บริษัทหลักทรัพย์(บล.)ทิสโก้วิเคราะห์หุ้นบริษัททางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ หรือ BEM เราคาดกำไรสุทธิ 4Q18F ของ BEM จะเติบโต YoY แต่ลดลง QoQ จากปัจจัยฤดูกาล และสำหรับปี 2019F คาดจะเห็นการเติบโตอีกขั้นจากการเปิดส่วนต่อขยายสายสีน้ำเงิน ซึ่งจะทำให้จำนวนผู้โดยสารสำหรับทั้งเส้นทางเพิ่มราว 14% YoY มาอยู่ที่ 3.5 แสนเที่ยวคนต่อวัน และสำหรับโครงการรถไฟฟ้าความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน ปัจจุบันอยู่ระหว่างการเจรจาต่อรองและคาดจะลงนามสัญญาได้ในเดือนมกราคม 2019 และการต่อสัญญาสัมปทานทางด่วน เราคาดจะเห็นความชัดเจนของเงื่อนไขการต่อสัมปทานได้ในเดือนมกราคมนี้เช่นกัน
เรายังคงแนะนำ “ซื้อ” สำหรับ BEM จากความชัดเจนของรายได้ในธุรกิจทางด่วน และด้วยแนวโน้มที่ดีต่อเนื่องระหว่างปี 2019-20 จากการเปิดให้บริการรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินต่อขยาย
คาดกำไรเติบโต 15.3%
เราคาดกำไรสุทธิ 4Q18F อยู่ที่ 853 ล้านบาท เติบโต 15.3% YoY แต่ลดลง 4% QoQ โดยการเติบโต YoY คาดมาจากรายได้จากธุรกิจทางด่วนเติบโต 3.2% YoY ตามจำนวนรถใช้ทางด่วนที่เพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 1.242 ล้านคันต่อวัน (+2.4% YoY) และรายได้จากธุรกิจรถไฟฟ้าเติบโต 5.8% YoY จากจำนวนผู้โดยสารที่เพิ่มขึ้นมาที่ 318,214 เที่ยวคนต่อวัน (+5.6% YoY) ส่วนการลดลง QoQ มาจากจำนวนผู้โดยสารที่ลดลง ขณะค่าใช้จ่ายการขายและบริหารที่ปรับขึ้น 22% QoQ จากปัจจัยด้านฤดูกาลจากโดยปกติค่าใช้จ่ายจะสูงในไตรมาส 4 สำหรับทั้งปี 2018F เราคาด BEM จะมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 5,686 ล้านบาท (+82% YoY) จากมีกำไรพิเศษจากบันทึกกำไรจากการขายหุ้นไซยะบุรี, CKP และการปรับมูลค่าเงินลงทุนใน CKP สัดส่วนการถือหุ้น หากไม่รวมรายการดังกล่าว เราคาดกำไรจากการดำเนินงานอยู่ที่ 3,195 ล้านบาท เติบโต 5% YoY จากจำนวนรถใช้ทางด่วนที่ 1.230 ล้านเที่ยวคันต่อวัน (+1.3%YoY) และจำนวนผู้โดยสารที่เพิ่มขึ้นมาที่ 311,538 เที่ยวคนต่อวัน (+5.5% YoY)
เห็นความชัดเจนของรถไฟฟ้าความเร็วสูงฯ
สำหรับโครงการรถไฟฟ้าความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน ปัจจุบันอยู่ระหว่างพิจารณาข้อเสนอเพิ่มเติมและจะเจรจากับกลุ่ม CP อีกครั้ง โดยคาดว่าจะได้ข้อสรุปและเซ็นสัญญาได้ตามกรอบเดิมภายในเดือนมกราคม ล่าสุด ครม. ได้มีมติเวนคืนที่ดินที่เกี่ยวกับโครงการนี้แล้ว สำหรับการต่อสัญญาสัมปทานทางด่วน ซึ่งได้มติจากบอร์ดการทางพิเศษในแนวทางการต่อสัญญาสัมปทาน 37 ปีในช่วงปลายเดือนธันวาคมที่ผ่านมา ปัจจุบันอยู่ระหว่างการพิจารณาของทางบอร์ดฯ และจะนำเสนอต่อคณะกรรมการกำกับเพื่อขออนุมัติแนวทาง หลังจากบอร์ดฯ อนุมัติแล้วจะต้องนำเสนอไปยังกระทรวงคมนาคม คณะกรรมการ PPP อัยการสูงสุดและคณะรัฐมนตรีเพื่อขออนุมัติอีกครั้ง โครงการนี้เราคาดจะเห็นความชัดเจนของแนวทางในการต่อสัมปทานได้ในเดือนนี้เช่นกัน
แนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 10.70 บาท
เราแนะนำ “ซื้อ” สำหรับ BEM ด้วยราคาเป้าหมาย 10.70 บาทต่อหุ้นอย่างไรก็ตาม ประมาณการของเรายังไม่รวมโครงการรถไฟฟ้าความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบินเนื่องจากยังไม่มีรายละเอียดที่ชัดเจนสำหรับโครงการดังกล่าว ปัจจัยเสี่ยงมาจาก 1) การที่กระทรวงคมนาคมและคณะรัฐมนตรีไม่อนุมัติการต่อสัญญาสัมปทานทางด่วน 2) ความล่าช้าในการเปิดเส้นทางการเดินรถสำหรับสายสีน้ำเงินส่วนต่อขยาย
ที่มา : บล.ทิสโก้
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี