Irina Bokova เลขาธิการยูเนสโก ถวายคำสดุดีต่อพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ต่อหน้าในการประชุมใหญ่ประจำปีของ UNESCO เมื่อวันที่ 26 กันยายน 2560 ซึ่งเป็น World Peace Day (วันสันติภาพโลก) ณ กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส
เดือนตุลาคมนี้เป็นเดือนสำคัญของชาวไทยและประเทศไทยที่จะมีพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช
ในช่วง 1 ปีที่ผ่านมา คนไทยและคนทั่วโลกแสดงความอาลัยถึงพระองค์ท่านอย่างหาที่สุดไม่ได้
จากในฐานะที่ผมเป็นกรรมการระดับชาติจากประเทศไทยสาขาสังคมศาสตร์ของ UNESCO ขอกล่าวถึงเหตุการณ์ที่ Paris เมื่อวันที่ 26 กันยายนที่ผ่านมา UNESCO จัดพิธีเทิดพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช โดยเลขาธิการ UNESCO คือคุณ Irina Bokova ได้กล่าวสดุดีพระองค์ท่านต่อหน้าในการประชุมใหญ่ประจำปีของ UNESCO และเป็นวันสำคัญคือเป็น World Peace Day (วันสันติภาพโลก)
ในระดับ UN กล่าวสดุดีพระองค์ท่านอย่างสมพระเกียรติเมื่อวันที่ 28 ตุลาคม 2559 ซึ่งในช่วงนั้น อดีตเลขาธิการ Ban Ki-moon ได้ทำหน้าที่กล่าวสดุดีพระองค์ท่าน
ก่อนหน้านั้น เลขาธิการ Irina Bokova ก็ยังได้เดินทางมาเมืองไทยมาแสดงความอาลัยด้วยความจงรักภักดีและวางพวงมาลาถวายพระบรมศพที่พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท
ที่ UNESCO ถวายคำสดุดีพระองค์ท่าน ผมขอหยิบยกคำพูดบางตอนที่มีคุณค่าต่อคนไทยเพื่อจะได้จดจำและนำมาคิดปฏิบัติ
ประเด็นแรก ท่านเลขาธิการได้เน้นว่า ปรัชญาของพระองค์ท่านไม่ใช่มีคุณค่าต่อคนไทยเท่านั้น แต่มีคุณค่าต่อคนทั่วโลก โดยเฉพาะเรื่องเศรษฐกิจพอเพียงอันเป็นแบบอย่างที่ดีต่อการดำรงชีวิตของคนในโลกเพื่อจัดการกับปัญหาต่างๆ เช่น ความยากจน ปัญหาสงคราม อยู่อย่างยั่งยืน และมีความสุข ความสงบอย่างพอประมาณของประชากรในแต่ละประเทศ
การยกย่องแนวทางนี้ทำให้เห็นถึงความลึกซึ้งของ UNESCO ที่เห็นถึงพระปรีชาสามารถอย่างล้ำลึกของพระองค์ท่าน
ประเด็นที่ 2 พระองค์ท่านได้ทรงทิ้งมรดกไว้ให้แก่มนุษยชาติในโลกนี้ ภาษาอังกฤษคือ Legacy of Global Humanity แปลว่า ปรัชญาของท่านได้พระราชทานมรดกความคิดไว้ให้มนุษยชาติในโลกอย่างมีคุณค่าเป็นที่ภาคภูมิใจอย่างยิ่งแก่คนไทย
ประเด็นที่ 3 ที่ท่านเลขาธิการได้พูดถึงคือพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช เติบโตมาจากโลกตะวันออกซึ่งแตกต่างจากโลกตะวันตก พระองค์ท่านยังทรงทิ้งมรดกของพลังความดีให้โลกได้นำไปใช้ ซึ่งท่านเลขาธิการเรียกว่า “Soft Power” พลังที่วัดไม่ได้แต่มีคุณค่าต่อประเทศในโลก Soft Power เน้นที่จิตใจ ความดีงามมากกว่าพลังทางด้านการทหาร การห้ำหั่นโดยใช้อำนาจ หรือพลังที่เกิดจากความยิ่งใหญ่ของเศรษฐกิจ GDP หรือวัตถุนิยม ซึ่ง Hard Power ของตะวันตกมีปัญหาขัดแย้งในโลกปัจจุบัน
ที่ผมภูมิใจมากที่สุดคือท่านเลขาธิการได้เน้นแก่นของ UNESCO ในเรื่อง Lifelong Learning การเรียนรู้ตลอดชีวิต ซึ่งท่านได้ยกย่องพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 ทรงเป็นตัวอย่างของการเรียนรู้ตลอดชีวิต พระองค์ทรงเรียนจากความจริงและนำความรู้ดังกล่าวไปช่วยคนที่อยู่ข้างล่างของพีระมิด คือคนที่เสียเปรียบในสังคมให้คนเหล่านี้พึ่งตนเอง Self-reliance ได้
ทั้งหมดนี้เป็นเพียงส่วนหนึ่งเท่านั้นของการเทิดพระเกียรติของ UNESCO และในวันเดียวกันนั้น มีงานที่ผมได้รับเชิญจากดร.ปรารถนา ศรีสุข เป็นวิทยากรในโครงการ “UTK Share Learning for Postgraduate Student Exchange UNSIKA, Indonesia.” มีนักศึกษาปริญญาโทจากอินโดนีเซีย 60 คน ที่มาฟังบรรยายในเรื่อง การบริหารความยั่งยืนในระดับโลก Global Sustainability ซึ่งผมก็นำเศรษฐกิจพอเพียงของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มาเป็นตัวอย่าง และขอให้นักศึกษาอินโดนีเซียกว่า 60 คน ทำ Workshop ร่วมกัน
มีกลุ่มหนึ่งกล่าวว่า ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงซึ่งเป็นของคนไทย คนในเอเชียจะได้ประโยชน์มากด้วยตรงกันข้ามกับปรัชญา “ทุนนิยมสามานย์” ของตะวันตกที่เน้นความโลภ ความร่ำรวย แต่ไม่คิดถึงคนยากจนและคนที่ไม่มีโอกาส
ซึ่งคำพูดเหล่านี้ได้เห็นแล้วว่า ถึงแม้พระองค์ท่านเสด็จสวรรคตไปแล้ว แต่ปรัชญาต่างๆ ยังอยู่กับเราและคนในโลกแน่นอน
จึงอยากจะแบ่งปันให้ผู้อ่านได้ทราบว่าประเทศระดับอาเซียนก็เทิดพระเกียรติยกย่องพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 ไม่น้อยไปกว่า UNESCO
จีระ หงส์ลดารมภ์
dr.chira@hotmail.com
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี