วันอังคาร ที่ 16 กันยายน พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / คอลัมน์ / คอลัมน์ / ลงมือสู้โกง โดย...วรรณภณ หอมจันทร์
ลงมือสู้โกง โดย...วรรณภณ หอมจันทร์

ลงมือสู้โกง โดย...วรรณภณ หอมจันทร์

วรรณภณ หอมจันทร์
วันพุธ ที่ 22 มีนาคม พ.ศ. 2566, 02.00 น.
จัดการวัฒนธรรมแบบรัฐแนวดิ่ง เมื่อการกระจายอำนาจเป็นเพียงแนวคิด

ดูทั้งหมด

  •  

ทำนุบำรุงวัฒนธรรม (Preserve Culture) ส่วนหนึ่งก็เพื่อดำรงอัตลักษณ์และคุณค่าการดำเนินวิถีชีวิตสืบต่อไป ทั้งที่เป็นรูปธรรมหรือนามธรรมโดยเกี่ยวข้องกับความเชื่อ ปรัชญา ธรรมชาติ วัฒนธรรมจึงได้จัดระเบียบวิถีชีวิตให้เกิดสำนึกร่วมต่อตนเอง ชุมชน และสิ่งแวดล้อม

แต่เมื่อรัฐตีความ “วัฒนธรรม” แตกต่างออกไป วัฒนธรรมจึงกลายเป็นมรดกหรือสิ่งของขึ้นหิ้ง ต้องดำรงอนุรักษ์เอาไว้ (Conservation) ซึ่งดูเหมือนว่าการอนุรักษ์ไว้จะมีข้อห้ามหลายอย่างจนกลายเป็นวัฒนธรรมแช่แข็ง กอปรด้วยรัฐพยายามมองวัฒนธรรมเป็นสิ่งที่สามารถจับต้องได้ วัฒนธรรมในมุมมองของรัฐจึงหมายถึงการอนุรักษ์ไว้ในรูปแบบของพิพิธภัณฑ์ หรือ ศูนย์การเรียนรู้ที่นอกจากสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจแล้ว ยังเป็นสัญลักษณ์แสดงความเป็นชาติด้วย


อาจกล่าวได้ว่า ทั้งการมีตัวตนอยู่ของชนชาติและการมีสำนึกความเจริญร่วมกัน คือความเข้าใจของรัฐที่พยายามเข้าไปจัดการการมีอยู่ของวัฒนธรรมแบบองค์รวม ความเข้าใจนี้เองจึงทำให้วัฒนธรรมท้องถิ่นบางอย่างหล่นหายไป เช่น เครื่องดนตรีท้องถิ่น เรื่องเล่านิทานพื้นบ้าน ความเชื่อท้องถิ่น ซึ่งในบางวิสัยได้เหมารวมไปกับความงมงาย หรือ ชาติพันธุ์วรรณนาที่ต่างออกไปจากกลุ่มหลัก

หากย้อนดูรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. 2540 ได้กำหนดให้รัฐมีหน้าที่จัดทำบริการสาธารณะไว้ว่า “องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นย่อมมีหน้าที่บำรุงรักษาศิลปะ จารีตประเพณี ภูมิปัญญาท้องถิ่น หรือวัฒนธรรมอันดีของท้องถิ่น” และมอบหมายให้องค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) เข้ามาดูแลรักษาวัฒนธรรมที่จับต้องได้เท่านั้น ได้แก่ โบราณสถาน พิพิธภัณฑ์ ศูนย์การเรียนรู้ส่วนวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ ให้เป็นดุลพินิจขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นว่าจะดำเนินการไปในทิศทางใด

ความเข้าใจนี้เองจึงทำให้รัฐพยายามจัดสรรงบประมาณโดยให้น้ำหนักไปที่สิ่งปลูกสร้าง สิ่งที่สามารถจับต้องได้ หรือการพัฒนาอัตลักษณ์ท้องถิ่นเพื่อการท่องเที่ยว เช่น ศูนย์โอท็อปที่ไม่ได้ให้ผู้คนมาขายของและก่อตั้งขึ้นมาก่อนการพัฒนาสินค้าติดตลาด พิพิธภัณฑ์ท้องถิ่นที่ปล่อยร้าง ละลายน้ำไปกับงบประมาณมากกว่า 100 ล้านบาท ศูนย์การเรียนรู้เชิงวัฒนธรรมและวิถีชีวิตท้องถิ่นที่ซอมซ่อ ทั้งข้อมูลไม่ทันสมัย สิ่งปลูกสร้างไม่ได้มาตรฐาน หรือสิ่งแสดงไม่ได้เชื่อมโยงกับผู้คนในชุมชน ตลอดจนการอนุรักษ์อัตลักษณ์คอยาวของชาวกะยันให้เป็นจุดเด่นเพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยว

แล้วรูปแบบการจัดการวัฒนธรรมของรัฐทำไมถึงเป็นเช่นนั้น ?

รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. 2540 มุ่งหวังว่าการกระจายอำนาจไปสู่การปกครองส่วนท้องถิ่น ลดอำนาจส่วนกลาง คืนอำนาจการบริหารจัดการแก่ประชาชน ส่วนหนึ่งก็เพื่อแบ่งเบาภาระการดูแลจากรัฐส่วนกลาง อีกส่วนหนึ่งเพราะเล็งเห็นว่าปัญหาภายในท้องถิ่นจะถูกแก้ไขได้ตรงจุดและรวดเร็วกว่า อันเนื่องจากการมอบบทบาทหน้าที่แก่ประชาชนในท้องถิ่นเข้ามาแก้ไขหรือร่วมพัฒนาท้องถิ่น เสริมความเข้มแข็งแก่ประชาชนบนแนวคิดการมีส่วนร่วมและมีประสิทธิภาพ

แต่จากงานศึกษาอำนาจหน้าที่ขององค์การบริหารส่วนตำบลในการจัดการวัฒนธรรม (ปคุณา กลมกลึง, 2565)
เขียนไว้ว่าพระราชบัญญัติกำหนดแผนและขั้นตอนการกระจายอำนาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น พ.ศ. 2542 มีขอบเขตกำหนดคำว่า “บำรุงรักษา” ไม่ชัดเจน และรัฐเองก็จัดตั้งหน่วยงานหรือองค์กรเอกชน เช่น สภาวัฒนธรรมตำบล สังกัดภายใต้กรมส่งเสริมวัฒนธรรม เข้ามาดูแลวัฒนธรรมท้องถิ่นด้วยเช่นกัน จึงเกิดความสับสนทั้งบทบาทหน้าที่และอำนาจการตัดสินใจที่ทับซ้อนกัน

ส่วนเรื่องงบประมาณท้องถิ่น รัฐจัดสรรการบำรุงรักษาวัฒนธรรมแบบเป็นรูปธรรม เช่น พิพิธภัณฑ์ สถานที่ท่องเที่ยว ศูนย์การเรียนรู้ อยู่ในงบประมาณอุดหนุนของรัฐที่สนับสนุนงานบริการสาธารณะ (สามารถทำความเข้าใจเรื่องงบประมาณท้องถิ่น
ได้ที่ https://projects.punchup.world/localbudgeting แต่ถึงแม้ว่าในแต่ละปี รัฐจะสนับสนุนงบอุดหนุนค่อนข้างมาก แต่ท้องถิ่นเองก็ไม่สามารถนำไปใช้ได้อย่างอิสระ เพราะรัฐได้กำหนดวัตถุประสงค์ในการใช้จ่ายอย่างชัดเจน โดยให้ความสำคัญไปที่การสนับสนุนเบี้ยเลี้ยงสวัสดิการประชาชน เงินเดือนครูท้องถิ่น เบี้ยเลี้ยงคนพิการ การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน การพัฒนาแหล่งท่องเที่ยว ฯลฯ

การจัดการทางวัฒนธรรมของรัฐ สะท้อนให้เห็นว่าวัฒนธรรมเป็นเพียงยุทธศาสตร์ในการสร้างความเข้มแข็ง สร้างค่านิยมอันดีงาม สร้างความสามัคคีของคนภายในชาติ ทั้งเป็นทุนขับเคลื่อนในการพัฒนาสังคม เศรษฐกิจ และคุณภาพชีวิต แต่ไม่ได้มีพื้นที่ให้ชุมชนหรือเจ้าของวัฒนธรรมนั้นเข้าไปมีส่วนร่วมในการจัดการทางวัฒนธรรมเหล่านั้นเลย กลับกลายเป็นรัฐได้เข้าไปบริหารจัดการเกือบ 100%

แล้วรัฐสามารถแก้ไขปัญหาเหล่านี้ได้อย่างไร?

ในมุมมองของผู้เขียน เห็นควรว่าการแก้ไขตัวบทกฎหมายทั้งในส่วนที่เกี่ยวข้องกับอำนาจหน้าที่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น การปลดล็อกงบประมาณท้องถิ่นที่สามารถบริหารงบประมาณได้อย่างอิสระ และเพิ่มการมีส่วนร่วมกับผู้มีส่วนได้ส่วนเสียในการจัดการวัฒนธรรมท้องถิ่นได้ 3 ประการ

ประการแรก นิยามบทบาทหน้าที่ของคำว่า “บำรุงรักษา” และกำหนดอำนาจองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นให้ชัดเจนและครอบคลุมบริบทในปัจจุบัน กำหนดให้องค์การบริหารส่วนตำบลมีบทบาทสำคัญเพื่อร่วมพัฒนาและบำรุงวัฒนธรรม (Preserve Culture) ท้องถิ่นบนความหลากหลายและมีส่วนร่วม กระจายอำนาจการตัดสินใจจากส่วนกลางไปยังท้องถิ่นเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพบริหารงานที่สอดคล้องกับบริบทพื้นที่มากขึ้น

ประการที่สอง เพิ่มขอบเขตในการจัดเก็บรายได้ท้องถิ่นให้เป็นอิสระจากส่วนกลางมากขึ้น จัดสรรการบำรุงรักษาวัฒนธรรมภายใต้บริการสาธารณะให้เป็นงบประมาณที่ท้องถิ่นจัดเก็บได้เอง มีกำหนดงบประมาณในส่วนพัฒนาหรือฟื้นฟูวัฒนธรรมทั้งนามธรรมและรูปธรรมให้เป็นไปตามพื้นที่นั้นๆ โดยดึงเอาประชาชนหรือชุมชนเข้ามามีส่วนช่วยออกแบบงบประมาณ และกระบวนการพัฒนาวัฒนธรรมอย่างเป็นพลวัต

ประการสุดท้าย ความร่วมมือขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่ดึงเอาความเห็นจากประชาชนหรือชุมชนเข้ามาช่วยออกแบบการจัดการวัฒนธรรม ตลอดจนนำบุคลากรที่มีความเข้าใจด้านการทำนุบำรุงวัฒนธรรม (Preserve Culture) เข้ามาช่วยออกแบบขั้นตอนและโครงสร้างการบริหารจัดการวัฒนธรรมอย่างเข้าใจ ทิ้งความเข้าใจเดิมว่าวัฒนธรรมเป็นมรดกล้ำค่า ควรค่าแก่การเก็บถนอมในรูปแบบพิพิธภัณฑ์ แต่ให้เข้าใจใหม่ว่าวัฒนธรรมคือความสัมพันธ์ระหว่างชีวิตและธรรมชาติ มีส่วนช่วยในการสร้างคุณค่าให้แก่กลุ่มชนสามารถอยู่ร่วมกันบนความหลากหลาย สามารถปรับปรุง ปรับเปลี่ยน และปรับตัวได้

ส่วนสุดท้ายนี้เองที่จะช่วยให้ลดปัญหาด้านบุคลากรในการบริหารจัดการวัฒนธรรมท้องถิ่น โดยใช้ศักยภาพจากเจ้าของวัฒนธรรมท้องถิ่นนั้นๆ ร่วมออกแบบนโยบาย ตลอดจนรูปแบบการสื่อสาร เพราะถือว่าเจ้าของวัฒนธรรมนั้นย่อมทราบดีอยู่แล้วและเพื่อพัฒนาบนฐานทรัพยากรทั้งคนและพื้นที่อย่างคุ้มค่า

 

วรรณภณ หอมจันทร์ HAND Social Enterprise

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

  •  
  • Breaking News
  • ข่าวยอดนิยม
  • คอลัมน์ฮิต
10:47 น. เตรียมเสนอ ‘ชัชชาติ’ ลงนามประกาศใช้งบปี’69 วงเงิน 9.2 หมื่นล้าน เริ่ม 1 ต.ค.นี้
10:44 น. โจมตีไม่หยุด! สื่อเขมรกล่าวหาไทยเป็น'โรงงานผลิตข้อมูลเท็จ'
10:36 น. เปิดภาพ‘ครอบครัวชินวัตร’ สวนทาง‘อิ๊งค์’บอกพ่อ-แม่ไม่เจอกันมา 17 ปี
10:31 น. กทม. ส่งตัวข้าราชการบรรจุใหม่คนพิการทดลองทำงานหน่วยงานต้นสังกัด
10:11 น. 'อนุสรณ์'ไม่คาดหวัง'อนุทิน' โยน'ปชน.'เลือกมาก็ไปรับผิดชอบ-ตรวจสอบกันเอง
ดูทั้งหมด
น้ำตาคลอทั้งโซเชียล! 'เกลือ'ตั้งคำถาม'ทำไมทหารพรานต้องใส่ชุดดำ' ได้คำตอบสุดสะเทือนใจ
'เพลง ชนม์ทิดา'ร่ายความในใจ หลังถูกจับตาความสัมพันธ์'เป๊ก เศรณี'
‘ในหลวง-พระราชินี’ เสด็จฯทอดพระเนตรการแสดงกายกรรมจากจีน
'เป๊ก-เพลง'ไปต่อหรือพอแค่นี้? วงในเมาท์แรงหลังจัดตั้งครม. รู้เรื่อง!
'พุทธ อภิวรรณ'ชวนจับตา!!! คาดมีข่าวใหญ่ คนดังมีลูกศิษย์ทั่วฟ้าเมืองไทย ถูกสอบโยงผู้หญิง-เงินบริจาค
ดูทั้งหมด
ในความต่างระหว่างสีผิว
นักการเมืองปล้นอำนาจประชาชนฉีกทิ้ง รธน.
บุคคลแนวหน้า : 16 กันยายน 2568
เปิดด่านเพื่อ...?
เตโชเบาะสะแก ซำแต
ดูทั้งหมด

เรื่องอื่นๆ ที่น่าสนใจ

โจมตีไม่หยุด! สื่อเขมรกล่าวหาไทยเป็น'โรงงานผลิตข้อมูลเท็จ'

'อนุสรณ์'ไม่คาดหวัง'อนุทิน' โยน'ปชน.'เลือกมาก็ไปรับผิดชอบ-ตรวจสอบกันเอง

เกือบพาไปตาย! หนุ่มขี่จยย.เที่ยวป่า จีพีเอสพาหลงสุดโหด-สภาพอิดโรย

แซะไม่พัก!‘จิรายุ’เหน็บครม.ต้องไม่ใช่‘เต้าหู้ยี้’ แนะ‘นายกฯ’ส่ง‘เท้ง’นั่งร้านน้ำเงินช่วยกรอง

ยิปซีพยากรณ์ดวงรายัน ประจำวันอังคาร 16 กันยายน 2568

'เจนี่'โพสต์แล้ว หลัง'เป้ย ปานวาด'ถอนตัวจากซีรีส์

  • Breaking News
  • เตรียมเสนอ ‘ชัชชาติ’ ลงนามประกาศใช้งบปี’69 วงเงิน 9.2 หมื่นล้าน เริ่ม 1 ต.ค.นี้ เตรียมเสนอ ‘ชัชชาติ’ ลงนามประกาศใช้งบปี’69 วงเงิน 9.2 หมื่นล้าน เริ่ม 1 ต.ค.นี้
  • โจมตีไม่หยุด! สื่อเขมรกล่าวหาไทยเป็น\'โรงงานผลิตข้อมูลเท็จ\' โจมตีไม่หยุด! สื่อเขมรกล่าวหาไทยเป็น'โรงงานผลิตข้อมูลเท็จ'
  • เปิดภาพ‘ครอบครัวชินวัตร’ สวนทาง‘อิ๊งค์’บอกพ่อ-แม่ไม่เจอกันมา 17 ปี เปิดภาพ‘ครอบครัวชินวัตร’ สวนทาง‘อิ๊งค์’บอกพ่อ-แม่ไม่เจอกันมา 17 ปี
  • กทม. ส่งตัวข้าราชการบรรจุใหม่คนพิการทดลองทำงานหน่วยงานต้นสังกัด กทม. ส่งตัวข้าราชการบรรจุใหม่คนพิการทดลองทำงานหน่วยงานต้นสังกัด
  • \'อนุสรณ์\'ไม่คาดหวัง\'อนุทิน\' โยน\'ปชน.\'เลือกมาก็ไปรับผิดชอบ-ตรวจสอบกันเอง 'อนุสรณ์'ไม่คาดหวัง'อนุทิน' โยน'ปชน.'เลือกมาก็ไปรับผิดชอบ-ตรวจสอบกันเอง
ดูทั้งหมด

คอลัมน์ที่เกี่ยวข้อง

จัดการวัฒนธรรมแบบรัฐแนวดิ่ง เมื่อการกระจายอำนาจเป็นเพียงแนวคิด

จัดการวัฒนธรรมแบบรัฐแนวดิ่ง เมื่อการกระจายอำนาจเป็นเพียงแนวคิด

22 มี.ค. 2566

เมื่อประชาชนถูกฟอกด้านความยั่งยืน จากกับดักการตลาดฉาบฉวย

เมื่อประชาชนถูกฟอกด้านความยั่งยืน จากกับดักการตลาดฉาบฉวย

14 ก.ย. 2565

หลักธรรมาภิบาล สู่ การจัดการป่าชุมชน

หลักธรรมาภิบาล สู่ การจัดการป่าชุมชน

27 เม.ย. 2565

เจตนาดี ถือว่ารับได้ : ทุจริตสีขาวที่คนไทยมองข้าม

เจตนาดี ถือว่ารับได้ : ทุจริตสีขาวที่คนไทยมองข้าม

1 ธ.ค. 2564

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นายปรเมษฐ์ ภู่โต
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2025 Naewna.com All right reserved