สังคมกำลังจับตาไปที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เป็นจุดเดียวว่า จะปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) เล็กหรือปรับใหญ่หลังการลาออกจากเก้าอี้รมว.แรงงานของ พล.อ.ศิริชัย ดิษฐกุล ท่ามกลางกระแสเรียกร้องจากหลายฝ่ายให้ พล.อ.ประยุทธ์ถือโอกาสปรับคณะรัฐมนตรีทีมเศรษฐกิจครั้งใหญ่เพื่อปรับเปลี่ยนรัฐมนตรีโดยเฉพาะด้านเศรษฐกิจที่ล้มเหลวในการแก้ปัญหาพืชผลการเกษตรตกต่ำและปัญหาปากท้องของประชาชน
แม้แต่ นายถาวร เสนเนียม อดีตแกนนำกปปส. ซึ่งเป็นเสมือนมือขวาของ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ อดีตผู้นำมวลมหาประชาชนกปปส. ที่ปกติเชียร์คสช.และนายกฯบิ๊กตู่เต็มตัวโดยหวังให้อำนาจรัฐคสช.ปฏิรูปประเทศครั้งใหญ่ขจัดสิ่งเลวร้ายที่พรรคธุรกิจการเมืองทุนสามานย์ในคราบประชาธิปไตยจอมปลอมซึ่งเป็นต้นเหตุของวิกฤติบ่อนทำลายชาติบ้านเมืองจนบอบช้ำอย่างหนักตลอดกว่า 10 ปีที่ผ่านมา เพื่อสร้างบ้านเมืองให้เป็นประชาธิปไตยที่แท้จริงให้สำเร็จ แต่ครั้งนี้แกนนำกปปส.กลับสุดทนต่อความล้มเหลวในการแก้ปัญหาเศรษฐกิจของรัฐบาลถึงกับออกมาส่งเสียงดังๆ เรียกร้องให้ พล.อ.ประยุทธ์ เลิกเกรงใจเพื่อนพ้องน้องพี่แล้วกล้าที่จะปรับคณะรัฐมนตรีครั้งใหญ่โดยเฉพาะ พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รมว.เกษตรและสหกรณ์ และ นางอภิรดี ตันตราภรณ์ รมว.พาณิชย์ เนื่องจากกว่า 3 ปีที่ผ่านมา พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่า รัฐบาลล้มเหลวอย่างสิ้นเชิงในการแก้ปัญหาราคาพืชผลการเกษตรทั้งข้าวและยางตกต่ำ รวมทั้งปัญหาเศรษฐกิจฝืดเคืองและค่าครองชีพที่สูงขึ้น โดยปัจจุบันราคาข้าวหอมราคาเหลือแค่ตันละ 5,000 กว่าบาท ขณะที่ราคายางตกต่ำเป็นประวัติศาสตร์เหลือแค่กก.ละ 40 บาท
การที่ นายถาวร ซึ่งปัจจุบันกลับมาสังกัดพรรคประชาธิปัตย์ออกมาส่งสัญญาณจี้ก้นให้นายกฯลุงตุ่ปรับครม.ใหญ่โดยพุ่งเป้าไปที่ พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รมว.เกษตรและสหกรณ์ และ นางอภิรดี ตันตราภรณ์ รมว.พาณิชย์ เนื่องจากวิกฤติราคาพืชผลการเกษตรตกต่ำและปัญหาค่าครองชีพที่สูงขึ้นสร้างความไม่พอใจต่อเกษตรกรโดยเฉพาะชาวสวนยางในภาคใต้เป็นอย่างมากจากปัญหาราคายางที่ตกต่ำอย่างไม่เคยมีมาก่อน ทั้งนี้ภาคใต้ถือเป็นฐานที่มั่นสำคัญของกปปส.และพรรคประชาธิปัตย์ ดังนั้น นายถาวร จึงเหลืออดต้องออกมาจี้ให้นายกฯลุงตู่ปรับครม.ทั้ง 2 กระทรวงก่อนที่สถานการณ์จะลุกลามบานปลายเลวร้ายกว่านี้
ข้อเรียกร้องของ นายถาวร เผอิญสอดคล้องกับผลสำรวจของนิด้าโพลเมื่อเดือนก.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งสอบถามความเห็นประชาชนเรื่องการปรับคณะรัฐมนตรีปรากฏว่า ประชาชนส่วนใหญ่กว่าร้อยละ 80 เห็นด้วยที่จะปรับคณะรัฐมนตรีโดยรัฐมนตรี 2 อันดับแรกที่สมควรปรับก็คือ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ รองลงมาคือรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์
แนวโน้มปรับครม.ประยุทธ์ 5 ที่จะมีขึ้นคาดว่า พล.อ.ประยุทธ์ น่าจะถือโอกาสปรับใหญ่หลายตำแหน่งเพื่อลดแรงเสียดทาน และสำคัญมีรายงานข่าวว่าผู้ใหญ่ในบ้านเมืองได้เรียกนายกฯลุงตู่ไปพบและเสนอแนะว่าควรปรับครม.ในบางกระทรวงเนื่องจากพบเบาะแสที่ส่อไปในทางไม่โปร่งใส ขณะที่บางกระทรวงบริหารงานไร้ประสิทธิภาพ ซึ่งหากปล่อยให้เป็นเช่นนี้ต่อไปจะทำให้ประชาชนเสื่อมความศรัทธาต่ออำนาจรัฐคสช.และหันกลับไปพึ่งรัฐบาลธุรกิจการเมืองทุนสามานย์ในคราบประชาธิปไตยจอมปลอมซึ่งจะทำให้การปฏิรูปประเทศเสียของ ขณะที่บ้านเมืองกลับไปสู่วังวนของวงจรอุบาทว์อันชั่วร้ายอันเป็นต้นตอของวิกฤติชาติตลอดช่วงกว่า 10 ปีที่ผ่านมาอีก
จากผลสำรวจความเห็นของประชาชนทั่วประเทศของศูนย์วิจัยหลายสำนักสะท้อนปฏิกิริยาของประชาชนส่วนใหญ่อย่างสอดคล้องกันต้องการให้มีการปลดล็อกการเมือง และที่สำคัญผลสำรวจความศรัทธาของประชาชนที่มีต่อ พล.อ.ประยุทธ์ ลดฮวบลงอย่างมีนัยสำคัญโดยจากผลสำรวจของซูเปอร์โพลล์ชี้ว่าเสียงสนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ จาก 78.4% เมื่อเดือนก.ค.ที่ผ่านมา เหลือเพียง 52% ในเดือนพ.ย.
ดังนั้นการปรับครม.ประยุทธ์ 5 ครั้งนี้ถือเป็นโอกาสสุดท้ายซึ่งพล.อ.ประยุทธ์ต้องเลิกเกรงใจเพื่อนพ้องน้องพี่แล้วหันมายึดชาติและประชาชนเป็นที่ตั้งโดยจะต้องปรับเปลี่ยนรัฐมนตรีที่ผลงานสอบตกเป็นตัวถ่วง หรือมีเบาะแสไม่สุจริตแล้วดึงนักบริหารมืออาชีพซึ่งเป็นที่ยอมรับเชื่อถือในสายตาสาธารณชนเข้ามาทำหน้าที่ในช่วงจุดเปลี่ยนสำคัญทั้งต่ออนาคตชาติบ้านเมือง เพราะหากไม่มีการผ่าตัดแปลงโฉมครม.ครั้งใหญ่โดยเฉพาะรัฐมนตรีด้านเศรษฐกิจ หรือปรับแล้วยังแก้ปัญหาปากท้องของประชาชนไม่ได้ซ้ำยังมีเรื่องความไม่โปร่งใสของคนในอำนาจรัฐนั่นหมายถึงการยึดอำนาจเพื่อปฏิรูปประเทศเสียของสิ้นเชิงเพราะจะเกิดวิกฤติศรัทธาของมวลมหาประชาชนต่อคสช.แล้วหันกลับไปพึ่งพาเหล่านักธุรกิจการเมืองในคราบประชาธิปไตยจอมปลอมซึ่งอนาคตหนีไม่พ้นกลับไปสู่วังวนวงจรอุบาทว์แบบเดิมๆ
ทีมข่าวการเมือง
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี