ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี ได้ส่งผลดีต่อปัจจัยหลายๆ ด้าน เช่น การใช้ชีวิตประจำวัน ที่มีความสะดวกสบายมากขึ้น ในทางกลับกันมันคือโอกาส ของคนร้ายที่ใช้เทคโนโลยีเป็นเครื่องมือเพื่อก่อเหตุ และปกปิดการกระทำผิด ไม่ให้ตำรวจสาวถึงได้ง่าย ดังนั้นคดีมีความซับซ้อน ซึ่งเตือนว่า ตำรวจ ต้องเท่าทันคนร้าย ยิ่งเฉพาะ ศูนย์สืบนครบาล แบบอย่างงานสืบสวน เพื่อรับมืออาชญากรรมยุค 4 จี
นักสืบยุคก่อตั้งศูนย์สืบอย่าง พ.ต.อ.นพศิลป์พูลสวัสดิ์ รอง ผบก.สส.บช.น. หรือ อาจารย์นพ นรต.รุ่น 46 จากประสบการณ์กว่า 21 ปี บนเส้นทางนักสืบได้ถ่ายทอดวิชาแก่นักสืบรุ่นหลัง ถึงการปรับตัว พัฒนาการทำงาน เพราะต้องทุ่มเททั้งกายและใจ เสียสละ มีความอดทนสูง มากกว่าสายงานอื่น โดยมองว่าโลกสมัยที่เปลี่ยนไปคนร้ายมีวิวัฒนาการล้ำมากขึ้น จึงเพิ่มความยากให้นักสืบเช่นกัน
พ.ต.อ.นพศิลป์ กล่าวว่า ตนรับราชการมา 25 ปี เห็นวงการตำรวจพัฒนาขึ้น หากจะพูดในแง่งานสืบสวน เราต้องใช้วิธีการสมัยใหม่ การสืบสวนสอบสวน รวบรวมพยานหลักฐาน ดำเนินคดีกับคนร้ายนั้น ในปัจจุบัน สิทธิมนุษยชน มีสูง ตำรวจต้องยึดหลักของกฎหมาย นิติวิทยาศาสตร์ คุณธรรม นิติธรรมเป็นตัวตั้ง ไม่ใช้ความรุนแรงกับผู้ต้องหา อำนวยความยุติธรรม ทั้งฝ่ายผู้เสียหาย
และผู้ต้องหา
“เราถูกสังคมตรวจสอบอยู่ตลอด ตำรวจเองต้องยืนบนพื้นฐานของข้อกฎหมายให้ได้ ใช้ความรู้ความสามารถที่ถูกต้อง เป็นนักสืบคิดอยู่อย่างเดียวว่า ทำอย่างไรให้คนร้ายถูกลงโทษ เหมือนกับเล่นสนุกเกอร์ ไม่ใช่ยิงแค่เฉพาะลูกแดง เหลือง เขียวลงหลุม เราต้องสาวให้ลูกดำลงหลุม และไม่ใช่เพียงจับแล้วแถลงข่าว ผลสุดท้ายศาลยกฟ้องคดีหลุด หลักฐานต้องยืนยันกับศาลได้ว่า นี้คือคนร้ายตัวจริง”
ตนพยายามช่วยพัฒนา บก.สส.บช.น. ในการเพิ่มเติมองค์ความรู้ และพัฒนาอุปกรณ์เครื่องมือ ให้ทันกับโลกสมัยใหม่ในยุค 4 จี มีการนำเทคโนโลยีมาใช้ในศูนย์ปฏิบัติการสั่งการ และควบคุมการสืบสวนคดีสำคัญ (CCOC) หรือ Command And Control Operation Canter เพื่อรวบรวมข้อมูลที่สำคัญ เมื่อเกิดเหตุอาชญากรรมขึ้น จะมีการประชุมร่วมกับ สืบ สน. สืบ บก.น.1-9 และสืบ บก.สส.บช.น.
โดยแบ่งหน้าที่ชัดเจนว่าสืบไหน ทำอะไรเพื่อไปในทิศทางเดียวกัน จะไม่มีภาพการ แก่งแย่ง ทำงาน เราพยายามสร้าง บก.สส.บช.น. เป็นต้นแบบงานสืบสวนของประเทศ สิ่งที่เราดำเนินการอยู่คือ 1. สร้าง เครื่องมือสืบสวนล่วงหน้า เช่น โรงพักต้องรู้ว่ากล้องวงจรปิดในเส้นทางที่คนร้ายจะก่อเหตุ อยู่ตรงไหนบ้าง รวมถึงร้านค้าร้านทอง ร้านเคมีภัณฑ์ ธนาคาร โรงแรม สถานบันเทิง เพื่อขอดูกล้องได้
และตรวจสอบว่าจุดเสี่ยงมีกี่แห่ง เมื่อเกิดเหตุก็ง่ายในการสืบสวน ทำให้สามารถรู้ว่าใครคือคนร้าย 2. รวบรวม แผนประทุษกรรมคนร้าย ซึ่งคนร้ายจะใช้วิธีการเดิมๆ สมมุติคนร้ายกลุ่มนี้มี 10 คน 5 คน ถูกจับไปหมดแล้ว อีก5 คน ที่เหลือก็ทำแบบนี้อีก ฉะนั้นเราต้องจำกัดกรอบ แผนประทุษกรรมนี้ให้ได้ เป็นนักสืบต้องพยายามคิดล่วงหน้า และคิดแบบโจรว่าถ้าเราเป็นโจร จะปกปิดความผิดอย่างไร
“ย้อนไปเมื่อปี 2550 เหตุวางระเบิดหน้าห้างเมเจอร์รัชโยธิน, บก.ทบ. และ ซ.ราชวิถี 24 ระยะเวลาผ่านไป10 ปี ผมยังตามจับไม่ได้ แต่พอมาจับนายวัฒนา ภุมเรศ มือวางระเบิด รพ.พระมงกุฎฯ ปี 2560 ภูมิใจว่าเราสามารถปิด 3 คดีที่ค้างคาได้ ซึ่งเป็นคนร้ายรายเดียวกัน ใช้แผนประทุษกรรมเดิม เป็นฐานข้อมูลที่ผมเก็บไว้แล้ว รู้สึกว่าสิ่งที่เก็บไว้เมื่อ 10 ปีก่อนมีประโยชน์กับงานสืบสวนครั้งนี้”
เทพนคร 5 กล่าวในฐานะอาจารย์ว่า อยากให้เป็น วิทยาทาน แก่นักสืบรุ่นหลัง และไม่ว่าอาชีพไหนก็ตาม ถ้าเป็นคนดีการทำงานก็จะดี สำหรับอาชีพนักสืบการมี ความเสียสละ ความอดทน ความคิดดี มีคุณธรรมผลที่ออกมารับรองคนร้ายที่จับได้คือคนผิด 100 เปอร์เซ็นต์แม้ลูกน้องไม่ได้อยู่ บก.สส.บช.น. ต่อเนื่อง 5-10 ปีตนพยายามพัฒนาคนที่เข้ามาใหม่ ให้มีความรู้เหมือนคนที่ออกไปแล้ว
ตนสร้างรูปแบบการทำงาน เหมือนเดินขึ้นบันไดขั้นที่ 1-10 จะไม่กระโดดข้ามขั้นไป เพราะการรวบรวมหลักฐาน ต้องเป็นไปตามแต่ละขั้นตอน ถ้าเราเริ่มจากขั้นที่ 10 แล้วมาขั้นที่ 1 หลักฐานจะถูกทำลายไปแล้ว เพราะฉะนั้นตนถือว่าทุกอย่าง ต้องเป็นไปตามขั้นตอน หากทำตามระบบได้ก็จะดี ตนเชื่อว่าธรรมะย่อมชนะอธรรม ทุกครั้งจะขอ สิ่งศักดิ์สิทธิ์ ให้จับคนร้ายได้ เพื่อให้ชาวบ้านปลอดภัย
“ผมพยายามพัฒนาตัวเองตลอดเวลา แต่คนร้ายก็พัฒนาตัวเองเหมือนกัน ผมไม่เคยคิดว่าตัวเองเก่ง เพราะจะทำให้เราล้มเหลว ต้องคิดว่าเราเป็นน้ำก้นแก้ว รอเติมเต็มความรู้ ประสบการณ์อยู่ตลอดเวลา จะทำให้เราไม่ลืมตัวตนถึงจะสามารถดำเนินชีวิตในงานสืบสวนต่อไปได้ ผมพยายามสร้างตัวแทนนักสืบ ด้วยการถ่ายทอดองค์ความรู้ที่มีด้วยจิตวิญญาณความเป็นนักสืบ” พ.ต.อ.นพศิลป์ กล่าว
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี