โครงการยุครัฐบาลยิ่งลักษณ์ โดยสำนักนายกรัฐมนตรี จ้าง “มติชน-สยามสปอร์ต” จัดโรดโชว์โครงการสร้างอนาคตประเทศไทย Thailand 2020
เป็นโครงการประชาสัมพันธ์ผลักดันร่าง พ.ร.บ.ให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่งของประเทศ พ.ศ. .... หรือร่างกฎหมายกู้เงิน 2 ล้านล้านบาท เพื่อลงทุนโครงสร้างพื้นฐานของประเทศ สมัยรัฐบาลยิ่งลักษณ์
1) โครงการดังกล่าว จ้างบริษัท มติชน จำกัด (มหาชน) และบริษัท สยามสปอร์ต ซินดิเคท จำกัด (มหาชน)
แบ่งเป็น 3 สัญญา
รวมมูลค่า 240 ล้านบาท
สัญญาที่ จ.01/2557 สลน. จ้างบริษัทมติชนฯ วงเงิน 40 ล้านบาท (ทำสัญญาวันที่ 1 ต.ค. 2556)
สัญญาที่ จ.17/2557 สลน. จ้างบริษัทมติชนฯ วงเงิน 100 ล้านบาท (ทำสัญญาวันที่ 11 ต.ค. 2556)
สัญญาที่ จ.18/2557 สลน. จ้างบริษัทสยามสปอร์ตฯ วงเงิน 100 ล้านบาท (ทำสัญญาวันที่ 11 ต.ค. 2556)
ทุกสัญญา ใช้วิธีการจัดซื้อจัดจ้างด้วย “วิธีพิเศษ”
ไม่เปิดให้มีการเสนอราคาอย่างกว้างขวาง
แต่เป็นการเชิญเฉพาะรายมาเสนอราคาโดยตรง
2) งานก็คือ จ้างให้บริษัทเอกชนจัดนิทรรศการ จัดสัมมนาและประชาสัมพันธ์เผยแพร่ข้อมูลโครงการตามกฎหมายกู้เงิน 2 ล้านล้านบาท
ในพื้นที่ภาคอีสาน ภาคกลาง ภาคเหนือ ภาคตะวันออก และภาคใต้ รวม 12 จังหวัด
ดำเนินโครงการระหว่างเดือนตุลาคม–พฤศจิกายน 2556
ปลายเดือนธันวาคม 2556 อดีตนายกฯ ยิ่งลักษณ์ประกาศยุบสภาพอดี
น่าสงสัยว่า ทั้งสองบริษัท เป็นผู้มีความเชี่ยวชาญด้านจัดอีเว้นท์ระดับแนวหน้าของประเทศ จนถึงขนาดว่าทางการต้องเจาะจงจำเพาะจ่ายงานไปให้โดยตรงเช่นนี้เลย กระนั้นหรือ?
อนึ่ง ถ้าไปดูการนำเสนอข่าวของทั้งสองเครือ ตั้งแต่ยุครัฐบาลยิ่งลักษณ์ ยุคที่มีการชุมนุมของมวลมหาประชาชน กระทั่งยุคปัจจุบัน อาจจะดูว่าเข้าตารัฐบาลยิ่งลักษณ์กว่า
3) สตง.ได้เคยเข้าไปตรวจสอบโครงการจัดจ้างที่ใช้เงินแผ่นดิน จำนวน 240 ล้านบาทนี้
สตง. ถึงขนาดเคยทำหนังสือ ลงวันที่ 11 มีนาคม 2557 ขอให้ทบทวนการจ่ายเงินในการดำเนินโครงการ Roadshow สร้างอนาคตประเทศไทย Thailand 2020 ของสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี
หนังสือแจ้งไปถึงนายสุรนันทน์ เวชชาชีวะ เลขาธิการนายกรัฐมนตรี
สตง.ระบุว่า การว่าจ้างบริษัทเอกชนเข้ามารับงานนี้ โดยวิธีพิเศษ เป็นการดำเนินการที่ไม่เปิดโอกาสให้มีการแข่งขันราคาอย่างเปิดเผยโปร่งใส และเป็นธรรม ซึ่งอาจจัดจ้างในราคาที่สูงกว่าที่ควรจะเป็น และอาจเข้าข่ายตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ พ.ศ.2542 อาจทำให้ทางราชการได้รับความเสียหาย
“..สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน พิจารณาแล้วเห็นว่า โครงการเงินกู้2.2 ล้านล้านบาท ยังอยู่ระหว่างการพิจารณาไต่สวนของศาลรัฐธรรมนูญว่า ร่างพระราชบัญญัติให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านการขนส่งของประเทศ พ.ศ.... ได้ตราขึ้นโดยถูกต้องตามรัฐธรรมนูญหรือไม่
และโครงการ Roadshow ดังกล่าว เป็นการประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับโครงการเงินกู้ 2.2 ล้านล้านบาท เพื่อให้ประชาชนและสาธารณชนได้รับรู้ถึงประโยชน์จากระบบโครงสร้างพื้นฐานด้านการคมนาคมขนส่งของประเทศอย่างกว้างขวางโดยใช้เงินงบประมาณ 240 ล้านบาท ในการจัดจ้างเอกชนดำเนินการจัดโครงการ Roadshow สร้างอนาคตประเทศไทย Thailand 2020 ทุกภาคทั่วประเทศ
โดยมีการดำเนินการจัดนิทรรศการสัมมนา การโฆษณาประชาสัมพันธ์ เผยแพร่ข้อมูลเกี่ยวกับโครงการลงทุนพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน ซึ่งสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีต้องกำหนดรายละเอียดแผนการดำเนินการ ขอบเขตของงาน และรายละเอียดคุณลักษณะเฉพาะของพัสดุที่ชัดเจน การดำเนินการต้องมีการดำเนินการอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ประชาชนได้รับรู้และเข้าใจอย่างทั่วถึง และกิจกรรมบางส่วนของโครงการ สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีสามารถดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ได้ โดยดำเนินการจัดจ้างเอกชนเฉพาะงานในส่วนที่สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีไม่สามารถดำเนินการเองได้ และการที่สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีใช้งบประมาณโครงการประชาสัมพันธ์ 240 ล้านบาท จัดจ้างโดยวิธีพิเศษ โดยให้เอกชนดำเนินการทั้งหมด จึงเป็นการดำเนินการที่ไม่เปิดโอกาสให้มีการแข่งขันราคาอย่างเปิดเผยโปร่งใส และเป็นธรรม ซึ่งอาจจัดจ้างในราคาที่สูงกว่าที่ควรจะเป็น และอาจเข้าข่ายตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ พ.ศ.2542 อาจทำให้ทางราชการได้รับความเสียหาย
จึงขอให้สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีทบทวนการดำเนินการใช้จ่ายเงินโครงการดังกล่าวให้เป็นไปตามกฎหมายระเบียบข้อบังคับและแบบแผนของทางราชการโดยเคร่งครัด เพื่อให้การจ่ายเงินแผ่นดินเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพเป็นการป้องกันมิให้เกิดความเสียหายต่อการใช้จ่ายเงินของแผ่นดิน ซึ่งหากมีการเบิกจ่ายไม่ถูกต้อง จะต้องมีผู้รับผิดชอบในการเบิกจ่ายเงินนั้น...”
4) สุดท้ายแล้ว ศาลรัฐธรรมนูญก็มีคำวินิจฉัยให้ร่างพระราชบัญญัติให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านการขนส่งของประเทศ พ.ศ.... หรือ พ.ร.บ.เงินกู้ 2 ล้านล้านบาทตกไป เนื่องจากไม่ชอบทั้งกระบวนการออกกฎหมาย และเนื้อหาขัดต่อรัฐธรรมนูญ
ย้ำ... ศาลไม่ใช่การตัดสินว่าโครงการไม่ดี แต่พิพากษาวิธีการจะกู้เงินผ่านกฎหมายเฉพาะกิจว่าไม่ถูกต้อง ทำลายวินัยการเงินการคลังของแผ่นดิน ขัดรัฐธรรมนูญ
แถมที่ไปทำการโรดโชว์นั้น บางส่วนให้ข้อมูลเกินไปกว่าโครงการในวงเงินกู้ 2 ล้านๆ ด้วยซ้ำ เพราะในวงเงินดังกล่าว รถไฟความเร็วสูงไปไม่ถึงอุดรธานี-หนองคาย ถ้าจะสร้างเพิ่ม ต้องหาเงินมาเพิ่มอีกต่างหาก แต่เอาไปโฆษณาถึงโน่นด้วย
5) น่าสงสัยว่า ปัจจุบัน การตรวจสอบในเรื่องเหล่านี้ ไปถึงไหนแล้ว
สื่อก็ไม่เห็นสนใจขุดคุ้ย
ต่างจากหลายๆ เรื่อง ที่มีราคากลาง มีการเสนอราคาแข่งขัน แต่สื่อบางสำนักเล่นตีไข่ใส่ข่าว ราวกับมีการโกงกันอย่างจะแจ้ง ทุจริตอย่างร้ายแรงชนิดไม่เคยมีมาก่อน ทั้งๆ ที่ ลองเทียบเคียงกับกรณีของธุรกิจสื่อเองบางสำนักเคยหากินกับโครงการของรัฐบาลในอดีตแท้ๆ
มูลค่าโครงการสูงกว่า
กระบวนการจัดซื้อจัดจ้างไม่มีประมูลแข่งขัน
การตรวจสอบความเหมาะสม จริยธรรมในฐานองค์กรสื่อไปรับงานกินเงินหลวง
หรือแม้แต่ประเด็นผิด-ถูกกฎหมาย เป็นอย่างไร?
สารส้ม
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี