ปรองดอง-ปฏิรูป-ปาหี่
เรียน คุณวิภาวดีฯ ที่นับถือ
วันนี้อาบังขอกล่าวถึงเรื่องสาม ปอ.
ป.แรกก็คือ ปรองดองที่แป๊ะน้องประกาศก้อง“ไม่ปรองดองไม่เลือกตั้ง”ซึ่งอาบังก็มองไม่เห็นว่า จะปรองดองกับใคร จะปรองดองอย่างไร และจะปรองดองเพื่ออะไร เพราะถ้าจะปรองดองเพื่อให้สามารถจัดการเลือกตั้งได้ ก็ไม่มีประโยชน์ หลังเลือกตั้งก็ทะเลาะกันอีกเพราะแบ่ง“เค้ก”ไม่ลงตัว และถ้าประเมินจากผลงานของป.ป.ช.ที่ทำการปรองดองระหว่างความต้องการของประชาชนกับความต้องการของแป๊ะใหญ่ ด้วยการยื่นอุทธรณ์เฉพาะ ผบ.ชน.ไม่ยื่นอุทธรณ์นายกฯและ ผบ.ตร. กับผลงานของเนติบริกรที่ย้ายสอง ผอ.พศ. คนแรกที่ถูกย้ายเพราะเป็นลูกศิษย์หลวงตาบัว ผอ.พศ.คนที่สองที่ถูกย้ายเพราะทำตามรายการคุณขอมาของบิ๊กขมิ้นที่ไม่ต้องการให้ปราบโกงในดงขมิ้น
ทั้งสองเรื่องนี้เป็นการปรองดองที่ไร้ธรรมาภิบาลที่สุด ซึ่งก็ไม่แตกต่างกับการปรองดองทางการเมืองที่ต้องแลกด้วยผลประโยชน์ของชาติและความยุติธรรม ดังนั้นจึงไม่คิดว่าการเลือกตั้งที่ได้มาด้วยการปรองดองที่ไร้ธรรมาภิบาลและไร้ความยุติธรรม จะก่อให้เกิดประโยชน์อันใดกับชาติไทย
การปฏิรูปก็มิได้เป็นหลักประกันว่าอะไรจะดีขึ้น โดยดูได้จากการปฏิรูปรถเมล์ของ ขสมก.ที่เสียเงินไป ๒๖ ล้านบาท ด้วยการเปลี่ยนหมายเลขของรถเมล์สายต่างๆ ซึ่งเอาระบบของฝรั่งมังค่าที่นักการเมืองหรือข้าราชการของกทม.ไปดูงาน(ทัวร์)ด้วยงบประมาณของกทม.หรือขสมก. กลับมาก็ต้องสร้างผลงานด้วยการก๊อบปี้ฝรั่ง เช่นเดียวกับการเปิดไฟหน้ารถกลางวันเพราะไปดูงานรัฐทางเหนือของมะกันที่มีอากาศหนาวเย็น กลางวันมีหมอก ดังนั้นการเปิดไฟหรี่ ก็จะช่วยให้รถที่สวนมามองเห็นได้ เช่นเดียวกับเมื่อฝนตกหนัก แต่ในสภาวะปกติของประเทศไทยนั้น ทัศนวิสัยชัดเจน การเปิดไฟในเวลากลางวันนอกจากจะไม่ช่วยให้ทัศนวิสัยดีขึ้น กลับจะเลวลงเพราะ“แสบตา” เหมือนเช่นเมื่อแดดกระทบโคมเมี่ยมแล้วสะท้อนเข้าตา
การปฏิรูปรถเมล์ ขสมก.จึงไม่ก่อให้เกิดประโยชน์อันใด เพราะทำให้คนไทยที่ใช้บริการสับสน เพราะการแบ่งโซนรถเมล์ด้วยการกำหนดด้วยอักษรโรมันนำหน้าตัวเลขนั้น ทำให้คนไทยต้องจำมากขึ้น และไม่มีประโยชน์ในการให้บริการแต่อย่างใด ดังนั้นจึงต้องกลับมาใช้ระบบเก่า ด้วยการใช้ตัวเลขอย่างเดียว ซึ่งก็เป็นตัวอย่างที่ดีที่แสดงว่า การปฏิรูปอาจจะเป็นการกระทำที่เรียกว่า“ถอยหลังลงคลอง”ได้ ซึ่งเชื่อว่าประชาชนส่วนใหญ่ก็หมดหวังกับการปฏิรูปแล้ว เพราะดูเหมือนว่าระบบอุปถัมภ์จะเป็น“จระเข้ขวางคลอง”ในทุกๆ เรื่อง ดูได้จากการโยกย้าย ผอ.พศ.ที่ขัดขวางการทุจริตคอร์รัปชั่นในดงขมิ้น เพราะหวังผลในการปรองดองกับอลัชชีดงขมิ้นมากกว่าต้องการปฏิรูปและปราบปรามทุจริตคอร์รัปชั่น
ปาหี่ ที่ดูเหมือนกว่าประชาชนจะรู้ว่ากำลังดูปาหี่วงใหญ่ ก็ต้องใช้เวลานาน เพราะเมื่อแป๊ะเล็กนิยม “ลับลวงพราง”ทำให้ประชาชนไม่ทราบว่าเจตนาที่แท้จริงของแป๊ะเล็กคืออะไร เมื่อครั้งที่แป๊ะเล็กตั้งโจทย์ว่าปัญหาต่างๆเกิดขึ้นเพราะประชาชนทะเลาะกัน ประชาชนก็ยังเชื่อว่าแป๊ะเล็กต้องการลวงให้ทรราชตายใจ แล้วจะใช้ยุทธศาสตร์“น้ำร้อนปลาเป็นน้ำเย็นปลาตาย”ไว้เชือดนิ่มทรราช แต่จากผลงานของ ป.ป.ช.ที่ทำให้ “ดีลยูสทูโกลด์”ฮิตติดตลาด เพราะยังมีข่าวการนัดพบที่ลอนดอนบริดจ์ตามมาอีก ทำให้วันนี้ประชาชนเริ่มเชื่อแล้วว่ากำลังดูปาหี่คณะสามแป๊ะ ทำให้ไม่สนใจเรื่องการปรองดองและการปฏิรูปและยุทธศาสตร์แห่งชาติ เพราะเชื่อว่าผลงานก็คงไม่แตกต่างจากการปฏิรูปสายรถเมล์ของ ขสมก.
อย่างไรก็ตามการที่คณะสามแป๊ะรับแต่ชอบ ไม่ยอมรับผิด โยนให้เป็นความผิดของลูกน้องหมด ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการหลบหนีของนางดอกไม้และเรื่องให้บริษัทอิทธิพลเช่าที่ป่านั้นเป็นการสร้างบรรทัดเบี้ยว และ“เตะหมูเข้าปากหมา”เพราะลูกน้องที่เป็นพวก นกสองหัว หมาสองราง คนเหยียบเรือสองแคมอาจจะย้ายข้างไปสังกัดฝ่ายทรราช เพราะได้มากกว่าเมื่ออยู่กับสามแป๊ะ นอกจากนั้นประชาชนก็จะมองว่าทั้งทรราช ทั้งสามแป๊ะก็ “แปะเอี้ยะ”เซมเซม แล้วยังปรองดองเป็นพันธมิตรทางการเมืองกันอีก
อาบังตา
ตอบ คุณอาบังตา
อาการของความไม่เชื่อถือที่มีต่อคณะสามแป๊ะดูจะทวีเพิ่มขึ้น เรียกได้ว่าเป็นปรากฎการณ์“ขาลง”ก็ว่าได้ เรื่องปรองดองก็คงไม่มีหวังมากนัก ขณะที่“ปฏิรูป”นับวันก็ยิ่งกลายเป็นเรื่องที่ทำให้รู้สึกว่าเป็นแค่“ปาหี่”ต้มคนดู ต้มคนไทยมากกว่าจะนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงสู่สิ่งที่ดีกว่า สู่สังคมที่ดีกว่าได้จริงๆ ซึ่งความรู้สึกที่ว่า ทรราชหรือสามแป๊ะ ก็“แปะเอี้ยะ”เซมเซมเหมือนกันนี้ ผมถือว่าอันตรายมาก จะทำให้คนหมดหวัง หมดศรัทธาในที่สุด
วิภาวดี หลักสี่
ถวายความจงรักภักดีสมเด็จพ่อร.๙
เรียน ท่านบก.และทีมงานนสพ.แนวหน้าที่เคารพรักและนับถือ
ผมขอส่งบทกลอนมาเพื่อพิจารณาลงที่นี่แนวหน้า เพื่อถวายความจงรักภักดีสูงสุดต่อสมเด็จพ่อ ร.๙ ร่วมกับท่านผู้บริหารและสมาชิกผู้อ่านหนังสือพิมพ์ของเรา แล้วแต่ท่านจะพิจารณาเห็นสมควรครับ
...................
*ยี่สิบเก้าตุลามาศ มหาราชเจ้า ปวงชนเศร้าโศกาลัย ทั่วไทยผอง
พระเสด็จสวรรคาลัยในทิพย์ทอง โลกแซ่ซ้องสรรเสริญ เจริญคุณ
*ดุจตะวันลับฟ้า มาลาลัย จันทราดับกับเมฆา ฟ้ามืดหมุน
ดั่งแสงฟ้าผ่าดวงใจ สิ้นใบบุญ โอ้พระคุณ สุดจะสรรพรรณนา
*ไทยทั่วทิศหลั่งน้ำตา โศกาลัย สุดเสียใจ พระทรงชัย สุดใฝ่หา
สิ้นกษัตริย์เหนือกษัตริย์ขัตติยา บุญคู่ฟ้า คู่แผ่นดิน คู่ถิ่นไทย
*เกิดชาติใด ภพใด ได้พบพักตร์ ทั่วโลกรัก สรรเสริญพระองค์ มั่นคงไฉน
ดวงพระวิญญาณสถิตฟ้า สุธาลัย ขอรองบาท พระจอมไท ใจภักดี
ข้าพระพุทธเจ้า ผศ.ประเสริฐ เนื้อทอง
ร้อยกรองถวายในนามผู้บริหาร กรรมการผู้จัดการ และสมาชิกผู้อ่าน นสพ.แนวหน้า ด้วยความจงรักอันหาที่สุดมิได้
สวัสดีปีใหม่อิสลาม
บก. หนังสือพิมพ์ แนวหน้า
สวัสดีปีใหม่อิสลาม
( ฮิจเราะห์ 1439 )
ฮิจเราะห์เก่าเราลาก่อน ในตอนนี้ ขอลาทีปฏิทิน สิ้นสุดหนอ
ฮิจเราะห์ใหม่ในอิสลาม ตามมารอ ทำดีต่อ ข้อศาสนาอย่าปล่อยวาง
สวัสดีปีใหม่ ในอิสลาม ฟ้างดงามตามวิถี มีผู้สร้าง
เริ่มฮิจเราะห์ 1439 เราเดินทาง อยู่เคียงข้าง สร้างกุศลบนศรัทธา
วันที่ 1 มุฮัรรอม พร้อมเริ่มแล้ว เดือนเพริศแพร้ว แนวอิสลามงามสง่า
12 เดือนมาเยือนอยู่ สู่ชายคา เราตั้งท่า หากินไปในสังคม
อวยพรกันวันนี้ ขึ้นปีใหม่ มุสลิมไทยในทุกที่ ดีสุขสม
ดีต่อใจ ใครคิดดีไม่มีตรม รักรื่นรมย์สมดั่งใจ ให้สุขจริง
ใช้ชีวิตคิดดี มีศาสนา อีหม่านมา ศรัทธามี จะดียิ่ง
ทำอะมั้ล อิบาดะห์ อย่าประวิง จงละทิ้งสิ่งเลวทราม ห้ามปรามกัน
สวัสดีปีใหม่ ในอิสลาม ชีวิตงามตามศาสนา พามุ่งมั่น
คนคิดดี มีหัวใจไม่ดึงดัน ทำดีนั้น สวรรค์มี สุขชีวา
ฮิจเราะห์ใหม่ ปีใหม่ด้วย สวยงามท่าน ทำกิจการงานใด ให้ก้าวหน้า
อวยพรให้ไทยทุกคน บนดุนยา สุขหรรษา“อัลเลาะห์องค์” ทรงปรานี...
ฮัจญี สมศักดิ์ บุญมาเลิศ
ประธานชมรมนักกลอนบึงกุ่มวรรณศิลป์ กทม.
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี