การมีส่วนรวมของประชาชน ในการตรวจสอบความถูกต้องของภาครัฐ จะเข้มแข็งอย่างยิ่ง รัฐบาลนี้ควรจะนำเอาพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยหลักเกณฑ์และวิธีการบริหารบ้านเมืองที่ดี พ.ศ. ๒๕๔๖ มาบังคับให้ทุกหน่วยงานของรัฐ ต้องจัดทำสมุดคู่มือแจกประชาชน และมีประกาศติดไว้ให้ประชาชนทราบว่า อำนาจหน้าที่ของตนคืออะไร ทำอะไร และขั้นตอนการทำงานในหน้าที่ของตนเป็นอย่างไร จะต้องโปร่งใสตรวจสอบได้ทุกเวลา และให้บริการแก่ประชาชนอย่างแท้จริง
แต่กฎหมายฉบับนี้ก็เป็นหมัน เพราะรัฐบาลชุดต่อๆ มา กลับไม่พัฒนาส่งเสริมให้เป็นกฎหมายที่ศักดิ์สิทธิ์และสามารถใช้ให้เกิดการปฏิรูปภาครัฐอย่างแท้จริง สิ่งเหล่านี้ควรจะต้องมีอย่างยิ่ง ข้าพเจ้าขอเรียกร้องให้รัฐบาลปฏิรูป กลับไปทบทวน เอาแค่เพียงให้มีสภาพบังคับ ไม่ว่าจะเป็นหน่วยราชการหรือองค์กรอิสระ หากไม่ตอบรับ ตอบสนองข้อร้องเรียนของประชาชน จะต้องมีโทษสถานใดบ้าง อย่างไรบ้าง นี่คือการตอบสนองการมีส่วนร่วมภาคประชาชน อย่าเขียนให้เป็นเพียงตัวหนังสืออยู่ในรัฐธรรมนูญ ประเทศที่เจริญ เพราะประชาชนเขามีสิทธิมีเสียงและกำหนดหลักการตรวจสอบภาครัฐไว้
ข้าพเจ้าได้ทำหนังสือร้องเรียนการทำงานของคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) ในหน้าที่ที่จัดให้มีการทำประชามติรัฐธรรมนูญ เมื่อวันที่ ๗ สิงหาคม ๒๕๕๙ ว่า เหตุใดจึงไม่สามารถจัดส่งร่างรัฐธรรมนูญให้แก่ประชาชนอย่างทั่วถึง มีการจัดพิมพ์จริงกี่เล่ม การจัดซื้อจัดจ้างกล่องใส่บัตรเลือกตั้งที่ตกไม่แตก ได้จัดซื้อหรือไม่ รวมทั้งการใช้จ่ายงบประมาณแผ่นดินประมาณ ๓,๐๐๐ ล้านบาท เป็นไปโดยสุจริต โดยชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ ได้ร้องขอให้คณะกรรมการการเลือกตั้งแถลง เรื่องนี้ เพื่อให้ประชาชนและข้าพเจ้าทราบด้วย เพราะครอบครัวของข้าพเจ้าไม่ได้รับร่างรัฐธรรมนูญแต่อย่างใด
แต่คณะกรรมการการเลือกตั้งเงียบเฉย ไม่สนใจ เรื่องเดียวกันได้ร้องเรียนกล่าวโทษเป็นหนังสือ ขอให้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.) สอบสวนการทำหน้าที่ของ กกต. แต่ทั้งป.ป.ช.และกกต. ก็เงียบเฉย
ข้าพเจ้าเป็นประชาชนที่เสียภาษีให้แก่รัฐ และยังทำงานเพื่อสร้างความดีความงามให้แผ่นดิน จึงต้องถามท่านว่า ไม่ละอายบ้างหรือครับ เงินเดือน ค่าตอบแทน เบี้ยประชุมที่ท่านรับเอาไปกินไปใช้อยู่ทุกวันนี้ เป็นเงินของข้าพเจ้าและประชาชนที่ถูกหักเป็นภาษีไป ที่สำคัญสำเนาหนังสือที่ส่งถึงท่านก็ได้ลงโฆษณาในคอลัมน์นี้ ให้ประชาชนทราบโดยทั่วกัน วันนี้จึงต้องมาถามหามาตรฐานการทำงานของสองหน่วยงานที่สำคัญ ที่จะสร้างการเมืองที่พัฒนาของชาติต่อไป แต่พฤติกรรมของ
คณะกรรมการ คงหวังพึ่งพาอะไรไม่ได้ พวกท่านน่าจะพิจารณาตัวเองกันบ้างนะ
วันเดียวกันนั้น ข้าพเจ้าได้ทำหนังสือร้องเรียนการใช้เงินในการทำประชามติจำนวน ๓,๐๐๐ ล้านบาท ของกกต.ไปยังสำนักงานคณะกรรมการตรวจเงินแผ่นดิน ท่านศาสตราจารย์พิเศษชัยสิทธิ์ ตราชูธรรม ประธานกรรมการตรวจเงินแผ่นดิน ตอบมาว่า ได้สั่งการให้ผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน พิจารณาดำเนินการแล้ว ข้าพเจ้าต้องขอขอบคุณและชื่นชมการทำงานของสำนักงานตรวจเงินแผ่นดินของชาติว่า คงเป็นที่พึ่งพาตรวจสอบความโปร่งใสของการใช้จ่ายเงินงบประมาณแผ่นดินให้ประชาชนได้อุ่นใจได้
และขอตำหนิคณะกรรมการ ป.ป.ช.ว่า เป็นผู้ทำงานเพื่อชาติ เพื่อแผ่นดิน แต่มีความขุ่นมัวไม่โปร่งใส หมกเม็ดปล่อยคดีขาดอายุความ มิใช่การทำงานในตำแหน่งหน้าที่ด้วยการบริหารราชการแผ่นดินที่ถูกต้องและชอบธรรม (พร้อมกันนี้ ขอนำหนังสือสตง.มาแสดงไว้ด้วย)
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี