การที่ใครสักคนจะมีข้อเสนอ หรือข้อแนะนำต่อบรรดาพรรคการเมืองทั้งหลาย ก็ดูจะเป็นเรื่องแปลกแบบไม่เจียมเนื้อเจียมตัว เพราะบรรดาพรรคการเมืองนั้น มักเต็มไปด้วยบุคลากรที่ช่ำชองงานการเมือง แถมมากด้วยองค์ความรู้ ความรอบรู้ และประสบการณ์ เรียกได้ว่าเป็นกลุ่มคนที่แก่ดีกรีทำให้ใครก็ตามที่ครั้นจะกล้าหาญชาญชัยไปเสนอแนะก็อาจจะดูถูกดูแคลนกลับมาว่า รู้น้อยและประสบการณ์น้อย แล้วยังจะกล้ามาแนะนำ ทำนองสอนหนังสือสังฆราชเปล่าๆ
แต่อย่างไรก็ดี ในฐานะประชาชนพลเมืองเจ้าของประเทศ และเจ้าของพรรคการเมือง ทุกคนย่อมมีสิทธิ์ที่จะเรียกร้องแก่พรรคการเมืองได้
สี่ปีที่ผ่านมา รัฐบาลเฉพาะกิจที่เคยเป็นความหวังของประชาชน ก็ได้แสดงท่าทีว่าอยากจะครองอำนาจต่อไปนานๆ ก็เลยทำให้ประชาชนเริ่มหมดความหวังกับรัฐบาลทหาร จนต้องเริ่มกลับมาให้ความสนใจ และเริ่มจะฝากความหวังไว้กับพรรค และนักการเมืองผู้อาสาเข้ามารับใช้ประเทศชาติกันอีกครั้ง เรียกว่าต้องกลับมาใช้บริการเจ้าเดิม ทั้งๆ ที่ยังสองจิตสองใจว่าจะไหวหรือไม่ แต่ก็คงดีกว่าเสี่ยงกระเตงกันไปกับเผด็จการทหารและกลุ่มทหารการเมือง
เมื่อจะต้องอยู่ร่วมกันกับนักการเมืองอย่างเลี่ยงไม่ได้ และประชาชนได้ตระหนักในประเด็นปัญหาที่ทำให้การเมืองประชาธิปไตยไทยเราลุ่มๆ ดอนๆ มาร่วม85-86 ปีแล้ว และเห็นว่าการเมืองแบบทหารนำพามิใช่ทางออกของประเทศ ก็ควรจะต้องหันกลับมาเผชิญและข้องแวะ และร้องเรียนต่อพรรคการเมือง และเมื่อเป็นเช่นนั้นแล้วประชาชนพลเมืองก็มีสิทธิ์เต็มที่ที่จะบอกกล่าว บรรดาพรรคการเมืองก็จะต้องปรับปรุงตัวให้เป็นที่ไว้วางใจเสีย โดยการเปลี่ยนรูปโฉมตนเองอย่างใหญ่หลวงเพื่อความยั่งยืนของประชาธิปไตยแบบตัวแทนรัฐสภา
ณ ที่นี้ ในฐานะประชาชนไทยคนหนึ่ง จึงอยากขอเรียกร้องให้บรรดาพรรคการเมืองและนักการเมืองกระทำการดังนี้
1. ทยอย หรือเรียงกันออกมาเรียกร้องให้ฝ่ายรัฐบาลทหารกำหนดวันเลือกตั้งให้แน่ชัด
2. เรียกร้องให้รัฐบาลทหาร แต่บัดนี้เป็นแค่รัฐบาลรักษาการ จัดเตรียมการเลือกตั้ง และละเว้นการใช้จ่ายงบประมาณไปกับโครงการประชานิยม หรือประชารัฐและโครงการยักษ์ใหญ่ที่ผูกมัดประเทศไปเป็นสิบๆ ปี
3. แก้ไขรัฐธรรมนูญที่อำนวยให้ “รัฐราชการ” เป็นใหญ่ในแผ่นดิน เหนือรัฐบาลของประชาธิปไตยที่มาจากการเลือกตั้ง
4. ปฏิรูปการบริหารจัดการภายในพรรคของตนให้เป็นพรรคที่มีความเป็นสากล คือโปร่งใส และสมาชิกเป็นเจ้าของ และมีส่วนร่วมอย่างแท้จริง
5. การมีนโยบายบริหารประเทศที่ชอบด้วยกฎหมาย ที่ชอบด้วยความถูกต้องชอบธรรม ไร้ซึ่งผลประโยชน์แอบแฝง และหาคะแนน ด้วยการมอมเมาและบิดเบือนข้อเท็จจริง และบั่นทอนพละกำลังของประเทศ
6. ในกรณีการเข้าร่วมในรัฐบาลผสม ทุกพรรคร่วมจะต้องประสานนโยบาย และนโยบายรวมนั้นจะต้องได้รับความเห็นชอบจากบรรดาสมาชิก และฝ่ายการลงมติของรัฐสภา เป็นข้อผูกมัด และเป็นสัญญาประชาคม
7. เลิกประเพณีปฏิบัติของการเข้าร่วมในการแทรกตนเข้าไปเป็นรัฐบาลผสม โดยมีวัตถุประสงค์เพียงเพื่อแบ่ง “เค้ก” หรือแบ่งตำแหน่งทั้งในคณะรัฐบาลและในรัฐสภา หากจะต้องร่วมเป็นพรรคร่วมรัฐบาลก็เพราะ มีอุดมการณ์และนโยบายไปด้วยกันได้
8. บรรดารัฐมนตรีต้องไม่ยุ่งเกี่ยวกับกระบวนการจัดซื้อจัดจ้าง ไม่ยุ่งกับงบประมาณ แต่บริหารนโยบายและกำกับการปฏิบัติงานของฝ่ายข้าราชการเท่านั้น
9. เมื่อบริหารประเทศแล้ว การจะส่งเสริมและตัดสินใจใดๆ ในคณะรัฐบาล หรือในรัฐสภา จะต้องมาบอกกล่าวประชาชน เปิดเผยข้อมูลต่างๆ และให้ประชาชนแสดงความคิดเห็น และลงประชามติให้มากที่สุด
10. รัฐมนตรีใดๆ มีพฤติกรรมเป็นที่น่าสงสัย ทางพรรคต้องเอาออกจากตำแหน่งโดยทันที โดยไม่ต้องรอคำสั่งศาล หรืออ้างว่ากระบวนการยุติธรรมยังไม่สิ้นสุด
11. ทุกพรรคจะต้องมุ่งมั่นในเรื่องการกระจายอำนาจ หรือการกระจายความรับผิดชอบไปสู่ท้องถิ่นไปสู่ภาคเอกชนให้ดูแลวิชาชีพของตนเอง การส่งเสริมให้ชุมชนและองค์กรภาคประชาชนดูแลตนเองโดยเฉพาะในเรื่องสังคมและการรักษาทรัพยากรธรรมชาติให้มากที่สุด
12. พรรคต้องให้คำมั่นสัญญาว่า จะไม่แทรกแซงในกิจการยุติธรรม และสื่อ และจะไม่ใช้อำนาจเพื่อเล่นพรรคเล่นพวกในแวดวงราชการ
สิ่งเหล่านี้ ก็ขอเรียกร้องมาเพื่อให้พรรคการเมืองทุกพรรคได้ลงมือปฏิบัติ ซึ่งปฏิบัติกันเมื่อไหร่ ศรัทธาจากประชาชนก็จะเริ่มกลับมายังพรรคการเมือง เพราะทำตัวสมเป็นพรรคของประชาชน เมื่อนั้นประชาธิปไตยก็จะมีความยั่งยืน สังคมไทยก็ไปโลด
กษิต ภิรมย์
kasitfb@gmail.com
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี