลังฝึกอบรมจบ “พลตำรวจสำรองพิเศษ ยุทธพล” ถูกบรรจุที่ สน.คันนายาว ถือเป็น “ปฐมบท” เส้นทางนักสืบ เมื่อได้รับความไว้วางใจจากผู้บังคับบัญชาให้อยู่ฝ่ายสืบสวน และเริ่ม “สร้างผลงาน” ปิดคดีดังๆ มากมาย เช่น คดีฆ่าหมกเตียงที่พหลโยธิน 34, ยิงกันตายที่มหาวิทยาลัยศรีปทุม, คดีรุมโทรมผู้หญิงทุ่งทานตะวันหลังโรงเรียนสตรีวิทยา 2 ที่จับกุมได้ยกแก๊ง เป็นต้น
ส่วนฉายา “จอนนี่” ได้รับมาตอนอยู่ในทีมสืบสวนกองบังคับการตำรวจนครบาล 4(บก.น.4) ที่มี “พล.ต.ท.กฤษฎา พันธุ์คงชื่น” อดีตนักสืบชั้นครู เป็นผู้บังคับบัญชา ช่วงนั้นเขาย้อมผมสีทอง พล.ต.ท.กฤษฎา จึงเรียกว่า “จอนนี่ผมทอง” กลายเป็น “ชื่อมงคล” ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา
“จริงๆ ผมเป็นสายสืบตั้งแต่เป็นพลตำรวจ ไม่เคยแต่งเครื่องแบบ แต่งเครื่องแบบจริงๆ ปี 2554 ตอนนั้นได้รับโล่รางวัลเชิดชูเกียรติฝ่ายสืบสวนดีเด่น สาขาชั้นประทวน จากนั้นปี 2556 ย้ายมาอยู่กองปราบปรามรับผิดชอบคดีบุคคลตามหมายจับค้างเก่า ผู้มีอิทธิพล และมือปืนรับจ้าง”
แม้จะสลัดภาพตำรวจจนไม่เหลือเค้าเดิม แต่ “จอนนี่” ยืนยันว่าเขามีหัวใจของผู้พิทักษ์สันติราษฎร์เข้มข้น 100% และยังทำงานเต็มที่ พยายามทำงานให้ดีที่สุด เพื่อหน่วยงาน ซึ่งการเปิดเผยตัวตนผ่านสื่อต่างๆ โดยเฉพาะ“เฟซบุ๊ค” ไม่มีอุปสรรคใดๆ ต่อการ “แกะรอย” คนร้าย ในทางกลับกันเขายังเปิดเฟซบุ๊คชักชวนให้ชาวบ้านร่วมแจ้งเบาะแสอาชญากรรม ยาเสพติด เป็นต้น แต่ถ้าพูดถึงรูปลักษณ์ส่วนตัวอาจ “ผิดวินัย” บางครั้งถูกผู้บังคับบัญชาสั่งให้ “ตัดผม” ซึ่งเขาก็ไม่ขัดคำสั่ง
“บางคนถามว่าไว้ผมยาว สักลายจับโจรได้เหรอ นี่เป็นมุมมองที่แตกต่างกัน อย่าลืมว่าศาสตร์และศิลป์มันมีมิติ ไม่มีใครรู้หรอกว่าไอ้ผมยาว สักลายทั้งตัว จะเป็นตำรวจที่มีผลงานออกสื่อ แต่ผมเชื่อเรื่องโชคชะตาว่าตราบใดที่ผมคิดบำบัดทุกข์ช่วยเหลือประชาชน ถึงเวลาดวงคนคิดดีเพื่อบ้านเมืองกับคนคิดร้ายต่อประชาชนต่อแผ่นดินมันจะข่มกัน”
นอกจากเป็นตำรวจ เขายังสวมอีกบทบาทหนึ่งในฐานะพ่อค้า เปิดร้านอาหาร “ตะลึงกรุง” ที่ อ.เมือง จ.อุบลราชธานี ทำให้ “มือปราบอินดี้” เข้าใจว่าชาวบ้านคาดหวังอะไรจากตำรวจ.???
“ขาข้างหนึ่งผมเป็นชาวบ้าน ทำให้รู้ว่าต้องการอะไรจากตำรวจบ้าง แล้วถามว่าขาอีกข้างที่เป็นตำรวจ ผมต้องทำอะไรให้ชาวบ้าน
นี่แหละทำให้ผมอินดี้ มีความคิดแตกต่าง”
สำหรับ “เส้นทางบนถนนสีกากี” ในอนาคต “มือปราบอินดี้” วางเป้าหมายไว้ว่าต้องการถ่ายทอดวิชาความรู้นักสืบที่ได้มาสู่รุ่นน้องๆที่รักอาชีพตำรวจเช่นเดียวกัน เพื่อให้ตำรวจรุ่นหลังๆได้มุ่งมั่น “บำบัดทุกข์ บำรุงสุข” ให้กับประชาชนอย่างภาคภูมิ สมกับคำว่า...
“ตำรวจ” คือ “ผู้พิทักษ์รับใช้ประชาชน”!!!
ทีมข่าวอาชญากรรม
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี