หลังเที่ยงคืนวันที่ 22 ธันวาคม พ.ศ. 2561 ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐอเมริกา ได้จัดของขวัญชิ้นสำคัญสำหรับคริสต์มาส ให้ชาวอเมริกัน ที่คงไม่มีใครอยากจะได้ คือ “Government Shutdown”
“Government Shutdown” หรือนิยมเรียกกันว่า “ชัตดาวน์” คือ การปิดหน่วยงานรัฐบาลชั่วคราว รัฐบาลยุติการจ่ายงบประมาณให้กับหน่วยงานภาครัฐต่างๆ ชั่วคราว ส่วนใหญ่จะเป็นหน่วยงานที่ไม่สำคัญต่อการดำรงชีวิตตามปกติของประชาชน แม้รัฐบาลมีเงินแต่ยังใช้ไม่ได้ เพราะรัฐสภายังไม่อนุมัติให้ใช้ บางครั้งการยุติการจ่ายงบประมาณ อาจเกิดจากการดำเนินนโยบายของรัฐแบบขาดดุล รายได้ของรัฐน้อยกว่ารายจ่าย เงินคงคลังเหลือไม่เพียงพอ มีหนี้สินเพิ่มขึ้นตลอดเวลา เพราะมีการกู้เพื่อชดเชยการขาดดุลในแต่ละรอบปีงบประมาณ ทั้งการกู้ไม่สามารถจะกระทำได้ตลอด เนื่องจากมีเพดานหนี้สาธารณะที่กฎหมายกำหนด การแก้ปัญหาอาจทำโดยการเข้าสู่กระบวนการขออนุมัติเพิ่มเพดานหนี้ในสภาคองเกรส
ผลกระทบจากการชัตดาวน์ทำให้เจ้าหน้าที่ในสังกัดรัฐบาลกลางร้อยละ 25 หรือราว 800,000 คน ไม่ได้รับเงินค่าจ้าง และกว่า 380,000 คน ต้องหยุดงานเป็นการชั่วคราว เจ้าหน้าที่ในหน่วยงานสำคัญที่ยังคงปฏิบัติหน้าที่ แต่ไม่ได้รับค่าจ้าง ได้แก่ เจ้าหน้าที่ตรวจสอบของสำนักงานรักษาความปลอดภัยด้านการขนส่งแห่งสหรัฐ (ทีเอสเอ) พัศดี เจ้าหน้าที่สำนักงานสอบสวนกลาง (เอฟบีไอ) และเจ้าหน้าที่ลาดตระเวนชายแดน
การชัตดาวน์ครั้งนี้มีสาเหตุมาจากวุฒิสภาลงความเห็นไม่อนุมัติร่างกฎหมายการจัดสรรงบประมาณปีค.ศ. 2019 (พ.ศ.2562) ของทรัมป์ ซึ่งครอบคลุมงบประมาณในการก่อสร้างกำแพงกั้นชายแดนสหรัฐ-เม็กซิโก ที่ทรัมป์เคยใช้ในการหาเสียง เมื่อครั้งเลือกตั้งประธานาธิบดี การชัตดาวน์ครั้งนี้ ยังถือเป็นครั้งแรกในรอบ 40 ปี ที่มีการชัตดาวน์ 3 ครั้ง ในช่วงเวลาเพียงปีเดียว ครั้งแรกเดือนมกราคม และครั้งที่สองเดือนกุมภาพันธ์
เมื่อวันที่ 11 ธันวาคม พ.ศ. 2561 สำนักข่าวซีเอ็นเอ็น (CNN) ได้มีการเผยแพร่คลิปที่แสดงถึงความขัดแย้งระหว่างพรรคริพับลิกัน และพรรคเดโมแครต คลิปนี้เป็นการปรึกษาหารือระหว่างแนนซี เพโลซี (Nancy Pelosi) สส.พรรคเดโมแครต (ปัจจุบันดำรงตำแหน่งประธานสภาผู้แทนราษฎรแห่งสหรัฐฯ) กับ ชัค ชูเมอร์ (Chuck Schumer) วุฒิสมาชิก ที่ดูเหมือนจะเป็นการทะเลาะกันมากกว่าการเจรจาหาทางออกร่วมกัน
ทรัมป์ได้ของบ 5,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือประมาณ 160,000 ล้านบาท ได้ย้ำว่า“วิธีเดียวที่จะยับยั้งการลักลอบขนส่งยาเสพติด ค้ามนุษย์ อาชญากร และอาชญากรรมต่างๆ ไม่ให้ทะลักเข้ามาประเทศ คือ การสร้างกำแพง” พรรคเดโมแครตได้ตอบโต้ว่า ถ้าจะให้งบคงให้ได้เพียง 1,300 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือประมาณ 41,000 ล้านบาท ทรัมป์ยืนกรานที่ 5,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ถ้าไม่ได้จะชัตดาวน์ ทั้งยังย้ำด้วยว่าการประกาศชัตดาวน์ ถือเป็นเรื่องที่น่าภูมิใจ โดยขีดเส้นตายวันที่ 21 ธันวาคม พ.ศ. 2561 จนในที่สุดทรัมป์ได้ประกาศชัตดาวน์ การประกาศชัตดาวน์ ทรัมป์ไม่คำนึงถึงระยะเวลา แม้จะเนิ่นนานเป็นปี ทรัมป์มุ่งที่จะเอางบ 5,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ
บางคนมองว่า การที่ทรัมป์ประกาศชัตดาวน์เป็นการสร้างฐานเสียงในการเลือกตั้งประธานาธิบดีครั้งต่อไป ทรัมป์ต้องการแสดงให้เห็นว่า พรรคเดโมแครตที่เป็นฝ่ายค้าน จงใจไม่ผ่านงบประมาณ สำหรับพรรคเดโมแครต พิจารณาเห็นว่า งบประมาณที่จะใช้ในการสร้างกำแพงเป็นงบที่สูงมาก ทั้งไม่มั่นใจว่า จะสามารถแก้ไขปัญหาได้อย่างแท้จริง
การจัดสรรงบประมาณ ประธานาธิบดีจะยื่นข้อเสนอต่อสภาคองเกรส ต่อมาคณะกรรมการจัดสรรงบประมาณของสภา ผู้แทนราษฎรและวุฒิสภา จะจัดสรรงบประมาณแยกกัน ร่างการจัดสรรงบประมาณสองฉบับนี้ จะเข้าสู่กระบวนการการเจรจาและลงมติในแต่ละสภา เมื่อสองสภาลงมติผ่านร่างการจัดสรรงบประมาณ คณะกรรมาธิการจะทำหน้าที่ไกล่เกลี่ยข้อแตกต่างของร่างที่แต่ละสภาได้จัดทำขึ้น ร่างงบประมาณฉบับที่ผ่านการไกล่เกลี่ยข้อแตกต่างจะนำเข้าสู่กระบวนการลงมติในแต่ละสภาอีกครั้ง หากร่างดังกล่าวผ่านการลงมติจากทั้งสองสภา ประธานาธิบดีจะลงนามประกาศเป็นกฎหมาย แต่ถ้าประธานาธิบดีไม่พอใจต่อร่างการจัดสรรงบประมาณของสภาคองเกรส ประธานาธิบดีสามารถยับยั้ง (Veto) ได้ แต่ถ้าสภาคองเกรสยังยืนกรานตามร่างงบประมาณของตนเอง สภาคองเกรสสามารถโต้กลับการยับยั้งของประธานาธิบดี โดยการลงมติ 2 ใน 3
งบประมาณแผ่นดิน ถือว่า มีความสำคัญต่อการบริหารประเทศ หน่วยงานต่างๆ ต้องมีการวางแผนการดำเนินการไว้ล่วงหน้า เพื่อที่รัฐจะได้จัดสรรงบประมาณตามความสำคัญอย่างทั่วถึง ตามความจำเป็น สอดคล้องตามแผนที่วางไว้ เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อการบริหารประเทศ ทั้งรัฐต้องพิจารณาถึงรายได้ที่รัฐได้รับ เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาการขาดดุล
การคัดค้านของพรรคเดโมแครต ถือเป็นเรื่องปกติ ใช่ว่าจะไม่ให้เลย เพียงแต่งบที่ทรัมป์ขอเป็นจำนวนที่สูงมาก จึงต้องต่อรอง แต่ทรัมป์กลับโต้ตอบด้วยการประกาศชัตดาวน์ เป็นเรื่องที่ไม่ควรเกิดขึ้น เพราะทำให้เจ้าหน้าที่ของรัฐ และประชาชนต่างได้รับความเดือดร้อน ในขณะที่ทุกคนมีความจำเป็นที่ต้องจับจ่ายซื้อของ
ย้อนมาพิจารณาถึงประเทศไทย จะเห็นว่า มีความแตกต่าง การจัดทำงบประมาณในไทย จะตราเป็น พ.ร.บ. งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ..... ในปีพ.ศ.2562 พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2562 ได้ตั้งเป็นจำนวนรวมทั้งสิ้น 3,000,000,000,000บาท โดยจะกำหนดเป็นตัวเลขที่ให้หน่วยงานแต่ละแห่งอย่างชัดเจน เช่น กระทรวงกลาโหม และหน่วยงานในกำกับ รวม 106,460,275,200 บาท กระทรวงการคลัง รวม 12,850,445,500 บาท ซึ่งต้องจัดเตรียมงบประมาณเสนอเป็นกฎหมายล่วงหน้าเป็นเวลาหลายเดือน แต่ถ้าในปีใดรัฐบาลมีความจำเป็นต้องใช้จ่ายเพิ่มเติม รัฐบาลจะจัดทำงบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติมในระหว่างปีขึ้น โดยการจัดทำเป็นร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติม เพื่อเสนอต่อรัฐสภาให้การอนุมัติ ดังนั้น จึงเป็นไปไม่ได้ที่ประเทศไทย จะประกาศชัตดาวน์อย่างกะทันหัน
คงไม่มีข้าราชการ เจ้าหน้าที่ และประชาชนประเทศใดอยากให้มีชัตดาวน์ เพราะตระหนักถึงความเดือดร้อน
แต่ผู้นำประเทศบางคนที่มีฐานะร่ำรวยคงไม่ได้คำนึงถึง เพราะไม่ได้รับผลกระทบใดๆ
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี