รัฐบาลไทยชุดแล้วชุดเล่า โดยเฉพาะรัฐบาลชุด พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ซึ่งต่อด้วยรัฐบาลชุด นายเศรษฐา ทวีสินก็มักป่าวประกาศว่า ได้ออกไปเชิญชวนต่างประเทศให้เข้ามาลงทุนในประเทศไทยพร้อมกับมีการโฆษณาชวนเชื่อเกี่ยวกับเขตเศรษฐกิจพิเศษ การต้อนรับการลงทุนในเรื่องเทคโนโลยีชีวภาพ ในเรื่องเศรษฐกิจหมุนเวียน และเศรษฐกิจสีเขียว ไปจนถึงการลงทุนพัฒนาอุตสาหกรรมเทคโนโลยีสื่อสารสมัยใหม่ แถมยังตบท้ายด้วยตัวเลขเกี่ยวกับมูลค่าการลงทุนจากต่างประเทศภายใต้โครงการต่างๆ แต่มิได้มีการแจกแจงว่าเป็นโครงการอะไรบ้าง และมีรายละเอียดอย่างไร
ซึ่งในขณะเดียวกันนั้น รัฐบาลก็มีการป่าวประกาศวิสัยทัศน์เกี่ยวกับโครงการสะพานบนบก (Landbridge) เพื่อเชื่อมโยงทะเลอันดามันกับอ่าวไทย ไปจนถึงการเพิ่มและขยายท่าอากาศยานต่างๆ ล่าสุดก็คือโครงการท่าอากาศยานที่จังหวัดพะเยา และโครงการท่าเรือเรือสำราญที่เกาะสมุย แล้วก็มีการพูดจาซ้ำแล้วซ้ำเล่าเกี่ยวกับโครงการพัฒนาอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้า โดยเริ่มจากการลดภาษีศุลกากรนำเข้า เพื่อส่งเสริมการใช้ยานยนต์ไฟฟ้า แทนการพูดจากับบรรดาบริษัทยักษ์ใหญ่ยานยนต์ต่างประเทศ ที่ได้มาตั้งโรงงานอยู่ในประเทศไทยเป็นเวลาหลายสิบปีแล้วว่า จะมีแผนการลดและยกเลิกการผลิตรถยนต์ขับเคลื่อนด้วยเชื้อเพลิง น้ำมัน และแก๊ส กันเมื่อไหร่อย่างไร แล้วจะเริ่มผลิตยานยนต์ไฟฟ้ากันได้เมื่อไร และในการนี้ประเทศไทยจะต้องมีการเตรียมการเรื่องบุคลากร เพื่อรองรับอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้า และอุตสาหกรรมใหม่ๆ อื่นๆ อย่างไร
จัดได้ว่าฝ่ายรัฐบาลไทยชุดนี้เต็มไปด้วยวาทะ และความคาดหมาย โดยคิดเอาง่ายๆ ว่า การไปเชิญชวนต่างประเทศให้มาลงทุนและทำธุรกิจในประเทศไทย ก็คงเป็นการเพียงพอให้เขาเอาเงินมาลงทุน โดยมิต้องไปคำนึงถึงเรื่องการเตรียมความพร้อมต่างๆ ของไทย โดยเฉพาะทางด้านบุคลากร และการวิจัยค้นคว้า เพื่อเสริมสร้างองค์ความรู้และทักษะ รวมทั้งการบริหารจัดการแต่อย่างใด
ในการสนทนาของผมแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับเพื่อนต่างประเทศต่างก็มีความเห็นว่า ประเทศไทยจะต้องโหมโรงเป็นการใหญ่ในเรื่องการใช้ภาษาอังกฤษ เพราะภาษาอังกฤษเป็นภาษากลางของโลก และการใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีการสื่อสารสมัยใหม่ก็มีภาษาอังกฤษเป็นภาษากลางและการเป็นสมุดคู่มือ และการเป็นสื่อกลางการติดต่อระหว่างผู้คน ซึ่งรัฐบาลไทยก็ต้องมีการจัดระบบการจัดหาครูภาษาอังกฤษจากต่างประเทศ และยกเลิกบริษัทจัดหาครูต่างประเทศที่มุ่งค้ากำไร และเอารัดเอาเปรียบครูต่างประเทศอย่างไร้ความปรานีีในขณะเดียวกัน ก็ต้องมีระบบการเสริมสร้างทักษะของครูไทยที่สอนภาษาอังกฤษอย่างจริงจัง กว้างขวาง ก่อนที่จะดำเนินการให้โรงเรียนของไทยใช้ภาษาไทยและภาษาอังกฤษควบคู่กันไป
นอกจากนั้น สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมฯก็ต้องปรับตัวเองในการเป็นผู้วางแผนให้กับประเทศ ทั้งในเรื่องการรักษาสิ่งแวดล้อมธรรมชาติ และในเรื่ององค์ความรู้เกี่ยวกับระบบการสื่อสารสมัยใหม่ จะเรียกว่า คอมพิวเตอร์ ดิจิทัลหรือเอไอ ก็ตามที และในขณะเดียวกัน กระทรวงศึกษาธิการ และกระทรวงการอุดมศึกษาวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมก็จะต้องมีการปรับเปลี่ยนหลักสูตรการเรียนการสอนให้เหมาะสม นอกเหนือจากการพัฒนาครูบาอาจารย์ดังกล่าว
อีกเรื่องหนึ่งที่สังคมไทยจะต้องให้ความสนใจและเอาจริงเอาจังก็คือ เรื่องการส่งเสริมการเรียนการสอนที่เกี่ยวกับวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี วิศวกรรมศาสตร์ และคณิตศาสตร์ (STEM Education) ซึ่งก็แน่นอนก็ต้องเริ่มต้นที่การมีครูบาอาจารย์ที่เพียงพอและมีการส่งเสริมให้เด็ก เยาวชน คนหนุ่มคนสาวไม่เกรงกลัววิชาคณิตศาสตร์ และสนุกกับการเรียนคณิตศาสตร์ และวิชาวิทยาศาสตร์อีกด้วย ทั้งนี้ ก็รวมไปถึงระดับอาชีวศึกษา เพื่ออำนวยให้สังคมไทยมีบุคลากรทางด้านช่างเทคนิคที่เพียงพอที่จะรองรับกับอุตสาหกรรมและเทคโนโลยีสมัยใหม่
ทั้งนี้ ในระยะสั้นและกลาง ฝ่ายไทยคงผลิตบุคลากรได้ไม่ทันการจึงจำเป็นที่จะต้องเปิดให้บุคลากรต่างประเทศเข้ามาทำงานที่ประเทศไทย และประเทศหนึ่งที่มีบุคลากรมากมายและยังหางานทำไม่ได้หมดก็คือ ประเทศอินเดีย ก็เป็นเรื่องที่ฝ่ายรัฐบาลจะศึกษาความเป็นไปได้ และในขณะเดียวกันก็ปรับปรุงกฎเกณฑ์กติกาของบรรดาสภาวิชาชีพทั้งหลาย ให้มีความยืดหยุ่น มิใช่ขวางกั้นด้วยลัทธิชาตินิยม หรือการหวงแหนต่อสถานะของตนเองเป็นสำคัญ
ในขณะเดียวกัน ฝ่ายรัฐบาลไทยก็น่าจะประมวลข้อมูลเกี่ยวกับชาวต่างชาติที่อยู่ในสถานะผู้ลี้ภัยที่ต้องหลบซ่อน หรือไม่ก็ถูกจับกุม กุมขัง ในฐานะผู้เข้าเมืองผิดกฎหมาย ว่าในจำนวนนี้มีใครบ้างที่มีความรู้ความสามารถที่จะรับเข้ามาทำงานเพื่อร่วมพัฒนาประเทศไทยได้ ทั้งนี้ เงื่อนไขอย่างหนึ่งก็คือ การให้เขาเหล่านี้ได้รับการฝึกอบรมเกี่ยวกับประวัติศาสตร์และระบบการเมืองการปกครองของไทย และเรียนภาษาไทยไปด้วย
ความดีงามของเราชาวไทยก็คือ เป็นแหล่งพักพิงให้กับผู้ที่หนีร้อนมาพึ่งความร่มเย็น และสามารถปรับตัวเข้ากับวิถีชีวิตและขนบธรรมเนียมประเพณีของไทยได้อย่างไม่ยาก และได้ร่วมกันพัฒนาประเทศไทยด้วย
ก็หวังว่าทั้งพรรคการเมืองด้านฝ่ายรัฐบาลและฝ่ายค้าน จะได้มีเวลาทบทวนเรื่องพลังแรงงานทั้งหมด และแก้ไขปัญหาขาดแคลนคนได้ทั้งในระยะสั้นเฉพาะหน้า ระยะปานกลาง และระยะยาว ด้วยจิตใจที่เปิดกว้างและความเข้าอกเข้าใจในอุปสรรคและทางออก
กษิต ภิรมย์
kasitfb@gmail.com
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี