โครงการรณรงค์ปลูกป่าประชารัฐฟื้นฟูต้นน้ำยม จัดขึ้นเป็นปีที่ 2 ใน อ.ปง จ.พะเยา เมื่อ 13-14 ส.ค. ที่ผ่านมา ภายใต้ความร่วมมือระหว่างกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช, ชมรมคอลัมนิสต์ นักจัดรายการวิทยุและโทรทัศน์ไทย, กองทัพภาคที่ 3, การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.), การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) ฯลฯ ร่วมกับจังหวัดพะเยา, องค์การบริหารส่วนท้องถิ่น และชาวบ้านในพื้นที่
ทริปนี้มีการเชิญผมไปด้วย แต่ผมติดภารกิจอื่นล่วงหน้าแล้ว จึงขอชดเชยกิจกรรมช่วยประชาสัมพันธ์ย้อนหลังนะครับ
งานนี้ นายจรัญ กาญจนปัญญานนท์นายอำเภอปง กล่าวในฐานะผู้แทนของนายณรงค์ศักดิ์ เฉลิมเกียรติ ผวจ.พะเยา เจ้าของพื้นที่อธิบายว่า บริเวณพื้นที่ อ.ปง ซึ่งเป็นจุดรวมของลำน้ำควรและลำน้ำงิม อันเป็นต้นกำเนิดของแม่น้ำยม 1 ใน 4 แม่น้ำสายสำคัญของประเทศ เป็นเพียงแม่น้ำสายเดียวที่ ไม่มีเขื่อนและอ่างเก็บน้ำที่สามารถจะกักเก็บน้ำไว้ใช้ในยามจำเป็นของเกษตรกรและชาวชุมชนใน 7 หมู่บ้าน 88 ตำบล หรือราว 52,000 คนอย่างเพียงพอ และความร่วมมือที่เกิดขึ้นในครั้งนี้จะนำไปสู่การรักษาน้ำต้นทุน รวมถึงเป็นการสร้าง กระตุ้น และปลุกจิตสำนึกของทุกฝ่าย ได้หันมาให้ความสนใจและความสำคัญกับการปลูกป่าและฟื้นฟูแหล่งน้ำ โดยเฉพาะโครงการนี้ถือเป็นการจุดประกาย “การปลูกป่าในใจคน” ของชาว อ.ปง และพี่น้องชาว จ.พะเยา
นายวรวิทย์ บุรณศิริ นายก อบจ. พะเยา กล่าวว่า ทุกวันนี้ จ.พะเยา มีน้ำต้นทุนที่ไหลมาจากภูเขาย่อยของเทือกเขาผีปันน้ำแต่ละปีมากกว่า 1,000 ล้าน ลบ.ม. แต่เนื่องจากบริเวณต้นน้ำนมแห่งนี้ไม่มีเขื่อนและฝายสำหรับกักเก็บน้ำ ทำให้มวลน้ำส่วนใหญ่ไหลลงแม่น้ำสายสำคัญและออกสู่ทะเลโดยเปล่าประโยชน์ และบางครั้งมวลน้ำที่ว่านี้ อาจไหลไปรวมกับมวลน้ำก้อนอื่นๆ ทำให้เกิดปัญหาน้ำท่วมบ้านเรือน เรือกสวนไร่นาในพื้นที่ตอนล่าง อันเป็นปลายทางของน้ำที่ไหล ไม่ว่าจะในพื้นที่ภาคกลางหรือแม้แต่กรุงเทพฯและปริมณฑลตามมา
“ทุกวันนี้ เกษตรกรและพี่น้องชาว อ.ปง ได้ใช้ประโยชน์จากแหล่งน้ำต้นทุนเพียง 19 ล้าน ลบ.ม. หรือราว 19% เท่านั้น ดังนั้น ทาง จ.พะเยา จึงมีแนวคิดที่จะจัดสร้างอ่างเก็บน้ำ 2-3 แห่ง ซึ่งไม่เพียงจะเป็นการกักเก็บน้ำไว้ในยามจำเป็น ทั้งเพื่อการเกษตร อุปโภคและบริโภค หากยังเป็นการวางแผนรับมือในยามที่มีมวลน้ำมากเกินปกติ อันเป็นการสร้างความเชื่อมั่นด้านการวางแผนและบริหารจัดการน้ำแก่พี่น้องชาวบ้านใน อ.ปง และชาว จ.พะเยา อีกทั้งยังเป็นสร้างหลักประกันด้านความปลอดภัยแก่พี่น้องในพื้นที่ตอนล่างของจังหวัดต่างๆ ตามเส้นทางน้ำไหลผ่านอีกด้วย” นายก อบจ.พะเยา ระบุ
ขณะที่นายณรงค์ ปานนอก ประธานชมรมคอลัมนิสต์ นักจัดรายการวิทยุและโทรทัศน์ไทย กล่าวในฐานะตัวแทนกลุ่มคน องค์กรและหน่วยงานนอกพื้นที่ว่า นับเป็นความสำเร็จในเบื้องต้นกับความร่วมมือของทุกภาคส่วน ต่อการจะฟื้นฟูต้นน้ำยม ผ่านการปลูกป่าเพื่อฟื้นคืนธรรมชาติ และสร้างฝายน้ำล้นเพื่อการบริหารน้ำอย่างมีความเหมาะสม ซึ่งชมรมคอลัมนิสต์ฯ พร้อมจะประสานความร่วมมือของทุกภาคส่วนในการเพิ่มพื้นที่ป่าและเพิ่มจำนวนฝายน้ำล้นให้ได้มากยิ่งขึ้นในปีต่อๆ ไ ป
อนึ่งในวันแรกของโครงการนี้ ทางชมรมคอลัมนิสต์ฯและพันธมิตรจากหน่วยงานและองค์กรต่างๆ ได้รับความร่วมมือด้วยดี ทั้งจากส่วนราชการต่างๆ ใน จ.พะเยา องค์กรบริหารการปกครองส่วนท้องถิ่น ผู้นำชุมชนและชาวบ้านในพื้นที่เป็นอย่างดี โดยการจัดเตรียมข้าวปลาอาหารและเครื่องดื่มไว้คอยต้อนรับ รวมถึงจัดแสดงการร่ายรำของนักเรียนจาก โรงเรียนปงรัชดาภิเษก รวมทั้งยังได้รับความเมตตาจากพระเดชพระคุณจากพระราชมงคลวิสุทธิ์ ที่ปรึกษาเจ้าคณะจังหวัดพะเยาและเจ้าอาวาสวัดบุญเกิด และพระครูธรรมโสภิต เจ้าอาวาสวัดนาอ้อม และเจ้าคณะตำบลขุนควร ด้วยเทศนาและนำสวดมนต์ ก่อนปล่อยปลากินพืช อาทิ ปลาตะเพียนและปลายี่สกนับหมื่นตัว และมีการแจกทุนการศึกษาให้กับนักเรียนในพื้นที่ โดยมี ธรรมรัตน์ เทพหัสดิน ณ อยุธยา เป็นผู้ประสานงาน
ครับ อนุรักษ์ป่า อนุรักษ์น้ำดูแลสิ่งแวดล้อม ที่ดีเก็บไว้เป็นมรดกคนรุ่นต่อไป เป็นเรื่องที่คนไทยทุกคนต้องช่วยๆ กัน
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี