เมื่อเร็วๆ นี้นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยในการปาฐกถาพิเศษ “พลิกโฉมเศรษฐกิจไทยสู่ยุคดิจิทัล “จัดโดยสมาคมผู้สื่อข่าวเศรษฐกิจ โดยยืนยันเศรษฐกิจไทยกำลังขยายตัวอย่างต่อเนื่อง เพราะมีการลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน
ขณะเดียวกันรัฐบาลก็ต้องเร่งปฏิรูปทุกภาคส่วนให้มีศักยภาพมากขึ้น
ส่วนนายอุตตม สาวนายน รมว.อุตสาหกรรม กล่าวว่า เศรษฐกิจไทยกำลังเข้าสู่ยุคดิจิทัล ผู้ประกอบการต้องปรับตัวให้ทันกับยุค อย่างเต็มกำลัง
งานนี้งานใหญ่ครับ โดยเฉพาะกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม (กสอ.) ที่นำนโยบายไปปฏิบัติ ซึ่งได้เร่งเครื่องมาตั้งแต่ปีที่แล้ว โดยมี นายกอบชัย สังสิทธิสวัสดิ์ อธิบดี กสอ.เป็นแม่ทัพใหญ่
ไปดูเขาทำงานกัน คือในงาน แถลงข่าว DIP : Transform For SMEs 4.0 ในปี 2561 กสอ. ได้วางแผนกลยุทธ์ เพื่อเป็นเครื่องมือสำคัญในการส่งเสริมและพัฒนา SMEs ในยุค 4.0 ภายใต้แนวคิด 4 TOOL กับ 1 Strategy ประกอบด้วย
1. TOOL : IT จะให้บริการ ด้านการพัฒนาระบบข้อมูลและสารสนเทศ
2. TOOL : Automation การพัฒนาระบบการผลิต เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการผลิต
3. TOOL : Robot ลดการใช้แรงงานในกระบวนการผลิต
4.TOOL : Innovation การพัฒนานวัตกรรม เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่ม
และอีก 1 Strategy มุ่งพัฒนาการรวมกลุ่มอุตสาหกรรม หรือ Cluster ซึ่งเป็นอีกหนึ่งกลยุทธ์ที่สำคัญในการต่อยอดของ SMEs ไทยให้เข้มแข็ง และได้เตรียมวงเงินสนับสนุนภายใต้ กองทุนพัฒนาเอสเอ็มอีตามแนวประชารัฐวงเงิน 20,000 ล้านบาท ที่จะดำเนินการต่อจากปีที่แล้ว ที่สนับสนุนเอสเอ็มอีไป 6,000 ล้าน ยังเหลืออีก 14,000 ล้านบาท แบ่งเป็นวงเงิน 8,000 ล้านบาท เพื่อช่วยเหลือ SMEs รายจิ๋ว/รายเล็ก (Micro SMEs) ที่มีการประกอบกิจการและขึ้นทะเบียนทางการค้า โดยมีเงื่อนไขการปล่อยกู้ไม่เกิน 1 ล้านบาทต่อราย อัตราดอกเบี้ยต่ำเพียง 1% ซึ่งในขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาการกำหนดเกณฑ์และกรอบการปล่อยสินเชื่อ คาดว่าจะออกมาเร็วๆ นี้
ส่วนวงเงินที่เหลือประมาณ 6,000 ล้านบาท จะปล่อยสินเชื่อให้กับผู้ประกอบการ SMEs ที่มีศักยภาพ เพื่อนำไปปรับปรุงกิจการและพัฒนาธุรกิจ มีอัตราดอกเบี้ยต่ำเพียงร้อยละ 1% เช่นกัน ทั้งนี้ ในส่วนของผู้ประกอบการ SMEs ที่เข้าร่วมโครงการกองทุนพัฒนาเอสเอ็มอีตามแนวประชารัฐ จะได้รับคูปองเสริมแกร่งธุรกิจวงเงิน 30,000 บาทต่อราย เพื่อนำไปใช้บริการด้านการให้คำปรึกษาแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญ หรือใช้ในการวิเคราะห์ทดสอบผลิตภัณฑ์ จากหน่วยงานภาครัฐและเอกชนในเครือข่ายทั่วประเทศ
ขณะเดียวกัน ยังเตรียมเร่งดำเนินการขับเคลื่อน “มาตรการพิเศษ SMEs สู่ 4.0” ภายใต้แผนงานของกระทรวงอุตสาหกรรม 9 มาตรการ ทั้งในด้านการส่งเสริมและช่วยเหลือ SMEs ไม่ว่าจะเป็นการขยายศูนย์ปฏิรูปอุตสาหกรรม (ITC) จำนวน 23 แห่งทั่วประเทศ เพื่อรองรับการให้บริการ ด้าน Co-Working Space เครื่องจักรทันสมัย การออกแบบและพัฒนาผลิตภัณฑ์ การบริการปรึกษาเชิงลึก ผ่าน Expert Pool (ศูนย์รวมผู้เชี่ยวชาญ) เป็นต้น การบูรณาการศูนย์สนับสนุนและช่วยเหลือเอสเอ็มอี หรือ SSRC ให้เป็น 248 แห่ง โดยศูนย์ดังกล่าวจะเป็นการให้บริการผ่านระบบดิจิทัลที่มีรูปแบบมาตรฐานเดียวกัน จากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในด้านการพัฒนาธุรกิจในแต่ละพื้นที่ทั่วประเทศ ซึ่งจะทำให้เกิดการเชื่อมโยง ทางด้านข้อมูลผู้ประกอบการที่จะนำไปสู่การพัฒนาฐานข้อมูลขนาดใหญ่ของ SMEs ต่อไปด้วย
นอกจากนี้ ยังมีการส่งเสริมการใช้แพลทฟอร์ม T-Goodtech (ระบบเชื่อมโยงธุรกิจ และผู้ประกอบการไทย) เพื่อช่วยในการจับคู่ธุรกิจออนไลน์ (B2B)ระหว่างผู้ประกอบการไทยตั้งแต่ระดับต้นน้ำ - ปลายน้ำกว่า 1,400 ราย พร้อมเชื่อมต่อไปยังแพลทฟอร์ม J-Goodtech ของประเทศญี่ปุ่น ซึ่งจะทำให้ สินค้า SMEs ไทยมีความน่าเชื่อถือและขยายตลาดไปสู่ระดับสากลได้มากขึ้น
ขณะที่มาตรการเพื่อการพัฒนาเศรษฐกิจฐานราก (Local Economy) จะมีการเชื่อมโยงการพัฒนาอุตสาหกรรมกับการท่องเที่ยว ภายใต้โครงการหมู่บ้านอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ หรือ CIV โดยตั้งเป้าเพิ่มหมู่บ้าน CIV อีก 11 แห่ง จากที่นำร่องไปแล้ว 9 แห่ง และคาดหวังที่จะดำเนินการให้ครบ 67 หมู่บ้านทั่วประเทศ ภายในระยะเวลา 5 ปีข้างหน้า ซึ่งคาดว่าจะช่วยผลักดันให้เกิดมูลค่าอุตสาหกรรมชุมชน (OTOP) ในปี 2565 ได้กว่า 1 แสนล้านบาท
“แผนงานดังกล่าวเป็นเพียงส่วนหนึ่งที่ กสอ. จะดำเนินการในปีงบประมาณ 2561 ซึ่งจะเป็นส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ไทยแลนด์ 4.0 โดยเฉพาะการยกระดับรายได้ให้กับชุมชนเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจฐานราก” อธิบดี กสอ.ระบุ
ครับ บรรดาเอสเอ็มอี ทั้งหลายต้องติดตามให้ทัน ประเดี๋ยวจะตกขบวนในการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศ
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี